10 อันดับกีต้าร์แพง(โครต!!)


The World's Most Valuable Guitars ! กีตาร์ที่แพง... ที่สุดในโลก


 


 


 


 


 


 


10. Fender Jag-Stang (Kurt Cobain)

ราคา $ 190,000 (7,600,000 Baht)





 







Fender Jag-Stang ในปี 1993 เป็นส่วนผสมของรุ่น Jaguar และรุ่น Mustang
และเป็นตัวที่เขาใช้เล่นในช่วงต้นปี 1994


... ต่อมาเขายกกีตาร์ตัวนี้ให้ Michael Stipe แห่งวง " REM "
และ Michael ยังใช้ใน Music Video ของวง ในเพลง " What's the Frequency Kenneth "


 


 


9. Homemade Red Special (Brian May)

ราคา $ 500,000 (20,000,000 Baht)





 







Brian May ออกแบบและผลิตกีตาร์ Red Special ของเขา ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น และมันก็เป็นกีตาร์ตัวหลักของเขาแต่นั้นมา
May และพ่อของเขา เริ่มทำกีตาร์ตัวนี้ในปี 1962 และมันก็เสร็จสมบูรณ์ในเวลาสองปีต่อมา...


" ตอนกีตาร์เสร็จสมบูรณ์ ผมอายุ 17 ปี ผมอยากได้กีตาร์ที่เสียงเพราะและซาวน์อุ่น แต่งานที่ออกมาภายนอกจะต้องดีด้วย...
เราพยายามจะออกแบบกีตาร์ Solidbody ที่มีคุณสมบัติแบบ Hollowbody อยู่ด้วย โดยเฉพาะเสียง feedback ที่พอดี "


Red Special เป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ในแง่การสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง
สปริงตรงคันโยก ก็เอามาจากขาตั้งมอร์เตอร์ไซค์...
Body ไม้โอ๊ค ก็เอามาจากหิ้งเตาผิงอายุ 500 ปี...
คอกีตาร์มีขนาดใหญ่ ทำให้เกิด warm sustain อันเป็นเอกลักษณ์ของ Special
ระบบสวิตซ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง May ออกแบบให้กับตัวนี้ มี PickUp Single Coil ยี่ห้อ Burns สามตัว
PickUp แต่ละตัวมีสวิตซ์ on/off ของตัวเอง และสวิตซ์ เพิ่ม-ลด ระดับ
ทำให้สร้างโทรเสียงได้มากมายหลายแบบ...

" จะด้วยพรใดในสากลโลกก็ตาม " May กล่าวถึงกีตาร์ของเขา...
" มันจะต้องอยู่ยั่งยืน พอๆกับชีวิตผมนี่แหล่ะ "


 


 


8. Number One Strat (Stevie Ray Vaughan)

ราคา $ 600,000 (24,000,000 Baht)





 







ชื่อ Number One เป็นตัวที่บ่งบอกถึงตัว Stevie มากที่สุด
" Number One " Stratocaster ของ Stevie Ray Vaughan
เป็นกีตาร์ที่ประกอบจาก Vintage Strats มากกว่าหนึ่งตัว ส่วนประกอบหลักของกีตาร์ตัวนี้ คือ
body สี sunburst ปี '63 และ คอปี '63 เช่นกัน แต่คนละตัว
และ Stevie ได้ติด bridge แบบกีตาร์คนถนัดซ้าย เพื่อให้คันโยก ได้อารมณ์แบบ Hendrix




ในวันที่ 9 กรกฎาคม 1990 ก่อนโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตของ Vaughan เพียงหนึ่งสับดาห์
คอกีตาร์ Strat ตัวนี้ก็พัง ด้วยอุบัติเหตุบนเวที จากนั้นมันก็ถูกเอากลับมาต่อกันเหมือนเดิม
และในสภาพที่ฟื้นคืนชีพใหม่ของกีตาร์ตัวนี้ ก็มีชีวิตยืนยาว... กว่าชายที่ทำให้มันเป็น " Number One "


 


7. Frankenstein Original Homemade (Edward Van Halen)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)





 







กีตาร์ตัวนี้สร้างสรรค์ riff ต่างๆมากมาย เจ้าของผู้โด่งดังใช้เงินแลกมาเพียง 130 เหรียญ เท่านั้น !
Edward Van Halen ซื้อ body ไม้ Ash และคอ ไม้ Maple
เอามาจาก Lina Ellsworth ผู้ผลิตและเป็นเจ้าของ Van Halen นั่งรำลึกอดีต "ผมให้ตังค์คนขายไป 50 เหรียญ สำหรับ body
ส่วน คอ ก็ได้มาในราคา 80 เหรียญ ผมก็เอาสองชิ้นนี้แหล่ะ มาประกอบกัน ! "

ตอนที่ Van Halen ได้ body มาใหม่ๆ มันเป็นช่องใส่ PickUp Single Coil 3 ตัว
Van Halen ก็ได้ทำการเจาะช่อง เพื่อจะใส่ humbucker ที่ด้านใกล้ bridge ซึ่งเขาได้ใส่ P.A.F.
ที่เอามาจาก ES-335 ปี 1961 ส่วน PickUp ด้านคอกีตาร์ ก็แยกระบบออกไปอย่างสิ้นเชิง

กีตาร์ตัวนี้ เป็นตัวหลักของ Van Halen ในช่วงอัลบัมแรกๆ และการทัวร์ต่างๆ ในช่วงระหว่างการทัวร์ครั้งที่ 2
ของวง Van Halen เปลี่ยน Tremolo ไปเป็น Floyd Rose ที่เป็น prototype ในตอนนั้น
บางครั้งที่ Eddie มันส์บนเวทีมากไปหน่อย จนทำให้คอ Ellsworth ชำรุดเสียหาย
ซึ่งเขาก็ซ่อมโดยเอา " อะไรก็ได้ ที่ใช้ได้ " มาใส่แทน ภาพปุ่ม tone ที่เห็นนี้ เป็นของดั้งเดิม
เพราะปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้ว...


 


 


6. Blackie (Eric Clapton)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)


 







และFender Stratocaster ที่เขาซื้อมาในปี 1970 เป็นตัวเก่งที่เขาใช้เล่นในช่วง 1974 - 1985
และเป็นตัวที่ใช้อัดเสียง เพลงอมตะ
Cocain และ Wonderful Tonight

ปัจจุบันเจ้าของคือ Guitar Center ที่ประมูลมาได้ และนำเงินที่ได้จากการประมูล ไปใช้ในการกุศล


 


5. Strat #001 (David Gilmour)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)





 







Fender Stratocaster เป็นตัวที่ Stamp #001 แต่ไม่ใช่ตัวแรกจริงๆของ Fender รุ่นนี้
แต่คงเป็นเหตุผลพิเศษบางอย่าง ที่พิมพ์เลขนี้

กีตาร์ตัวนี้ เป็นของ
David Gilmour มือกีตาร์ Pink Floyd มาโดยตลอด...
ไม่นานมานี้ เขาได้เอากีตาร์ตัวนี้ขึ้นเล่นที่ง่าน Fender Strat Pack Anniversary 2004


 


4. ES-1275 Doubleneck (Jimmy Page)

ราคา $ 1,500,000 (60,000,000 Baht)





 







Gibson ES-1275 สีแดงเชอร์รี่ตัวนี้ ยังคงถูกใช้โดยผู้สร้างชื่อให้ตัวมัน คือ Jimmy Page มาถึงทุกวันนี้
" ผมได้กีตาร์ doubleneck นี้มา หลังจากบันทึกเพลง
"Stairway to Heaven" " Page กล่าว...
" เป็นเพราะผมต้องการกีตาร์ที่ต่างกัน ในการแสดงสด " ความดังฉุดไม่อยู่ของเพลง "Stairway to Heaven"


บันทึกเสียงโดย Page ด้วย Fender Telecaster ในช่วง Solo
และ Fender Electric XII ในช่วง section 12 สาย ...
ซึ่งทำให้การแสดงสดบนเวทีมีความพิเศษขึ้น

เมื่อมาดูรายละเอียดของ ES-1275 ซึ่งเป็น doubleneck version ของรุ่น SG อันโด่งดังของ Gibson
ซึ่ง Page ได้เป็นคนสั่งทำโดยตรงจากโรงงานของ Gibson ในช่วงปี 1971-1972
รุ่นนี้อยู่ในแค็ตตาล็อก Gibson ธรรมดาๆ จากปี 1962-1966 แต่ก็ไม่เป็นเรื่องยากนัก ที่ Page ได้ทำการสั่งแบบพิเศษ
แฟนพันธุ์แท้ของ Page อาจสังเกตุเห็น doubleneck นี้ในภาพคอนเสิร์ตของ
Led Zeppelin
" The Song Remains the Same "


 


3. Les Paul 1958 (Jimmy Page)

ราคา $ 1,900,000 (76,000,000 Baht)





 







Gibson Les Paul ปี 1958 เป็นตัวที่ใช้อัด Riff กีตาร์ยอดฮิตระดับโลก อย่างเพลง Rock&Roll, Black Dog
และเป็นตัวที่ใช้เล่นคอนเสิร์ตบ่อยมากๆในช่วงยุค '70


 


2. Hofner Bass (Paul McCartney)

ราคา $ 3,500,000 (140,000,000 Baht)





 







Bass ตัวประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี เป็นเบสมือซ้าย ของ Hofner ทรง Violin
เป็นตัวที่ใช้ทั้งอัดเสียง และ เล่นอยู่บ่อยมาก กับวง The Beatles มาตลอด

จะเห็นปรากฏอยู่ในภาพการแสดงในยุคนั้น และ ภาพนิ่งต่างๆมากมายกับเบสตัวนี้


 


1. Woodstock 1968 Strat (Jimi Hendrix)

ราคา $ 5,500,000 (200,000,000 Baht)





 







เป็นกีตาร์ตัว ประวัติศาสตร์ ในวงการ Rock History
และเป็นสัญลักษณ์ในยุคของเขาเลย เป็นกีตาร์ตัวที่แพงที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีมา
ถูกขายครั้งแรก ในปี 1990 ราคา
$ 320,760.-
ต่อมา... ในปี 1993 ราคา & 1,132,500.-

และในปัจจุบัน เป็นของอภิมหาเศรษฐี จาก Microsoft - Paul Allen


 





อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1426865#ixzz1LjwnHznV ขอบคุณความรู้ดีๆ เด็กดี.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์