รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!! เมื่อแก๊งลักรถอาละวาด

รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!! เมื่อแก๊งลักรถอาละวาด


กว่าจะเก็บเงินซื้อรถได้สักคันหนึ่ง เราต้องเก็บหอมรอมริบ และทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตอยู่นานเป็นปี แต่พวกมิจฉาชีพที่รวมตัวกันเป็น "แก๊ง" กลับใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีขโมยรถของเราหายเข้ากลีบเมฆไปขายได้เงินไปใช้ ฟรี ๆ ซะอย่างนั้น ยิ่งรู้อย่างนี้แล้วมันยิ่งเจ็บใจ มีวิธีไหนบ้างไหมที่ไม่ต้องเสียรู้โจรและเสียใจภายหลังอย่างนี้

พล...วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และรองหัวหน้าศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยาน ยนต์ กองบัญชาการตำรวจนคร บาล (ผบก.น.3 และรองหัวหน้า ศปจร.น.) อธิบายถึงนโยบายการปราบปรามการโจรกรรมรถ ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปรับปรุงศูนย์ฯ เนื่องจากที่ผ่านมามีการโจรกรรมรถเพิ่มมากขึ้น

นโยบายหลักขณะนี้จึงเน้นให้ตำรวจทุกโรงพักรวบรวมสถิติรถหายแต่ละท้องที่แล้วนำมาวิเคราะห์

ออกตรวจตามเต็นท์รถมือสอง สถานที่รับทำทะเบียนรถ ร้านรับซื้อของเก่า รวบรวมประวัติแก๊งลักรถต่าง ๆ และสำรวจรถที่มาแจ้งความเท็จเพื่อเอาประกันเนื่องจากวิธีนี้มีเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้สถิติรถหายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

"
จากสถิติปีที่แล้วเฉพาะในกรุงเทพฯ มีรถจักรยานยนต์แจ้งหายถึง 6,000 คัน รถเก๋ง 400
คันและรถกระบะ 400 คัน พื้นที่ที่หายมากที่สุดคือ บก.น.4 จะมีรถจักรยานยนต์หายมาก ที่ สน.โชคชัย บก.น.9 ที่ สน.บาง ขุนเทียน ตกเดือนละ 30 คัน เฉลี่ยแล้ววันละ 1 คัน จากตัวเลขของยี่ห้อรถกระบะที่ถูกโจร กรรมและหายมากที่สุดคือ ยี่ห้ออีซูซุ ส่วนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า และรองลงมาคือยี่ห้อฮอนด้า สำหรับรถจักรยานยนต์ได้แก่    ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ โซนิคและฟีโน่"
 
สำหรับเส้นทางหลังจากที่รถถูกโจรกรรมจะถูกถอดชิ้นส่วนอะไหล่แล้วนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า

แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนำส่งออกไปตามชายแดนทั้งคันเพื่อขายให้กับลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้าน รองหัวหน้า ศปจร.น. เปิดเผยถึงราคารถที่ขโมยมาได้เมื่อนำออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านว่า ถ้าเป็นรถกระบะและรถเก๋งจะได้ราคาคันละประมาณ 200,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์จะได้คันละ 8,000-10,000 บาท ตามสภาพเก่า-ใหม่ของรถ


รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!! เมื่อแก๊งลักรถอาละวาด


ทั้งนี้คนทำผิดจะต้องได้รับโทษโดยการกระทำการดังกล่าวถือเป็นความผิดข้อหาลักทรัพย์ ถ้าเป็นการลักทรัพย์ตอนกลางคืนมีโทษจำคุก 5 ปี และในเวลากลางวัน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ส่วนพฤติกรรมของแก๊งโจรกรรมรถที่เราควรรู้ พ.ต.ท. อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้กำกับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผกก.ศส. บช.น.) อธิบายถึงกระบวนการ ของคนร้ายในการโจรกรรมรถว่าประกอบด้วย 5 ฝ่าย คือ 1.ฝ่ายผู้ส่งรถหรือนายหน้าส่งออก หมายถึงผู้สั่งหรือติดต่อกับฝ่ายโจรกรรมรถให้ขโมยรถจักรยานยนต์ตามยี่ห้อ แบบ ขนาด สี ฯลฯ หรือภาษาโจรเรียกว่า "ตามใบสั่ง" ที่ต้องการเพื่อใช้ในประเทศหรือส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
 
2.ฝ่ายโจรกรรมรถ คือพวก โจรหรือคนร้ายที่ลักรถยนต์และจักรยานยนต์อย่างเดียว จะใช้วิธีต่าง ๆ เช่น งัดหูช้าง ทำกุญแจปลอม เพื่อขโมยรถตามที่ต้องการ โจรที่ยักยอกรถไปขาย เช่น ซื้อมาจากบริษัทผู้ขายระบบผ่อน แล้วยักยอกไปขายให้ผู้อื่น ส่วนใหญ่ส่งไปขายยังประเทศกัมพูชา จากนั้นไปแจ้งความว่ารถหาย เป็นวิธีที่ทำกันมากจนสถิติแจ้งความรถหายพุ่งสูงขึ้น, โจรที่ปล้นรถหรือชิงรถโดย ใช้วิธีปล้นชิงรถที่จอดในที่เปลี่ยวหรือตามปั๊มน้ำมัน ฉะนั้น เวลาเราจอดรถลงไปทำธุระไม่ควรสตาร์ต รถเสียบกุญแจทิ้งไว้เพราะจะมีโจรพวกนี้คอยดักโจรกรรมรถอยู่, โจรหลอกลวงเพื่อให้ได้รถ จะใช้   วิธีติดต่อขอซื้อรถและใช้อุบายทดลองขับแล้วหนีหรือใช้อุบายเช่ารถเดินทางไปต่างจังหวัดและนำ  ไปขาย
 
3.ฝ่ายขนส่งหรือนำรถไปยังจุดที่กำหนด คนร้ายฝ่ายนี้มีชื่อเรียกกันในวงการโจรว่า "นักบิน" มีหน้าที่รับจ้างขับรถจากฝ่ายผู้สั่งซื้อหรือนายหน้าเพื่อนำไปส่งยังจุดที่กำหนด อัตราค่าจ้างขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการขับ ชนิดรถและความเสี่ยง มีราคาตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท ส่วนใหญ่คนร้ายฝ่ายนี้จะเป็นคนในท้องถิ่นบริเวณชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี โดยจะนำรถที่โจรกรรมมาขับไปจอดซุกซ่อนไว้ในป่ารกร้างลับสายตาผู้คนตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน รอเวลาขนส่งข้ามแดนต่อไป
 
4.ฝ่ายผู้ซื้อ จะมีทั้งคนไทยที่ต้องการรถที่ถูกโจรกรรมใช้ในประเทศโดยใช้ทั้งคันหรือซื้อแบบแยกชิ้นส่วน และคนในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศกัมพูชามีความต้องการสูงเนื่องจากราคาถูกกว่าซื้อในประเทศไทย และ 5.ฝ่ายปลอมแปลงเอกสารประจำรถ เอกสารที่ปลอมแปลงมีแผ่นป้ายทะเบียนหน้า-หลัง แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีและสมุดคู่มือประจำรถ ซึ่งในปัจจุบันมีการปลอมแปลงเอกสารลอกเลียนแบบที่เหมือนของจริงมากจนแยกไม่ออก   ว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม จนตำรวจต้องพยายามศึกษาเอกสารจริง-ปลอมว่าเป็นอย่างไร หากพบผิดปกติจะได้จับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที

รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!! เมื่อแก๊งลักรถอาละวาด


เมื่อรู้ว่าคนร้ายมีการพัฒนากระบวนการโจรกรรมรถเป็นระบบที่น่ากลัวแบบนี้แล้วยิ่งเสียวไส้จริง ๆ

ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ พ.ต.ท.อรรถพร แนะนำว่า ไม่ว่าคนร้ายจะมีพัฒนาการลักขโมยรถอย่างไร ถ้าเรารู้เท่าทันคนร้ายก็จะสามารถปกป้องรถของเราได้เช่นกัน เช่น ควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมรถ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันได้ทั้งหมด เพียงแต่จะทำให้รถของคุณเป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ของนักโจร กรรม เพราะเนื่องจากคนร้ายเห็นว่ามีอุปกรณ์ป้องกันก็จะไม่เสี่ยงที่จะขโมย
 
สถานที่จอดรถก็สำคัญเมื่อเรานำรถไปจอดที่ใดก็ตาม ควรสังเกตว่าเป็นมุมอับมากน้อยแค่ไหน

หากจอดในห้างสรรพสินค้าต้องสังเกตว่ามี รปภ.ดูแลอยู่หรือไม่ และมีกล้องวงจรปิดอยู่ ตรงที่ใดให้พยายาม เลือกหาที่ จอดให้อยู่ในระดับกล้องวงจรปิดส่องถึง สำหรับรถจักรยานยนต์ยิ่งง่ายต่อการถูกโจรกรรม ควรเลือกจอดในที่ปลอดภัย เช่น สถานที่มีที่รับฝากรถ
 
ระวังเวลาที่เรานำรถไปล้างอัดฉีดตามสถานบริการหรือซ่อมรถตามอู่

ไม่ควรทิ้งรถและกุญแจรถไว้กับพนักงานบริการหรือคนซ่อมรถเป็นเวลานาน ที่สำคัญควรเลือกอู่รับซ่อมที่รู้จักกันไว้วางใจได้ แต่ถ้าเป็นอู่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและมีความจำเป็นที่ต้องทิ้งรถให้ซ่อมเป็นเวลาหลายวัน เมื่อรับรถคืนควรเปลี่ยนกุญแจประตูรถ เพราะกุญแจเดิมอาจถูกคนร้ายพิมพ์แบบเอาไว้ ถ้ากุญแจเป็นแบบรีโมตอาจถูกดูดข้อมูลได้
 
ฉะนั้น เวลาซื้อกุญแจรถแบบรีโมตให้เลือกแบบป้องกันการดูดข้อมูลด้วยและเมื่อต้องจ้างคนขับรถควรพิจารณาเลือกบุคคลที่ไว้วางใจได้ ขอภาพถ่ายพร้อมทั้งประวัติถิ่นที่อยู่อย่างแท้จริงไว้ด้วยทุกครั้งหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะได้ติดตามตัวได้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถปกป้องรถให้พ้นเงื้อมมือโจรได้แล้ว
 
ที่สำคัญเมื่อเรารู้ตัวว่า “รถหาย” ถึงแม้ว่าเราจะตกใจขนาดไหนก็ตามควรมีสติ

แล้วโทรศัพท์แจ้งรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุทราบโดยเร็ว เพื่อความรวดเร็วในการติด ตามสกัดจับคนร้ายและเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร ข้อมูลของรถที่ถูกโจร กรรมไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยสกัดจับได้ทันท่วงทีก่อนรถของเราจะถูกส่งออกไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์