..โรคเครียด..

..โรคเครียด..

      ในชีวิตคนเรามักเต็มไปด้วยความเครียดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น จากความท้าทาย อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น และจากความกดดันที่ยากต่อการจัดการแก้ไข เมื่อเราเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มากๆ เราก็จะเกิดความเครียดขึ้น โดยความเครียดแบ่งออกเป็นสองระยะ คือ

      1. Acute Stress Disorder คือ โรคเครียดซึ่งเกิดภายในระยะเวลา 1 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ

      2. Posttraumatic Stress Disorder คืออาการที่เกิดนานมากกว่า 1 เดือน คนไข้ความรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์ที่กระทบ กระเทือนจิตใจอยู่ตลอด พยายามหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่กระตุ้นให้ระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว หลับยาก หงุดหงิด สมาธิไม่ดี ระวังระไวเกินปกติ สะดุ้งตกใจง่าย กระสับกระส่าย เป็นต้น หากอาการดังกล่าวเป็นมากจนมีความทุกข์ทรมาน และทำให้เกิดความบกพร่องในการงาน กิจกรรมด้านสังคม ก็ควรจะต้องมาขอรับคำปรึกษาและรักษาโดยจิตแพทย์ ตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่พบว่าทำให้เกิดอาการของโรคนี้ ได้แก่ การก่อวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในมหานครนิวยอร์ค การเกิดสึนามิในทะเลอันดามัน เป็นต้น ฉะนั้นความเครียดนี้เกิดได้จากทั้งมนุษย์ก่อขึ้นหรือจากภัยธรรมชาติ

      การศึกษาวิจัยพบว่าผู้ชายจะเกิดความเครียดมากไปน้อยจากเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ เห็นเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง อุบัติเหตุที่ร้ายแรงถึงชีวิต อัคคีภัย เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในขณะที่ผู้หญิงจะเกิดความเครียดจากน้อยไปมากตรงข้ามกับเพศชายและอาจเกิดความเครียดได้จากการถูกข่มขืน

  ความเครียดในคนที่เป็นโรคเครียด จะแตกต่างจากความเครียดปกติที่เกิดในคนทั่วๆไป คือจะเกิดอาการทางร่างกายซึ่งรบกวนหน้าที่การทำงานในชีวิตประจำวัน อาการที่พบบ่อยๆได้แก่ อาการปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดหลัง ปวดท้อง


อาการ

      อาการของความเครียดจะเกิดขึ้นในอวัยวะที่ถูกกำกับควบคุมโดยประสาทอัตโนมัติ ทำให้ประสาทอัตโนมัติเหล่านั้นทำงานมากขึ้นจนเกิดอาการต่างๆ เช่น


       ในระบบทางเดินอาหาร  กระเพาะอาหาร เกิดการหลั่งกรดมากผิดปกติ ทำให้กระอาหารเป็นแผล ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน ลำไส้ เกิดการหดตัวมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายบ่อย

        ในระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เต้นผิดจังหวะหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจตีบลง มีไขมันมาเกาะ ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง

        ระบบกล้ามเนื้อ  มีการหดตัว เกร็งแข็ง เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อต่างๆทั่วตัว 

ประสาทอัตโนมัติเป็นระบบที่ทำงานโดยไม่สามารถบังคับหรือสั่งการได้ หล่อเลี้ยงอวัยวะภายในทั้งหมด ได้แก่ หัวใจ ปอด ตับ ลำไส้ หลอดเลือด

ประสาทอัตโนมัติมีความเกี่ยวข้องกับสมอง และไขสันหลังเป็นอย่างยิ่ง ความเครียดจะกระตุ้นอารมณ์ในสมอง ซึ่งจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติให้ทำงานผ่านแนวเชื่อมโยงกับไขสันหลัง การทำงานนั้นอยู่นอกการควบคุมของจิตใจ


ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคเครียดหรือไม่

     โรคเครียดสามารถวินิจฉัยได้ง่าย เราทุกคนก็สามารถวินิจฉัยตัวเองได้ คือ เมื่อ มีอาการทางกายเกิดขึ้นสัมพันธ์กับความเครียด แต่ปัญหาใหญ่มักอยู่ที่ตัวเราเองไม่ค่อยยอมรับว่าเครียด ผมมีคนไข้โรคเครียดหลายรายที่ปฏิเสธอย่างแข็งขันในตอนแรกว่าไม่เครียด แต่เมื่อได้สัมภาษณ์ลงลึกก็มักจะพบว่ามีความเครียดจำนวนมากแฝงอยู่ เช่น ทำงานวันละ12-16 ชั่วโมง


การรักษา

   การรักษาใช้หลายๆวิธีรวมกัน ได้แก่


1. การรักษาโรคทางกายให้สงบ
 
   ตามอาการที่เกิด เช่น ใช้ยาลดกรดในกระเพาะรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร  ยาลดความดันโลหิตรักษาโรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ การรักษานี้เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ แต่ก็จำเป็นต้องทำก่อน เพื่อลดอาการต่างๆ ให้ผู้ป่วยสบายขึ้น มิฉะนั้นอาการต่างๆเหล่านั้นจะทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียดต่อเนื่อง เป็นวงจรไม่รู้จบ


2. การรักษาทางจิตใจ

   การผ่อนคลายความเครียด และทำใจให้สงบ   การแก้ไขปัญหาชีวิตให้สำเร็จ   มีการปรับตัวกับบุคคลอื่นได้ดี

   การออกกำลังกายให้แข็งแรง จิตใจเผชิญความเครียดได้ดี   มีการผ่อนคลาย งานอดิเรก พักผ่อนหย่อนใจ


3. การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม

   สถานที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย ไม่เครียด   การทำงานพอเหมาะ ไม่หนักมากเกินไป  มีเวลาพักผ่อน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์