เป็นบัณฑิตจิตต้องมั่นคง

เป็นบัณฑิตจิตต้องมั่นคง


เป็นบัณฑิตจิตต้องมั่นคง


ในแต่ละวันนั้นเราต้องอบรมจิตของเราให้ตั้งอยู่ในกองกุศลอยู่เสมอ
ยิ่งเป็นปุถุชนด้วยแล้วยิ่งต้องหมั่นนึกน้อมยินดีอยู่ในทาน ศีล ภาวนา
ทั้งก่อนปฏิบัติ กำลังปฏิบัติ และหลังปฏิบัติทาน ศีล ภาวนานั้น ๆ
จิตเราจะได้มีปีติสุขเกิดขึ้น เพราะกุศลมันให้ผลเป็นสุข
ถ้าเรามีปีติสุขในธรรม นั่นย่อมแสดงว่าจิตของเราเป็นกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
กุศลนั้นว่ากล่าวว่าน้อยนะ เพราะเวลาให้ผลคราใด กุศลให้ผลเป็นสุขแก่เราในทุกภพทุกชาติ


     นักภาวนาทั้งหลายซึ่งมาปฏิบัติธรรมกันในเดือนนี้ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ฌานและปัญญาญาณที่ได้แล้วยิ่งต้องระมัดระวังรักษาเป็นพิเศษ อย่าให้เสื่อมจากความดี
เจริญอรหัตตมัคคเอาไว้เนือง ๆ ไม่ง่อนแง่นไม่คลอนแคลน มีตบะมั่นคง
จิตไม่ฟุบลงด้วยอำนาจของความเกียจคร้าน
และจิตนั้นไม่ฟูขึ้นด้วยอำนาจยั่วยวนของกิเลส
จิตอย่างนี้เรียกว่าจิตที่มั่นคง


     
ความโศกทั้งหลาย
ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท
เป็นมุนี ผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่
สงบระงับแล้ว มีสติในกาลทุกเมื่อ

     เพราะฉันประมาท
ทุกข์อันไม่น่ายินดี
ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท
โดยความเป็นของน่ายินดี

     เพราะฉันประมาท
ทุกข์อันไม่น่ารัก
ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท
โดยความเป็นของน่ารัก

     เพราะฉันประมาท
ทุกข์อันเร่าร้อน
ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท
โดยความเป็นสุข

ที่มา : ปฏิบัติธรรมรำลึก มาฆะบูชา 2547


ขอบคุณข้อมูลจากธรรมะไทย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์