การได้เพื่อเสีย หรือ การเสียเพื่อได้...

การได้เพื่อเสีย หรือ การเสียเพื่อได้...


การได้เพื่อเสีย หรือ การเสียเพื่อได้...


ชีวิตคนเราถูกเหวี่ยงไปมาระหว่าง...การได้และการเสีย
ไม่มีการได้ที่ปราศจากการเสีย...และไม่มีการเสียที่ปราศจากการได้
เช่นเมื่อใครสักคนกำลังมีชื่อเสียงเขาก็ต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัว
หรือเมื่อคนสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็ต้องทิ้งเสรีและอิสระบางประการไป

ประสบการณ์เกี่ยวกับการได้..การเสีย..
เกิดขึ้นกับทุก ๆ คนและเกิดขึ้นค่อนข้างเป็นประจำ
มั่นคงเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งในการปรับสมดุลให้กับสิ่งนั้น ๆ


นอกจากนั้นการได้...การเสีย..คงจะเป็นเรื่องของ.."ผลลัพธ์"
เช่นคนที่ทำงานหนักก็จะเกิดผลจากการทำงานหนัก...ซึ่งมีทั้งการได้และเสีย...
คนที่โลภและขี้เหนียวก็จะมีผลซึ่งเกิดจากความโลภและความขี้เหนียวของเขา

การได้...การเสีย...ในบางกรณี สามารถมองเห็นได้ชัด
แต่บางกรณีอาจจะมองเห็นราง ๆ หรือไม่เห็นเลย...


ทว่ามีกระบวนการได้และเสียเกิดขึ้นแล้ว...
เราแต่ละคนสัมพันธ์กับการได้..การเสีย...แตกต่างกัน
บ้างหมกมุ่นกับการได้..การเสียมากเกินไป
บ้างไม่ใส่ใจกับผลได้ผลเสียเลย
และพวกที่สนุกกับการได้ การเสียก็มี
แต่ยังไงเราก็หลีกเลี่ยงการได้และก็การเสียไม่พ้น..

บางทีสิ่งที่เสียก็ไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้กลับคืนมา

การใช้ชีวิตนั้นคล้าย ๆ กับการเข้าโรงเรียน..
เพราะมีเรื่องต่าง ๆ ให้เราได้เรียนรู้มากมายไม่รู้จบ
และเรื่องหนึ่งในหลาย ๆเรื่องที่เราน่าจะทำความเข้าใจคือการได้...การเสีย..

เรื่องดังกล่าวอาจจะเข้าใจได้ง่ายสำหรับบางคน..แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
เนื่องจากโลกนี้ประกอบด้วยคนหลายประเภท
อาทิ คนที่เอาแต่ได้ คนที่ชอบคิดว่าตนเองมีแต่เรื่องสูญเสีย
คนที่เปิดใจกว้าง คนที่เปิดใจไว้แคบ ๆ คนที่เข้มแข็ง คนที่อ่อนแอ
แล้วโดยปกติ..คนเรามักนึกถึงเป็นฝ่ายได้ไว้ก่อน

การได้มาและการเสียไปเป็นเรื่องปกติของชีวิต
แต่ที่มันไม่ปกติเพราะเราชอบการได้...และไม่ต้องการสูญเสีย

ความรู้สึกในขณะที่ได้หรือกำลังจะได้..มักพองโต
ส่วนความรู้สึกที่เกิดจากการเสียก็จะแบน แฟบ และหดหู่


เรา (ส่วนใหญ่) นึกถึงข้อดีของการได้..และข้อเสีย ของการเสีย
เราไม่ได้ถูกฝึกให้มองเห็นมิติของการได้..การเสียแบบครบถ้วน


นอกจากไม่มีการฝึกให้มองเห็น..เรายังไม่ได้ถูกฝึกให้เฉย ๆ กับการได้..การเสีย..
หรือถ้าฝึก...มันก็ยากมากที่จะสอบผ่านให้จบหลักสูตร...



ขอบคุณบทความจากทำดีดอทเน็ต(ธัมมทินทร์)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์