ทำไมเลือดเป็นสีแดง

ทำไมเลือดเป็นสีแดง


ทำไมเลือดเป็นสีแดง

คำตอบคือ

• เซลล์เม็ดเลือดแดง(Erythrocytes)  เป็น เซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียสมีลักษณะกลมแบนตรงกลางเ้ว้าเข้าหากันมีอัตราส่วนต่อ พื้นที่ผิวต่อปริมาตรสูงช่วยให้ดูดซึมก๊าซออกซิเจนได้มากเม็ดเลือดแดงประกอบด้วยสารเคมีชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเีรียกว่า ฮีโมโกลบิน(Haemoglobin)

• ฮีโมโกลบิน(Haemoglobin) เป็น สารสีแดงที่มีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก พบอยู่ในเซลล์เม็ดเลือด มีสมบัติพิเศษคือสามารถรวมตัวกับออกซิเจนได้ง่าย ดังนั้นเมื่อรวมตัวกับออกซิเจนที่ปอดแล้วจะเิกิดเป็นสารใหม่ที่เรียกว่า ออกซีฮีโมโกลบิน (มีสีแดงสด )ส่งไปเลี้ยงเซลล์ส่วนต่างๆของร่างกาย

ฮีโมโกลบิน  + ออกซิเจน เกิดสารใหม่คือ ออกซีฮีโมโกลบิน เมื่อไปถึงเซลล์สารประกอบออกซีฮีโมโกลบินจะแตกตัวออกเป็นฮีโมโกลบินและก๊าซ ออกซิเจนเซลล์จะนำก๊าซออกซิเจนไปใช้ในการสลายสารอาหาร  ส่วนฮีโมโกลบินจะกลับไปรับออกซิเจนที่ปอดออกซีฮีโมโกลบิน แตกตัวออกเป็น ฮีโมโกลบิน + ออกซิเจน

• เซลล์เม็ดเลือดแดงของทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาจะผลิตที่ตับ ม้าม และต่อมน้ำเหลืองแต่เมื่อคลอดแล้วจะผลิตที่ไขกระดูก( bone marrow ) เพียงอย่างเดียว

• สารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงคือไขมันโปรตีนและธาตุเหล็ก

• ในร่างกายเรามีเซลล์เม็ดเลือดแดงจำนวนมาก ในผู้ชายปกติมี 5 ล้านเซลล์ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิลิตร ในผู้หญิงจะมี 4.5-5 ล้าเซลล์ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิลิตรคนที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่า 3 ล้าน 5 แสนเซลล์ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิลิตร เรียกว่า เป็นเลือดโลหิตจาง ( Anemia)โดยปกติเม็ดเลือดแดงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7-8 ไมครอน เซลล์เม็ดเลือดแดงจะไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดนานประมาณ 90-120 วัน จึงหมดอายุแล้วถูกทำลายโดย ตับ ม้าม และไขกระดูก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์