พิษทางใจ

พิษทางใจ


พิษทางใจ


ในนวนิยายเรื่องหนึ่งของหลวงวิจิตรวาทการ ตัวละครคนหนึ่งเผลอไปจูบสาวลึกลับคนหนึ่ง แล้วหมดสติไป ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นเป็น ‘สาวพิษ’ นั่นคือทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอเต็มไปด้วยพิษนานาชนิด ไอพิษที่ระเหยออกมาจากร่างทำให้ตัวละครคนนั้นหมดสติไป

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะบิดาของสตรีนางนั้นทดลองป้อนยาพิษให้เธอตั้งแต่เล็ก สะสมทีละนิด จนในที่สุดแม้แต่งูที่กัดเธอยังต้องตาย

เรื่องตัวละครที่มีพิษในร่างปรากฏในนวนิยายมากมาย โดยเฉพาะในนิยายจีนกำลังภายใน แทบทุกเรื่องมักมีตัวละครที่เชี่ยวชาญในการใช้พิษ หลายเรื่องพระเอกถูกคนร้ายลอบวางยาพิษ หรือถูกสัตว์พิษพันธุ์ประหลาดๆ กัด ขณะที่อาการร่อแร่ปางตายกลางป่า ก็มักมีชายชราโผล่ (จากไหนไม่รู้) มาช่วยทันการ โดยการถ่ายพิษร้ายอีกชนิดหนึ่งใส่ร่างพระเอก ด้วยหลัก ‘พิษข่มพิษ’

พิษร้ายทั้งสองอย่างจะทำปฏิกิริยาต้านกัน ผลก็คือพระเอกมีกำลังภายในเพิ่มพูนหลายเท่าตัว แมลงพิษงูพิษทั้งหลายไม่กล้าแหยมใกล้ นับว่าเป็นคนโชคดีจริงๆ !

อย่างไรก็ตาม การใช้พิษข่มพิษมิสู้การไม่ก่อพิษตั้งแต่แรก

ในทางกายภาพ การหลีกเลี่ยงอนุมูลอิสระ สารพิษในอากาศและอาหาร ช่วยเลี่ยงการเกิดโรคร้ายเช่น มะเร็ง


ในทางจิตใจ การเลี่ยงพิษไม่ง่ายเช่นนั้น



โลกเราเต็มไปด้วยพิษทางใจนานาชนิด ตั้งแต่พิษจากการพนัน พิษจากการเสพติดเงินตรา พิษจากการเสพติดอำนาจ พิษจากการวิตก ฯลฯ พิษเหล่านี้สะสมนานๆ เข้า ไม่แต่สร้างความเดือดร้อนกับตัวเอง แต่ลามถึงครอบครัวด้วย

พิษพนันทำให้หลายคนล้มละลายมาแล้ว ร้ายกาจยิ่งกว่าไฟไหม้บ้านสิบหน พิษจากการเสพติดเงินตราทำให้คนไม่น้อยยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน พิษจากอำนาจนอกจากทำให้คนที่เสพติดอำนาจเสียคน ยังทำให้ประเทศชาติเสียหาย

วิตกจริตก็เป็นยาพิษทางใจอย่างหนึ่งที่กำจัดทิ้งยากเย็นแสนเข็ญ ที่แปลกก็คือ ใครๆ ก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็สามารถหาเรื่องมาวิตกอยู่ได้เสมอๆ

การวิตกวันละน้อยก็เช่นเสพยาพิษทีละนิด ในเวลาหนึ่งช่วงชีวิต เราเสียเวลาไปกับการวิตกวันละนิดรวมเป็นจำนวนมาก

ภิกขุสันติเทวะ ในศตวรรษที่ 8 กล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถแก้ปัญหาของเจ้าได้ ไยต้องกังวล? และถ้าเจ้าแก้มันไม่ได้ จะมีประโยชน์อันใดที่จะกังวลเล่า?”



ไม่ใช่เรื่องยากที่จะวิเคราะห์อาการของตัวเองและชี้จุดอ่อนทางใจของตนเอง ข้อแตกต่างคือ คนโง่รู้แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ คนฉลาดรู้แล้วก็แก้ไขมันเสีย

แน่นอน พิษทางใจเป็นสิ่งที่แก้ยากจริงๆ แต่ถ้าไม่เริ่มแก้ ก็ไม่มีวันแก้ได้ และยากขึ้นไปทุกวัน มันทำได้ แม้ว่าบางครั้งคุณต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจของเพื่อน

จึงมีคนกล่าวว่า “มันไม่ใช่ว่า คนบางคนมีกำลังใจและบางคนไม่มี แต่มันคือคนบางคนพร้อมที่จะเปลี่ยน และบางคนไม่”

ความแตกต่างคือรู้แล้วไม่เปลี่ยน กับรู้แล้วเปลี่ยน



บทความโดย... วินทร์ เลียววาริณ



ขอบคุณบทความจากทำดีดอทเน็ต(จั่นเจา)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์