คุยกับลูกในท้อง

คุยกับลูกในท้อง


เป็นธรรมดาค่ะ เมื่อเป็นคุณแม่มือใหม่ทั้งที่ก็ยอมต้องสรรหาสารพัดวิธีมาบำรุงครรภ์เพื่อลูกและการลูบไล้สัมผัส เจ้าตัวเล็กผ่านผนังท้องก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เค้าเติบโตอย่างมีความสมบูรณ์พร้อมทั้งความรัก ความผูกพัน และความฉลาด ซึ่งเรื่องนี้มีการวิจัยมาแล้วในหลายๆประเทศนะคะเราเลยรวบรวมมาให้คุณแม่ทดสอบดูค่ะ


เตรียมตัวก่อนทักทาย อย่างแรกเลย คุณแม่ก็ทำใจสบาย ๆ นะคะ เอาความเครียด ความกังวลทิ้งไปก่อนจากนั้นก็ปิดโทรศัพท์มือถือเสีย จะได้ไม่มีใครโทรมารบกวน อะไรที่ทำค้างไว้ก็หยุดเสียก่อน แล้วเลือกสมเสื้อผ้าสบายๆแล้วนั่งบนพื้นนิ่ม ๆ ให้ท่าที่สะดวกสบายที่สุด อาจหาหมอนรองไว้ที่ใต้เข่าเพื่อช่วยหนุนให้เลือดลมไหลเวียนดียิ่งขึ้น แล้วเปิดเพลงเบา ๆ อย่างเพลงคลาสสิก พร้อมกับฉีดสเปรย์แต่งกลิ่นห้องให้สดชื่นจะได้รู้สึกแจ่มใส


คุยกับลูกในท้อง


1. นวดสื่อภาษารัก ให้คุณแม่ผสมเบบี้ออยส์กับแป้งฝุ่นบนฝ่ามือ แล้วลูบไล้ไปที่หน้าท้องในทิศทางตามเข็มนาฬิกา พยายามนวดอย่างเบามือ แต่ไม่ต้องถึงกับเกร็ง ไม่ต้องกลัวว่าทารกจะเป็นอันตรายนะคะ เพราะในครรภ์มีน้ำคร่ำที่ช่วยป้องกันการกระทบกระเทือนให้เค้าอยู่แล้ว เมื่อนวดไปสักพัก คุณแม่รู้สึกได้ค่ะว่าทารกน้อยกำลังดิ้นเบาๆตอบมา นั่นแสดงว่าเค้ารับรู้ได้ถึงแรงกระตุ้นที่คุณแม่ส่งไปหาเค้าค่ะ


2. พูดคุยกับลูกผ่านผนังท้อง แม้ว่าทารกน้อยจะยังอยู่ในท้อง แต่เค้าก็ได้ยินเสียงของคุณแม่นะคะ ซึ่งเรื่องนี้มีการวิจัยกันมา ดังนั้นแล้ว คุณแม่ลองทักทายเค้าด้วยการเรียกชื่อดูสิคะ ไม่ก็ใช้คำที่ต้องใช้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน เช่นสวัสดี พ่อรักลูกนะ แม่รักลูกนะเป็นต้น แรงสั่นสะเทือนของเส้นเสียงจะค่อย ๆ ซึมผ่านผนังหน้าท้อง น้ำคร่ำ แล้วมายังทารก ซึ่งมีรายงานว่า นั่นจะช่วยให้ทารกคุ้นเคยกับคำต่าง ๆ และมีพัฒนาการทางภาษาดีขึ้นเมื่อเติบใหญ่ค่ะ


3. ให้ลูกฟังเพลงเบา ๆ ขณะสัมผัสเขาผ่านผนังหน้าท้องคุณแม่ก็อย่าลืมเปิดเพลงให้เค้าฟังไปด้วยนะคะ เรื่องนี้ได้รับการส่งเสริมจากหลายสถาบันทีเดียวว่าเป็นการช่วยพัฒนาทั้งความฉลาดและอารมณ์ของทารกได้มาก เพียงแต่ต้องเลือกแนวเพลงหน่อย อย่างเพลงคลาสสิกยิ่งดี หรืออาจเป็นเพลงน่ารัก ๆ ของเด็ก ๆ แต่สำหรับแม่และเด็ก แนะนำว่าเพลงไทยเดิมก็ไม่เลวนะคะ


คุยกับลูกในท้อง


4. ใช้แสงไฟกระตุ้นการมอง ถึงแม้จะไม่มีผลยืนยันว่า การใช้ไฟฉายส่องไปที่หน้าท้องจะมีผลให้ทารกตอบสนองกลับมา แต่ก็เป็นความเชื่อของคุณแม่หลาย ๆ ท่าน และปฏิบัติกันมา ว่าวิธีจะช่วยพัฒนาการทักษะการมองของลูกให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ทำโดยใช้ไฟฉายหลอดเล็กที่มีแสงไม่จ้า ฉายส่องไปที่หน้าท้องประมาณ 5 วินาที แล้วสังเกตว่าทารกแสดงปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการเคลื่อนไหวเบาๆตอบกลับมา


5.
ล้อมวงสนทนาประสาคณาญาติ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อย่าสนุกอยู่กับลูกคนเดียวเลยค่ะ ลองชวนคุณสามี คุณย่าคุณยาย และคณาญาติทั้งหลายแหล่มาร่วมวงสนทนาพาทีกันเถอะ เพราะมีผลยืนยันมาแล้วนะคะ เทียบระหว่างคุณแม่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีญาติสนิทมิตรสหายมาเยี่ยมเยียนพูดคุยทักทายบ่อยครั้ง กับอีกกลุ่มค่อนข้างสันโดษ ไม่ค่อยมีใครมาเยี่ยมเยียนพูดด้วย

ผลปรากฏว่า ทารกที่คลอดจากคุณแม่กลุ่มแรก มีทักษะความฉลาดและอารมณ์ดีกว่ากลุ่มที่สอง ซึ่งทารกค่อนข้างเป็นเด็กเลี้ยงยาก มักจะงอแง แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวจนโตเรื่องนี้ว่ากันว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทารกได้ซึมซับความรัก ความอบอุ่นจากคนรอบข้างอย่างเดียวกับที่แม่ได้รับด้วย และอีกเหตุผลคือ เมื่อมีคนมาเยี่ยม แม่ก็ความสุข เบิกบาน และสดชื่น และเป็นผลพลอยได้ส่งต่อมายังทารกด้วย ดังนั้นแล้ว ถ้าอยู่บ้านว่างๆก็ลองโทรชวนเพื่อนๆหรือญาติมาเที่ยวบ้างนะคะ ไม่ก็หาโอกาสรวมญาตินัดทานข้าวกัน รับรองสนุกทั้งแม่และทารกน้อยค่ะ



เล่นกับลูกในท้องได้อะไรเอ่ย ไม่ว่าจะเป็นการนวด ภาษาน่าเล่น หรือการใช้ไฟฉาย สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเพลิดเพลินเท่านั้นค่ะ แต่ยังให้ประโยชน์มากมายเลยค่ะ อาทิเช่น

★* *★  ช่วยพัฒนาด้านระบบหมุนเวียนสารอาหารและออกซิเจน ไปสู่ทารกดีขึ้น ★* *★


★* *★ ช่วยพัฒนาด้านการเคลื่อนไหว ★* *★


★* *★ ทารกรู้สึกอบอุ่นใจ เพิ่มความผูกพัน ★* *★


ที่มา : นิตยสาร แม่และเด็ก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์