รักยังสดใส อยู่ไหม ™

รักยังสดใส อยู่ไหม ™


เอ้า มาดูกันเร็ว ว่าความรักของพวกคุณยังแข็งแรง, แข็งแกร่งและมีความสุขรึเปล่าจ๊ะ? โถถามนี่ เพราะหลายคนที่ยังเป็นโฉด...เอ๊ยโสดคงนึกหมั่นเขี้ยวอยากมีแฟนกะเค้าบ้างน่ะซี่

ยิ่งช่วงเทศกาลหยุดยาวเหยียดหยั่งงี้ ก็น่าจะมีวันนึงล่ะ ที่คุณๆ ทั้งหลายควรอุทิศให้เป็น "วันครอบครัวแห่งความสุขสันต์หรรษา" เมื่อเป็นเช่นนี้จึงอยากฝอยถึงความรักความผูกพันและความมีเยื่อใยกันของคนที่มีความเลิฟให้สมกับเป็นวันแห่งความรักอีกวัน...ท่าจะดี

ว่าแล้วก็อยากชวนให้คุณผู้อ่านลองตอบแบบ สอบถามเพื่อ "วัดอุณหภูมิความรัก" ที่พวกคุณมีต่อหวานใจ และหวานใจมีต่อคุณเป็นการประเดิมก่อนละกัน ซึ่งตามกติกา ก็ขอให้ตอบแค่ว่า ใช่หรือไม่ใช่ และจริงหรือไม่จริงเท่านั้น อย่าซีเรียสอะไรมากเพราะเป็นคำถามขำๆ ก็งี้แหละ เอาล่ะเริ่มเลยที่

1. คุณไม่เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสอะไรหรอก แต่เชื่อเรื่องรักแรกพบมากกว่า เพราะการได้พบกะคนรักของคุณดันเกิดขึ้นอย่างบังเอิญมากๆ แล้วหลังจากนั้นคุณก็ปิ๊งเค้าฉับพลัน ถึงขั้นเก็บเอาไปฝัน และทำให้คุณดิ้นรนที่จะรู้จักกับเค้าให้ได้ ใช่ปะ?

2. ช่วงระหว่างวันทำงานหรือเรียนหนังสือที่ไม่ได้เจอะเจอกัน คุณมักส่งข้อความสั้น (SMS) เป็นการแสดงความห่วงใยบ้างล่ะ, คิดถึงก็บ่อย แล้วไหนจะเป็นข้อความตลก-โปกฮา รวมทั้งเตือนให้เค้าดูแลสุขภาพ อย่างน้อยวันละ 1 ข้อความ ใช่ม้า?

3. เวลาที่คุณเจอสิ่งที่คุณคาดว่าแฟนจะชอบ เช่น เสื้อตัวสวย, ผ้าขนหนูนุ่มนิ่ม, ต่างหูสักคู่, กางเกงในลูกไม้รุ่นล่าสุด, เนกไทสุดเท่ ฯลฯ คุณมักจะซื้อของเหล่านี้ติดไม้ติดมือมาฝากหวานใจอยู่เรื่อย ใช่มะ? ซึ่งการทำเช่นนี้ไม่ใช่การเล่นเกมเป็นเจ้าบุญทุ่มหรอกนะ แต่ทุ่มเทเพราะรักต่างหาก อุ๊ยไม่รู้จะหวานไปถึงไหนๆ ฮ่าฮ่า

4. แม้คุณจะมีงานยุ่งวุ่นวายและหัวฟูขนาดไหน แต่ถ้าเค้าเอ่ยปากชวนไปเป็นเพื่อนทำธุระส่วนตัวของเค้าละก็ โอ๊ย คุณงี้จะรีบทำตัวให้ว่างทันทีด้วยการบอกปัดและเลื่อนนัดของคุณ เพื่อไปเป็นเพื่อนเค้าแทน จริงอ่ะ? โห เข้าตำรา "ธุระของเค้าสำคัญพอๆกะของเรา" เชียวเฟ้ย

5. คุณมักทำตัวเป็นนาฬิกาปลุกให้เค้าตื่นไปทำงานหรือไปประชุมให้ทันเสมอใช่ปะ? แหม คุณรู้นี่ว่า เค้าดูแลตัวเองในเรื่องนี้ได้ห่วยมาก จึงอาสาเป็นนาฬิกาปลุกอย่างเต็มใจแทนซะเลย

6. ถ้ามีใครแวะผ่านเข้ามาทักทายคุณ ในขณะที่คุณอยู่กะแฟนพอดิบพอดี คุณไม่เคยเขินที่จะทักทายตอบ แถมยังแนะนำแฟนให้ฝ่ายที่มาทักได้รู้จักซะด้วย อ่ะ ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรนี่ เพราะคุณภูมิใจเสนอจะตาย...น้าน ว่ากันเข้าไปนั่น ใช่ม้า?

7. คุณไม่ค่อยตามใจแฟนหรอก แต่แฟนสิ แหม้ ตามใจคุณเหลือเกิน ใช่ป่าว? แต่เอ๊ะ นี่เป็นช่วงเพิ่งข้าวใหม่ปลามันกันรึเปล่าจ๊ะ

8. คุณรู้ใจเค้าไปเกือบหมดซะทุกอย่าง เช่น ชอบสีอะไร, ชอบทานอะไร ดังนั้น หากมีโอกาสได้แวะผ่านไปที่ร้านอาหารที่เค้าโปรดปราน คุณจะเป็นฝ่ายชวนเค้าทานอาหาร แม้ตอนนั้นคุณยังไม่หิวซะหน่อย งั้นเชียว? โห ยอมอ้วนเพื่อเค้านี่ไม่ธรรมดาแฮะ

9. คุณทั้งคู่ยังคงจับมือถือแขน หรือควงกันไปไหนต่อไหนในที่สาธารณะใช่มะ? โอ้โหสวีตกันได้ทุกเมื่อสิน่ะ

10. เมื่อถึงวันครบรอบความรักของพวกคุณเมื่อไหร่ แม้เค้าอาจลืมแต่คุณไม่เคยต่อว่าหนักๆ เพราะเค้ามักหาทางชดเชยให้คุณอย่างจั๋งหนับเสมอ เช่น แอบเข้ามาหอมแก้มยามเผลอ หรือเดินมาหาคุณข้างหลังแล้วโอบกอดบอกว่า ไม่ลืมนะ (แต่เพิ่งนึกได้) อะไรเงี้ยะใช่ม้า?

หวังว่าตอบกันได้ทุกข้อเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ เอาล่ะจึงขอเฉลยเลยว่า หากตอบว่า ใช่ หรือจริง มากกว่าไม่ใช่และไม่จริง ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะความเลิฟของคุณยังเหนียวหนึบและหวานจ๋อยกันอยู่ ก็ขอให้รักษาความรักดีๆ เช่นนี้ไว้นานๆ เพราะไหนๆ ก็เลิฟกันเข้าไปแล้วนี่หว่า

แล้วหากอยากให้รักของพวกคุณมีดีกรีความเข้มข้นมากกว่านี้ละก็ คราวนี้ก็มีเคล็ดขัดยอก เอ๊ย เคล็ดลับมาเล่าให้ฟังเป็นแซมเปิ้ล ดังนี้...

@ อย่าอายที่จะเอ่ยคำว่ารักกับหวานใจ

ในเมื่อผูกสัมพันธ์ทางใจอย่างลึกซึ้ง ก็ควรเอื้อนเอ่ยคำหวานเป็นภาษาดอกไม้ให้กันฟังมั่ง โดยเฉพาะคำว่ารักถือเป็นธรรมเนียมที่คู่เลิฟควรทำเลยแหละ ไม่ใช่มัวอมพะนำหรือลังเลใจที่จะพูด เห็นบางคน โอ๊ยโหยว ใจน่ะรักแฟนแถมยังปรนนิบัติพัดวีไม่ขาดตกปกพร่อง แต่ดันไม่กล้าบอกแฟนว่า รักนะ หรือ รักจัง เพราะเขินหรือกลัวพูดไปแล้วจะเสียหน้ารึไงก็ไม่รุ เฮ้อ ขืนบอก รักแค่นี้ยังอายก็แย่แล้ว ไม่งั้นเค้าอาจคิดเตลิดและระแวงว่า ที่คุณไม่บอกรักเป็นเพราะหมดรักกันแล้วก็แย่ซี่

@ รู้จักใช้ภาษากายให้เป็นประโยชน์ผูกใจให้แน่นแฟ้น

แต่การใช้ภาษากายไม่ได้หมายความว่าให้หื่นกระหายนะเฟ้ย นั่นเป็นพฤติกรรมของเฒ่าหัวงูเค้าทำกัน ส่วนคู่รักน่ะมักหาโอกาสเหมาะๆ ลูบหลังลูบไหล่, จับไม้จับมือ, ลูบไล้ใบหน้า, จุมพิตกันที่หลังมือ และอื่นๆ อีกจิปาถะ เพราะการทำเช่นนี้สามารถสื่อสารภาษาใจให้รักใคร่กลมเกลียวกันได้แจ๋วดีออก

@ ถ้าผิดอย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ควรรู้จักขอโทษ จะทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีขึ้น

ใครๆ ก็สามารถพลั้งเผลอทำผิดได้ทั้งน้าน โดย เฉพาะกับคนที่อยู่ด้วยกัน สามารถสร้างเรื่องผิดกติกาสากลของการเป็นคู่รักที่ดีได้เสมอแหละ ดังนั้น หากรู้ตัวว่า เผลอไปทำอะไรผิดขึ้นมาสักอย่าง ไม่ว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยหรือคอขาดบาดตาย ก็ควรรู้จักขอโทษกัน ไม่ใช่ ตัวเองผิดแต่ให้อีกฝ่ายขอโทษแทน เอ๊ะ...มันก็ชักยังไงๆ อยู่นะ เอ...เป็นคู่รักหรือคู่กรรมกันแน่ฮ้าเนี่ย
 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์