ฉลองวันหยุดปีใหม่ ให้เดินทางโดยปลอดภัย

ฉลองวันหยุดปีใหม่ ให้เดินทางโดยปลอดภัย


 ในสัปดาห์นี้ จะเป็นวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ก็คงมีการเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ของหลายฝ่าย และเนื่องจากเป็นเทศกาลวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน จึงมีการเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งที่เป็นการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ การเดินทางที่มากขึ้น ดังนั้นในแต่ละปีจึงเกิดอุบัติเหตุมากตามไปด้วย ซึ่งในเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้เสียชีวิต พิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ดังนั้น เราจึงเห็นในช่วงเทศกาลมีการรณรงค์ในการลดอุบัติเหตุของหน่วยงานต่างๆ อย่างกว้างขวาง

 

          ผลของความร่วมมือกันอย่างจริงจังของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะมูลนิธิเมาไม่ขับที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่รณรงค์อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้ลดอุบัติเหตุลงได้ แม้จะช่วยทำให้อุบัติเหตุลดน้อยลง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังนับว่าค่อนข้างสูง จึงมีความจำเป็นต้องเข้มงวดในการตรวจขัน หรือการบังคับกฎหมายที่เกี่ยว อาทิเช่น ห้ามผู้ที่ขับขี่ยานยนต์ดื่มหรือเสพสุราหรือเครื่องมึนเมาทั้งหลาย และนอกจากนี้ การรณรงค์ควรที่จะดำเนินการตลอดทั้งปีในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของทุกคน

 

          แม้ว่าจะมีการรณรงค์หรือสร้างความตื่นตัวในการลดอุบัติเหตุจราจรจะมีมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นดำเนินการเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันเท่านั้น ซึ่งการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยในการเดินทางควรจะทำตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ได้มีข้อมูลสถิติในช่วงปี 2541-2551 พบว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรในประเทศไทย มีคนไทยเสียชีวิต 138,158 คน บาดเจ็บ 9,135,787 คน โดยร้อยละ 50 เกิดจากพฤติกรรมเมาแล้วขับ คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (จากการประเมินของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา TDRI) สูงถึงประมาณปีละ 2 แสนล้านบาท

 

          ดังนั้น คอลัมน์นี้จึงขอร่วมในการรณรงค์การเดินทางที่ปลอดภัย เพื่อคนไทยจะได้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่นี้ให้มีความสุขได้อย่างเต็มที่โดยถ้วนทั่วหน้ากัน โดยร่วมกันปฏิบัติดังนี้

 

          ประการแรก คือ คำขวัญรณรงค์ที่ควรจะเป็นว่า "ดื่มไม่ขับ" ไม่ใช่เพียง "เมาไม่ขับ" เพราะคนที่จะขับรถนั้นไม่ควรจะดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยสิ้นเชิง เพราะคำขวัญที่ว่าเมาไม่ขับนั้นหมายถึงดื่มได้แต่ระดับการยอมรับว่าตนเองเมาหรือไม่เมานั้นมีบรรทัดฐานที่ต่างกัน ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น จะไม่ให้ผู้ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขับขี่ยานยนต์ ดังนั้น ในงานเลี้ยงจึงต้องมีผู้เสียสละที่งดเว้นการดื่ม ทั้งนี้ เพราะการดื่มนั้นจะทำให้ขาดสติสัมปชัญญะในการควบคุมยานยนต์ จนก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของทั้งตนเองและหรือของคู่กรณีที่ต้องได้รับผลกระทบดังกล่าว

 

          ประการที่สอง นอกจากผู้ขับขี่รถยนต์ที่ไม่ควรดื่มแล้ว ควรรณรงค์ขอความร่วมมือจากร้านค้า โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อตามสถานีบริการน้ำมันงดจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

 

          ประการที่สาม การปฏิบัติตามกฎการจราจรอย่างเคร่งครัดในเรื่องการขับรถเร็ว หรืออื่นๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระยะที่มีผ่านมา ในช่วงเทศกาลหยุดยาวจะมีการตั้งด่านมากขึ้นในการตรวจผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งเรื่องการดื่มหรือตรวจจับความเร็ว ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นการไม่สะดวกบ้างสำหรับผู้เดินทาง แต่อย่างน้อยทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ได้ชะลอความเร็วหรือหยุดพักบ้าง ซึ่งเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้

 

          ประการที่สี่ คือ การตรวจสอบความพร้อมของเครื่องยนต์ของรถยนต์ก่อนการเดินทาง ก็ขอชื่นชมหน่วยงานภาคเอกชนหลายแห่งให้บริการตรวจยานยนต์ฟรีในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกเองควรที่จะช่วยลดต้นทุนการตรวจสอบเครื่องยนต์ดังกล่าว เพื่อให้รถยนต์ทุกคันอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการเดินทาง ซึ่งจะช่วยลดจำนวนรถเสียที่จะกีดขวางเส้นทางการจราจรได้อีกด้วย

 

          สุดท้ายขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางโดยปลอดภัย และมีความสุขเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2553 และตลอดๆไป


ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์