...สุขทุกข์ในมือเรา...

...สุขทุกข์ในมือเรา...


ชีวิตไม่อาจเป็นไปดังหวังได้หมด
 
เปรียบไปก็ไม่ต่างกับเกมกีฬาที่ต้องมีแพ้ชนะ ใครที่หวังชัยชนะไปเสียทุกครั้ง ก็เตรียมตัวทุกข์ใจไว้ได้เลย พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่า ให้เตรียมตัวเป็นผู้แพ้แต่อยู่ในมุ้งหามิได
ใครที่คิดเช่นนั้น ก็คงงอมืองอเท้าตั้งแต่แรก คนเราควรพากเพียรอย่างเต็มที่ แต่ใครเล่าที่จะกำหนดผลสำเร็จไปได้หมด คนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ฉันใด ในยามที่ชีวิตตกต่ำ บัณฑิตพึงรู้จักทำใจให้เป็นฉันนั้น แต่คนเรามักทำใจไม่ได้ เพราะคอยหวนคะนึงถึงวันคืนอันชื่นบาน สมัยยังมั่งมีศรีสุข หรือยังมีหน้ามีตา แต่อดีตนั้นมีไว้เพื่อเป็นฐานหนุนส่งให้เกิดปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคต ใครที่เอาอดีตมาเหนี่ยวรั้งตนไว้ไม่ให้ไปข้างหน้า
ก็เท่ากับเป็นนักโทษในกรงขังของตัวเอง

ชีวิตนั้นให้รางวัลก็แต่ผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน

เพราะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นของจริง จริงอยู่บ่อยครั้งปัจจุบันมีแต่เรื่องระทมทุกข์ อดีตนั้นน่าพิสมัยมากกว่า แต่ถ้าเราจะหวนไปหาอดีตบ้าง ก็ควรเป็นชั่วครู่ชั่วขณะ เพื่อชุบชูจิตใจให้ชื่นบานจะได้มีกำลังมาฟันฝ่าชีวิตในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าชีวิตจะสุขหรือทุกข์นั้น อยู่ที่เราเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพราะคนอื่นหรือเหตุอื่น เช่นเดียวกับความจนและความรวยนั้น อยู่ที่มุมมองของเรา คนไทยเป็นอันมากกำลังทุกข์ เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยากจนลง ตราบใดที่ยังจมอยู่กับความคิดแบบนี้ก็ไม่มีวันคลายทุกข์ไปได้ แต่เราลืมไปแล้วหรือว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเราตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าบางช่วงในอดีต ลองมองไปรอบตัว จะพบว่าข้าวของในบ้านหลายชิ้น เคยเป็นของสุดเอื้อมสมัยเรายังเด็ก หรือเป็นหนุ่มเป็นสาว
รถยนต์ แก้วแหวนเงินทอง วีดีโอ สเตอริโอ ซีดี ฯลฯ มองในแง่นี้เราไม่ได้จนลงแต่รวยขึ้นต่างหาก
 
ยิ่งถ้าเปรียบกับคนอีกมากมายตอนนี้

ไม่ว่าจะมองลงไปข้างล่างหรือมองขึ้นข้างบน เราก็ยังสบายกว่ามาก คนที่ถูกยึดรถไป สมควรแล้วที่จะคิดว่า ตัวเองโชคดีกว่าคนที่กิจการล้มละลาย ส่วนคนที่กิจการล้มละลาย ก็ยังนับว่าโชคดีกว่านักธุรกิจพันล้าน ที่มีหนี้ท่วมหัว แต่ถึงจะเป็นหนี้เป็นสินมากแค่ไหน
เราก็ยังมีสิทธิเลือกได้ว่าตัวเองจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ เพราะถึงที่สุดสุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์หรือหนี้สิน หากอยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวแย่แล้ว ๆ นรกก็เกิดขึ้นทันตาเห็น เรามีสิทธิที่จะคิดว่าตัวเองไม่แย่ แต่สิทธินี้เราจะใช้หรือไม่อยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง กระนั้นก็ตาม นอกจากวิธีคิดหรือมุมมองแล้ว คุณภาพจิตของเราก็สำคัญ
ถ้าเราเป็นคนรู้จักสันโดษ ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้มาหรือมีอยู่ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักแสวงหาความสงบในจิตใจ วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่จะฟันฝ่าไปได้

บทความธรรมะจาก
สมาคมคนน่ารัก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์