ขี่ม้าอย่างพระราชา

ขี่ม้าอย่างพระราชา


หากเอ่ยถึง กีฬาขี่ม้าโปโล หรือตีคลี หลายคนอาจรู้จักแค่ว่า เป็นกีฬาของคนชั้นสูง แต่หลายคนคงไม่ทราบว่ากีฬา ชนิดนี้ เริ่มเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 โดยทหารอังกฤษเป็นผู้นำมาเล่นถวายต่อพระที่นั่ง จนกระทั่งมีการก่อตั้งสโมสรขี่ม้าตีคลีคลีในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้น แต่กีฬาชนิดนี้ก็ถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มคนชั้นสูงเท่านั้น สโมสรดังกล่าวจึงล้มไปโดยปริยาย
    
10 ต่อจากนั้น กลุ่มนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างประเทศที่หลงใหลในกีฬาขี่ม้า ต้องมนต์เสน่ห์ของโปโลเข้า จึงทำให้กีฬาชนิดนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และต้องการลบภาพที่ว่า คนรวยเท่านั้นจึงจะเล่นได้ ด้วยการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปหันมาลองเล่น
    
จวบจนปัจจุบันนี้ โปโล กลายเป็น กีฬาน้องใหม่ที่ได้รับการบรรจุให้เข้าเป็นหนึ่งในการแข่งขันซีเกมส์
 
สำหรับกฎกติกาในการเล่น ก็คล้ายฟุตบอล เพียงแต่ มีผู้เล่นทีมละ 4 คน และทุกคนต้องขี่ม้า แย่งกันตีลูกบอล 1 ลูก ช่วยกันทำคะแนน พร้อมทั้งป้องกันประตู
 
วิธีสังเกตง่าย ๆ หากลูกบอลเข้าประตูถูกกติกา นับเป็น 1 แต้ม  กรรมการ จะยกธงขึ้นโบกไปมา แต่หากไม่เข้าจะนำธงชี้ลงที่พื้นด้านล่าง
 
สำหรับเวลาในการแข่งขันแบ่งเป็น 4-8 ซักก้า (ช่วง) ใช้เวลาเล่นซักก้าละ 7 นาที แต่ละซักก้าใช้เวลาพัก 3-5 นาที  เมื่อหมดการแข่งขันแต่ละซักก้าจะต้องเปลี่ยนม้า ทั้งผู้เล่นและกรรมการในสนาม
 
หากแต้มคะแนนเท่ากันในซักก้าสุดท้าย ก็ต้องมีการต่อเวลาหาผู้ชนะเหมือนกับกีฬาฟุตบอลนั่นเอง

 
กีฬาโปโล นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานแล้ว
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ผู้ชมในสนามจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงาม  สวมหมวกปีกกว้างสไตล์ผู้ดีอังกฤษ นั่งจิบน้ำชาในยามบ่ายไปพลาง ๆ 
    

นับเป็นการสร้างบรรยากาศให้กีฬาโปโลดูน่าสนใจ  สมกับเป็นกีฬาของพระราชา.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์