10 ของแปลกที่ถูกตรวจจับในสนามบิน พกมาได้ไงเนี่ย !


สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการตรวจค้นสิ่งของก่อนขึ้นเครื่อง และไม่แปลกที่จะพบเจอสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ ที่ห้ามนำขึ้นเครื่องอยู่บ้าง แต่รับรองว่าเรื่องราวที่รวบรวมมาวันนี้ อาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับคุณ เพราะเว็บไซต์ listverse ได้นำเสนอ 10 ของแปลกที่โดนสนามบินตรวจจับ ที่ถึงจะแปลกแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของเหล่าเจ้าหน้าที่สนามบินไปได้ ซึ่งของบางอย่างก็น่าสงสัยว่าพกมาได้อย่างไรกันเนี่ย

10 ของแปลกที่ถูกตรวจจับในสนามบิน พกมาได้ไงเนี่ย !


1. ปืนไฟฟ้าลิปสติก

          ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐเวอร์มอนต์ ที่สนามบินเบอร์ลิงตัน หญิงสาวคนหนึ่งได้ถูกต้องสงสัยว่าพกพาอาวุธไม่ชอบมาพากล และเธอก็ได้ถูกรวบตัว และตรวจค้น ซึ่งในกระเป๋าของเธอก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากแท่งลิปสติก แต่ปรากฏว่าเป็นปืนไฟ้ฟ้าที่สามารถช็อตคนด้วยความแรง 3.5 แสนโวลต์ ซึ่งเธอได้ซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตในราคาเพียงแค่ 800 บาทเท่านั้น

2. หัวแมวน้ำ

          ในปี พ.ศ. 2547 ศาสตราจารย์ชีววิทยาท่านหนึ่งที่กำลังจะบินไปเดนเวอร์ รัฐโคโลลาโด ได้ถูกรวบตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติโลแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสิ่งที่เขาพกมาด้วยนั้นคือ หัวแมวน้ำ เขาอ้างว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่าแมวน้ำตัวนี้ แต่พบหัวแมวน้ำนี้ระหว่างที่ท่องเที่ยวแล้วจึงอยากนำกลับมาเพื่อให้นักเรียนของเขาได้ศึกษา ในท้ายที่สุดศาสตราจารย์คนนี้ได้ถูกปล่อยตัวเพราะว่า การพกหัวแมวน้ำขึ้นเครื่องไม่ได้ระบุไว้ว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาได้ขึ้นเครื่องแต่ก็ต้องทิ้งหัวแมวน้ำเอาไว้อยู่ดี


3. เฮโรอีนเคลือบช็อกโกแลต

          ในปี พ.ศ. 2552 เจ้าหน้าที่สนามบิน จอห์น เอฟ เคนเนดี้ แสดงความสามารถที่ถูกฝึกมาอย่างดีในการตรวจจับสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งไม่ชอบมาพากลในสนามบิน และผู้ต้องสงสัยอย่าง เอ็ดนี บราโซ่ (Edny Barzo) ที่พกช็อกโกแลตเฮโรอีนเข้ามาในสนามบิน ก็ไม่สามารถรอดออกไปได้เช่นกัน เนื่องจากปริมาณที่มากเกินความจำเป็นทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย และได้ค้นพบในที่สุดว่าแท้จริงแล้วช็อกโกแลตเหล่านี้คือเฮโรอีนจำนวนมากที่มีมูลค่าถึง 13,100,000 บาท

4. หนอนผีเสื้ออบแห้ง

          ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2556 ท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิก ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบหนอนผีเสื้ออบแห้งจำนวนมากมายในกระเป๋าจากชายคนหนึ่ง ที่เพิ่งกลับมาจากประเทศบูร์กินาฟาโซ ซึ่งภายในกระเป๋าท่องเที่ยวทั้ง 4 ใบ ของชายคนนี้ เต็มไปด้วยหนอนผีเสื้ออบแห้งมากมายกว่า 90 กิโลกรัม โดยชายคนนี้ให้เหตุผลว่าหนอนผีเสื้ออบแห้งนี้เป็นอาหารสุดโปรดที่เขาจำเป็นต้องกิน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไรนัก

5. แมลงฮาโลดาพัส (Hallodapus)

          ในปี พ.ศ. 2552 เจ้าหน้าศุลกากรที่สนามบิน นวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ได้ตรวจพบแมลงอย่างแมลงฮาโลดาพัส (Hallodapus) ศัตรูพืชชนิดหนึ่งที่ติดมากับใบโหระพาที่นำเข้ามาจากอิสราเอล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดต่อกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกรมวิชาการเกษตรก็แจ้งว่านี่่เป็นครั้งแรกที่เห็นแมลงชนิดนี้ในประเทศ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของสหรัฐฯ ทำให้ต้องมีการกักกันเพื่อไม่ให้เกิดการระบาด

6. กิ้งก่าปลอมเป็นหมวก

          ในปี พ.ศ. 2545 สาวน้อยวัย  17  ที่เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวในดูไบ ได้ถูกตรวจค้นที่สนามบินแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับหมวกใบน้อย ๆ แสนน่ารักที่เธอสวมใส่ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็คงจะคิดว่าเป็นหมวกธรรมดาทั่วไป แท้จริงแล้วหมวกใบนี้คือกิ้งก่าที่หายากชนิดหนึ่ง ที่เธอได้ซื้อมาจากตลาดแห่งหนึ่งในดูไบ คนที่ไม่สังเกตดี ๆ อาจจะเห็นว่าเป็นผ้าโพกหัว หรือหมวกทั่วไป แต่ไป ๆ มา ๆ เจ้าหมวกนี้ดันขยับได้และแลบลิ้นใส่นี่สิ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวเจ้ากิ้งก่าหายากนี้ไว้ และปล่อยให้หนูน้อยเดินทางปราศจากเจ้าเพื่อนยากตัวนี้

7. นกพิราบในกางเกง

          ในปี พ.ศ. 2552 อย่างที่ทราบกันว่าประเทศออสเตรเลียขึ้นชื่อในเรื่องของการห้ามลักลอบนำเข้าสัตว์ชนิดต่าง ๆ แล้วถ้าใครฝ่าฝืนต้องจำคุกเป็นเวลาถึง 16 ปี แต่ก็มีหลายคนที่พยายามจะฝืนกฎด้วยวิธีการลักลอบที่แปลกไม่เหมือนใคร อย่างเช่น ชายชาวออสซี่ที่เพิ่งกลับจากดูไบ ถูกจับในข้อหาลักลอบนำเข้านกพิราบที่เขาแอบซ่อนไว้ในกางเกงที่เขาใส่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย 






8. มีดสั้นในแปรงม้วนผม

          สนามบินเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ตรวจพบมีดสั้นที่มากับแปรงม้วนผมในกระเป๋าของหญิงสาวคนหนึ่ง และแน่นอนว่าถึงแม้ว่ามีดสั้นนี้จะซ่อนอยู่ในแปรงม้วนผมก็ไม่สามารถรอดพ้นเครื่องสแกนไปได้ โดยทางเจ้าหน้าที่สนามบินจำเป็นต้องยึดอุปกรณ์ม้วนผมชนิดนี้ และปล่อยตัวหญิงสาวให้ขึ้นเครื่องไป แต่แน่นอนหญิงสาวคงต้องหาซื้อแปรงม้วนผมที่ปกติ และเป็นอันตรายน้อยกว่านี้แล้วล่ะ

9. รูปปั้นแมวฝิ่น

          ในเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2554 ที่ท่าอากาศยานเจเฟเค นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีสิ่งของที่มีจากประเทศไทยซึ่งก็คือ รูปปั้นแมว ที่ดูภายนอกก็เหมือนรูปปั้นแมวธรรมดาทั่วไป แต่ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตรวงสิ่งของเข้าเมืองสงสัยถึงความผิดปกติของแมวรูปปั้นนี่ก็คือ ที่อยู่ที่จะส่งไปนั้นไม่สามารถตามรอยได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นจนพบว่าที่จริงแล้วเจ้ารูปปั้นแมวตัวนี้ได้ขนฝิ่นไว้มากมายที่มีมูลค่ามากกว่า 294,750,000 บาท

10. ศพคนตาย 

          และสิ่งสุดท้ายที่แปลกที่เจ้าหน้าที่สนามบินจับได้ก็คงจะเป็นศพ ซึ่งในปี พ.ศ. 2553 หญิงเยอรมัน 2 คนพยายามที่จะบินจาก ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ กลับไปบ้านเกิดที่ เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี พร้อมกับศพของสามีเธอ มันก็คงจะไม่แปลกเท่าไรถ้าหญิงชราและลูกสาวของเธอ ขนศพขึ้นเครื่องแบบปกติทั่วไป หญิงชราคนนี้ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการขนศพขึ้นเครื่อง ทำให้เธอได้นำสามีที่เสียชีวิตไปแล้วของเธอมานั่งบนรถเข็น ซึ่งครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่เห็นก็นึกแปลกใจถึงลักษณะท่าทางการนั่งที่แปลกออกไป จึงถามหญิงชราว่าสามีเป็นอะไรรึเปล่า แต่หญิงชราบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เชื่อจึงเดินไปแตะตัว ทำให้ทราบว่าชายชรานี้ที่จริงก็คือศพ ท้ายที่สุดหญิงชราก็ต้องยอมจ่ายค่าขนศพขึ้นเครื่อง

          เป็นอย่างไรกันบ้างกับสิ่งของแปลก ๆ เหล่านี้ที่เจอตรวจพบที่สนามบิน บางอย่างก็ทำเอาอึ้งไปเลยใช่ไหมคะ แน่นอนว่า 10 ของแปลกเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถรอดสายตาอันเฉียบคมของเหล่าเจ้าหน้าที่สนามบินไปได้ ดังนั้นจะพกอะไรขึ้นเครื่องละก็ อย่าพิสดารมากเกินไปนะ



ที่มา :: Kapook
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก listverse 

10 ของแปลกที่ถูกตรวจจับในสนามบิน พกมาได้ไงเนี่ย !

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์