สู้มะเร็งแบบองค์รวม

มะเร็งเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ใครๆก็หวาดผวา เมื่อเกิดกับใครก็มักหมดหวังท้อแท้ เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ยากและกว่าจะรู้ตัวก็มักเป็นระยะที่ลุกลามแล้ว


แต่เชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบันเราสามารถต่อสู้กับมะเร็งได้โดยการรักษาแบบองค์รวม  นพ.ชาตรี  ดวงเนตร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ  ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งแห่งแรกของเมืองไทย   ที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งทุกสาขา  เผยว่า  มะเร็งสู้ได้ด้วย "การรักษาแบบองค์รวม" หากทุกคนสามารถดูแลตัวเองให้ครบในทุกองค์ประกอบ เชื่อแน่ว่า แม้จะเป็นมะเร็งก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข

สำหรับการรักษาแบบองค์รวมหมายถึงการปกป้อง ค้นหา รวมไปถึงการดูแลรักษา  ซึ่งต้องมี ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ   รวมไปถึงเครื่องมือในการช่วยดูแลรักษา   ปัจจุบันนอกจากจะมีเครื่องมือในการช่วยวินิจฉัยระยะและการกระจายของเซลล์มะเร็ง อย่าง PET/CT Scan ที่ช่วยแพทย์ในการตรวจหามะเร็งในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว   ยังมี  Novalis  เครื่องสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง เป็นเครื่องฉายรังสีรักษา 4 มิติ ที่สามารถฉายแสงได้อย่างแม่นยำตรงสู่ก้อนมะเร็ง   โดยไม่กระทบกับเนื้อเยื่อดีในบริเวณรอบข้าง


นอกจากเครื่องมือที่ช่วยในการรักษาแล้ว นพ.ชาตรีกล่าวด้วยว่า อาหารการกิน ก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นธรรมชาติ ทานง่าย อาหารหลัก 5  หมู่เป็นอาหารที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

แต่ต้องทานในอัตราส่วนที่พอเหมาะกับวัย เช่น วัยเด็กควรทานโปรตีนเพื่อเสริมสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พอโตขึ้นก็ลดโปรตีนและเสริมวิตามินเกลือแร่ ด้วยการกินพืชผักผลไม้  และหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวก่อมะเร็งทั้งหลาย  เช่น  อาหารที่ราขึ้นได้ง่าย  พวกถั่วลิสง   พริกป่น พริกแห้ง หรืออาหารหมัก ดอง และอาหารที่ปิ้งย่างสุกจนไหม้เกรียม   หรืออาหารที่มีไขมันสูง เพราะทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้มากขึ้น ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การทำให้ร่างกายแข็งแรงเสมอ  ด้วยการออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายเป็นประจำและต่อเนื่องอย่างน้อย 15-30   นาทีต่อวัน


แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสร้างทัศนคติ "คิดบวก" และการให้กำลังใจกับผู้ป่วยและญาติ

ผ่านโครงการ  Think  Positive  Club  เช่น  การฝึกสมาธิ  การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่าง ๆ  การฝึกร้อยลูกปัด  หรือโพกผ้าที่ศีรษะสำหรับผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด   สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทักษะให้กับผู้ป่วยและช่วยฟื้นฟูจิตใจผู้ป่วยได้ดีขึ้น  อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสุดสำหรับคนที่เป็นมะเร็งคือห้ามเครียด ต้องทำตัวเองให้มีอารมณ์แจ่มใสเสมอ เพราะกำลังใจและพลังใจของผู้ป่วยที่เข้มแข็งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการต่อสู้ เพื่อเอาชนะมะเร็งได้