10 เหตุการณ์สะเทือนโลก สูญเสียและยินดีปี 2556


10 เหตุการณ์สะเทือนโลก สูญเสียและยินดีปี 2556


2556 เป็นอีกปีที่มีเหตุการณ์ช็อกโลกและน่ายินดีเกิดขึ้นมากมาย  รวบรวมความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ 10 เหตุการณ์ ดังนี้

1.ประมุขคริสตจักรองค์แรกจากอเมริกาใต้ 

หลังพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 สละสมณศักดิ์ในเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 13 มีนาคม พระคาร์ดินัล จอร์เก้ มาริโอ เบอร์โกกลิโอ วัย 76 ปี จากประเทศอาร์เจนตินา ได้รับเลือกให้เป็นประมุของค์ใหม่ของคริสตศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก นับเป็นพระสันตปาปาลำดับที่ 266 และเป็นองค์แรกจากทวีปอเมริกาใต้ โดยเลือกใช้พระนาม "ฟรานซิส"

2.ระเบิดบอสตันมาราธอน

 การแข่งขันบอสตันมาราธอน ครั้งที่ 117 ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการมาราธอนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในวันที่ 15 เมษายน ที่มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม จากเหตุระเบิด 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริเวณเส้นชัย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บนับร้อย ซึ่งจากการสืบสวนร่วมกันของหลายหน่วยงานสหรัฐพบว่าเป็นฝีมือของนายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ วัย 26 ปี และนายโชการ์ ซาร์นาเยฟ วัย 19 ปี สองพี่น้องเชื้อสายเชเชน นำไปสู่การปิดเมืองตามล่าผู้ต้องสงสัย โดยรายแรกเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ส่วนรายหลังบาดเจ็บสาหัสและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในศาล

3.โรงงานเสื้อผ้าบังกลาเทศพังถล่ม 

24 เมษายน อาคารรานา พลาซ่า สูง 8 ชั้น ชานกรุงธากา เมืองหลวงบังกลาเทศ ซึ่งถูกใช้เป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า เกิดพังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตพันกว่าราย นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าของโลก และยังกดดันให้แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังหลายค่าย อย่างเบเนตอง เอชแอนด์เอ็ม แก็ป วอล-มาร์ต ซึ่งใช้บังกลาเทศเป็นฐานการผลิต ต้องวางมาตรฐานใหม่ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยที่โรงงานรับจ้างผลิต และเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำให้กับแรงงานบังกลาเทศ

4.สอดแนมบันลือโลก

 ต้นเดือนมิถุนายน นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) ออกมาแฉโครงการ "ปริซึม" ซึ่งเป็นแผนสอดแนมผ่านการดักฟังโทรศัพท์ เจาะอีเมล์ของพลเมืองอเมริกันและคนทั่วโลก การเปิดโปงของสโนว์เดนกระทบสายสัมพันธ์ของสหรัฐกับพันธมิตรใกล้ชิดหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี บราซิล หลังมีการเปิดเผยว่าสหรัฐดักฟังโทรศัพท์ของผู้นำหลายประเทศ ส่วนสหภาพยุโรปก็เตรียมชงกฎหมายให้ผู้ให้บริการอีเมล์ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในยุโรป เพื่อป้องดันการถูกเจาะข้อมูล

5.รัฐประหารในอียิปต์ 

นายโมฮาเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งเสรีคนแรกของอียิปต์ ถูกฝ่ายทหารโค่นอำนาจในวันที่ 3 กรกฎาคม โดยอ้างว่ามอร์ซีรวมถึงพรรคภราดรภาพมุสลิมซึ่งเป็นกลุ่มเคร่งศาสนา พยายามรวบอำนาจและกดขี่ประชาชนที่เห็นต่าง ทั้งยังพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนอียิปต์ให้เป็นสาธารณรัฐอิสลาม แต่การรัฐประหารครั้งนี้ ทำให้ผู้สนับสนุนนายมอร์ซีออกมาชุมนุมประท้วง และต่อมารัฐบาลรักษาการที่หนุนหลังโดยทหารตัดสินใจใช้กำลังเข้าปราบปรามจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้สหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรของอียิปต์และถือหางฝ่ายตรงข้ามของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมเริ่มมีท่าทีเย็นชาและถอนเงินช่วยเหลือ

6.ประสูติกาลเจ้าชายองค์น้อยแคทเธอรีน ดัชเชส แห่งเคมบริดจ์

 และพระชายาในเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 ของราชวงศ์อังกฤษ มีพระประสูติกาลพระโอรสในวันที่ 22 กรกฎาคม สร้างความยินดีให้กับชาวอังกฤษและเครือจักรภพ ตลอดจนผู้คนทั่วโลกที่ติดตามข่าว เจ้าชายพระองค์น้อยมีพระนามว่า "จอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์" ทรงอยู่ในลำดับที่ 3 ของการสืบสันตติวงศ์ รองจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส พระอัยกา และเจ้าชายวิลเลียม พระบิดา

7.อาวุธเคมีในซีเรีย 

ท่ามกลางสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปี วันที่ 21 สิงหาคม มีการใช้อาวุธเคมีแถบชานกรุงดามัสกัส เมืองหลวง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนจนถึงหลักพัน โดยนานาชาติที่นำโดยสหรัฐกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลซีเรียที่ต้องการสังหารพลเรือนที่เชื่อว่าเป็นพวกเดียวกับกลุ่มกบฏ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา พยายามเรียกเสียงสนับสนุนในเวทีสหประชาชาติให้ใช้กำลังทหารโจมตีรัฐบาลซีเรียเป็นการลงโทษ แต่ 2 สมาชิกถาวรของยูเอ็นอย่างรัสเซียและจีนซึ่งเป็นพันธมิตรแนบแน่นของซีเรียคัดค้าน สุดท้ายประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน หาทางออกให้ทั้งสองฝ่ายด้วยการเสนอให้ซีเรียเข้าเป็นสมาชิกองค์การต่อต้านการใช้อาวุธเคมี (OPCW) พร้อมให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเข้าไปตรวจสอบและทำลายอาวุธดังกล่าวที่ยังเหลืออยู่ในซีเรีย

8.สหรัฐชัตดาวน์ 

ความขัดแย้งเรื่องงบประมาณระหว่างพรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครต ทำให้รัฐสภาสหรัฐไม่สามารถผ่านแผนงบประมาณ 2557 ได้ทันกำหนดเส้นตาย 1 ตุลาคม เป็นเหตุให้หน่วยงานรัฐบาลกลางเบิกจ่ายงบฯไม่ได้ และบางส่วนต้องปิดทำการเป็นเวลา 16 วัน เจ้าหน้าที่รัฐราว 8 แสนคนต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง เหตุการณ์นี้สั่นคลอนเสถียรภาพและความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างมาก 

9.ซูเปอร์ไต้ฝุ่นถล่มฟิลิปปินส์ 

พายุไห่เยี่ยน พายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในโลก พัดถล่มเกาะซามาร์ เลย์เต เซบู และภาคกลางของฟิลิปปินส์ในวันที่ 8 พฤศจิกายน สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน ประชาชน สาธารณูปโภคพื้นฐาน และพื้นที่เกษตรกรรม มีผู้เสียชีวิตราว 5 พันคน สูญหายนับหมื่นคน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 3 ล้านคน บลูมเบิร์กประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

10.ปิดตำนานรัฐบุรุษแอฟริกาใต้ 

โลกต้องสูญเสียนักเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวและอดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ "เนลสัน แมนเดลา" เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ในวัย 95 ปี แมนเดลาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศระหว่างปี 2537-2542 ก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มสมัชชาแห่งชาติแอฟริกัน (ANC) ที่ต่อสู้กับรัฐบาลคนผิวขาวที่ใช้นโยบายแบ่งแยกสีผิวอย่างเข้มงวด ก่อนถูกจำคุกเป็นเวลา 27 ปี และได้รับการปล่อยตัวในปี 2533 เขายังเป็นเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปี 2536 ด้วย

prachachat.net


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์