ค่านิยมวันวาเลนไทน์ ฆ่านิยมวันเสียตัวแห่งชาติ

ค่านิยมวันวาเลนไทน์ ฆ่านิยมวันเสียตัวแห่งชาติ



เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกับการออกมาให้ข่าวของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐอย่าง กระทรวงวัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งสื่อสารมวลชนทุกๆ แขนง พิพากษาให้ "วันวาเลนไทน์" ว่าเป็น "วันเสียตัวแห่งชาติ" ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจกับเด็กเป็นวงกว้างนั้น  

นายอรุณฉัตร   คุรุวาณิชย์ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวกับไทยรัฐออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นที่ผู้ใหญ่มักให้ภาพวันวาเลนไทน์กับวัยรุ่นเป็นภาพลบมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เขากล่าวไม่เห็นด้วยกับการที่ทุกๆ ปีนั้นจะมีผู้ใหญ่ออกมาอิงกระแสตราหน้าหาว่าวัยรุ่นใช้วันวันวาเลนไทน์เป็น "พลีกาย" เป็น "วันเสียตัวแห่งชาติ"

ข่าวป้ายสีเด็กลงฟรี ข่าวเด็กดีๆ ต้องเสียตังค์ลง

"ทุกๆ ปีผู้ใหญ่และสื่อ ให้ความสำคัญกับวันนี้มากมาย จนสถานประกอบการต่างๆ จับกระแสได้โดยเริ่มคลอดโปรโมชั่นแบบยั่วยวนให้กลุ่มเด็กเข้าไปใช้บริการเหล่านั้น ซึ่งแทนที่ผู้ใหญ่ สื่อ กระทรวงวัฒนธรรมจะนำเสนอหรือออกมาพูดในเรื่องดีๆ ของเด็กในวันนี้ ซึ่งมีเต็มหมด เช่น เด็กออกมาทำอะไรสร้างสรรค์ ออกมารณรงค์เรื่องดีๆ และขยายความหมายของวันนี้มากกว่าวันแห่งความรักเชิงชู้สาวที่เน้นความรักแบบต้องมีเซ็กส์กัน แต่ผู้ใหญ่และสื่อเลือกจับคู่เอาเรื่องเด็กกับสิ่งไม่ดีเสนอๆ"

พอเกิดด้านลบมากๆ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร บอกว่า
  จริงๆ วัยรุ่นที่ทำตัวไม่ดีมีแค่ 10 % พอออกข่าวไปแล้วก็บอกว่า "วัยโจ๋-นักศึกษา…" ถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่าเหมารวมหมด เด็กส่วนใหญ่ที่ทำตัวดีก็โดนด่า ซึ่งเป็นการพูดความจริงแค่นิดเดียว ผู้ใหญ่ใช้ไม่ได้ซึ่งคาดว่า วาเลนไทน์ปีนี้เด็กก็จะโดนกล่าวหาว่าทำตัวไม่ดีเหมือนเคย

"เด็กดีๆ หลายคนรู้สึกว่าเด็กๆ ถูกป้ายสีนะ แต่อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า "ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์" แทนที่เราจะมาลงข่าวว่าเด็ก
เราไม่ดียังไงๆ ทำไมผู้ใหญ่ไม่รณรงค์ว่าวาเลนไทน์เป็นวันสุภาพบุรุษ วาเลนไทน์เป็นวันมีคนมาช่วยกันในสังคม มาช่วยกันอนุรักษ์สังคม ไม่ต้องไปจงใจในเรื่องของเซ็กส์แอนตี้อยางเดียวแต่ว่าเป็นเรื่องของเรื่องทั่วไป  เราไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นวันแห่งความรัก  แต่เรารักอย่างอื่นได้  รักสังคมได้  รักพ่อแม่ก็ได้นะ อันนี้ผู้ใหญ่ควรจะรู้ไว้" ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าว



ค่านิยมวันวาเลนไทน์ ฆ่านิยมวันเสียตัวแห่งชาติ



มองมุมกลับ กับ วันเสียตัวแห่งชาติ

นอกเหนือความหมายวันวาเลนไทน์ หรือวันเสียตัวแล้ว ถามว่าปัจจุบันเด็กเสียคนเองหรือว่าโดนทุนนิยม โดนกระแสสังคมทำให้เสียคนประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร บอกว่าน่าจะมาจากปัจจัยรวมๆ ทั้งหมด

"
คำถามผมก็คือ ผู้ใหญ่ สื่อ และตำรวจทำไมไม่เปลี่ยนอีกมุมหนึ่งมาช่วยเด็กจัดกิจกรรมรักความสร้างสรรค์ แต่นี่กลายเป็นว่าวันวาเลนไทน์วัยรุ่นกลายเป็นอาชญากรรมไป ถามจับมาทำอะไรเขาได้ แถมไม่ได้ทำให้พฤติกรรมของเด็กๆ เปลี่ยนแปลงเลย"

ถามว่าใครไม่สร้างสรรค์กันแน่เด็กหรือผู้ใหญ่ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานครบอกว่าทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าเด็กไม่ดีหรือว่าผู้ใหญ่ไม่ดี
  อยากให้เด็กออกมาพูดบ้างว่าเทคผับที่เปิดอยู่ทุกวันนี้ทำไมไม่จัดโซนนิ่งล่ะ ทำไมมีผู้มีอิทธิพลยิงคนฆ่าคนตายเยอะล่ะ ฆ่าข่มขืนเยอะแยะทำไมผู้ใหญ่ไม่ทำตัวดีๆ  ถ้าเด็กออกมาพูดเรื่องนี้ผู้ใหญ่ก็เสียหมดแล้วอนาคตสังคมไทยจะได้อะไร

สร้างฮีโร่ เพราะฮีโร่ไม่สิ้น...!!!

"จริงๆเด็กมันเป็นไม้อ่อนที่มันดัดได้ แล้วก็มองอีกมุมว่าแทนที่เราจะมาโฟกัสว่าเด็กไม่ดีอย่างนั้นเรามาเปิดแผนที่ชีวิตสำหรับเด็กที่ดี ดีกว่าว่าการที่จะนำไปสู่เด็กที่จะเป็นการยอมรับของสังคมหรือว่าเรียนรู้ในการอยู่ในสังคมได้อย่างหลากหลาย ก็นำเสนอชีวิตของเด็กที่ดีเยอะๆ มันก็จะทำให้กระแสสังคมเกิดไอดอลเด็กก็จะรู้ว่าเค้าจะเดินตามใคร และเขาจะได้อะไร เขาจะได้มีฮีโร่ ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงต้องสร้างฮีโร่เยอะๆเพราะมันเป็นไอดอลให้เด็กได้ เด็กก็จะไม่รู้สึกว่าเขาต้องไปทำไม่ดี เขาทำดี เขาจะได้รับโน้นนี่นั่น ผมอยากให้ทำอะไรในเชิงแก้ปัญหาแบบยั่งยืนดีกว่า"

อย่างน้อยๆ อรุณฉัตร บอกว่า
ถ้าลองมาทำกิจกรรมดีๆ ต่อให้มีคนแค่  10 คน นั่นหมายถึง 10 คนจะดีขึ้น และ10 คนก็มีคนรู้จักอีกประมาณ 100 กว่าคนสังคมก็เปลี่ยนได้ เพราะการเริ่มต้นของคน 10 คนเช่นกัน นับจากนี้เรามองว่าอีก 10-20 ปี ถ้าคนที่มาเป็นรัฐบาลมีโมเดลในการสร้างคนด้วยการมอบปัญหา มอบการศึกษามากกว่าสร้างวัตถุ



ค่านิยมวันวาเลนไทน์ ฆ่านิยมวันเสียตัวแห่งชาติ



วันวาเลนไทน์ โจ๋ไทยกับทัศนะหลากหลายที่ผู้ใหญ่ปากร้ายต้องฟัง

นางสาวพินทุอร อุทัยวรรณ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงทรรศนะกับไทยรัฐออนไลน์ว่าวันนี้เป็นวันแห่งการสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ไปกับ ของขวัญและดอกไม้

"
มองว่าวันวาเลนไทน์ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ซึ่งนอกจากจะได้อยู่กับแฟนแล้วยังจะได้อยู่กับครอบครัวไปด้วยในตัว อย่างไรก็ดีพลอยอยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองให้เข้าใจเด็กว่าบางคนไม่มีความคิดแบบนั้น อยากให้ผู้ใหญ่มองว่าเด็กก็มีความคิดดีๆ เหมือนกัน" 

นางสาวรัสวดี
  วันทรงธรรม รัฐศาสตร์ปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนคิดว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ใหญ่กล่าวหาเด็กๆ แบบนั้น
คงเพราะผู้ใหญ่คิดว่าวันนี้มันเป็นค่านิยมของเด็ก อีกทั้งผู้ชายส่วนหนึ่งก็ใช้วันนี้เป็นข้ออ้างด้วย แต่จริงๆ แล้วผู้ใหญ่ลืมไปว่าเด็กที่เขาว่าเหลวแหลกนั้นเป็นส่วนน้อยของสังคมแค่ 20 % เท่านั้น

"วิธีแก้ไขได้นอกจากผู้ใหญ่จะหยุดตอกย้ำเอาเรื่องของคนกลุ่มเล็กมาพูดแล้ว ครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญในการปลูกฝังให้เรามีความยังยังช่างใจ ซึ่งวันวาเลนไทน์ไม่จำกัดอยูแค่ต้องอยู่กับแฟนเท่านั้น ความรักมันยังกินความหมายไปได้ ถึง พ่อ-แม่-ครู
  ท่านเลี้ยงและสั่งสอนเรามาก็ควรจะตอบแทนท่านด้วยความรักและเอาใจใส่ดีกว่าไปทำตัวเหลวไหล"

นาย ชูวรรธณ์ ชีวะอุดมกล่าวว่า ในฐานะผู้ชายผมมีความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษวันหนึ่งบนหน้าปฏิทินเท่านั้น
  ก็คงจะมีของขวัญมอบให้กับคนรัก 
แต่ก็ไม่ได้หมายความถึงแฟนอย่างเดียวหมายถึงครอบครัวพ่อ แม่ พี่น้อง ด้วย  อาจจะมีการไปทานข้าวด้วยกัน ไม่ใช่คิดแต่ว่าจะให้แต่แฟนแค่คนเดียวซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัว

"ทุกๆ ครั้งที่พวกผู้ใหญ่นินทาเด็กว่าวันนี้มันจะต้องเสียตัวกันนั้น ผมมองว่ามันเป็นค่านิยมที่ผิดๆ เป็นทัศนะคติดที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งถ้าหากผู้ใหญ่เอาแต่ด่าๆ แล้วก็ไม่หาทางออกให้
เรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการแก้ไขสักที สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คืออยากให้ภาครัฐตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันาปลูกฝังค่านิยมใหม่ดีๆ กระทั่งสร้างคอมเพล็กดีๆ เพื่อให้เยาวนไปทำกิจกรรมและหาความรู้ดีแบบไม่เสียเงิน ดีกว่าโกงชาติบ้านเมือง" 

นางสาวสิรามล
  วงศ์คงคำ  นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม  คณะนิเทศศาสตร์ กล่าวว่าทำไมคนไทยต้องให้ความสำคัญกับวันนี้ด้วย วันที่ 14 ก.พ.ทุกๆ ปี

"สำหรับเราเป็นวันไร้สาระแห่งชาติเป็นวันแห่งการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ที่ต้องเสียเงินซื้อของขวัญแลกกับแฟน พอได้แลกของขวัญกันก็ทำให้เรารู้สึกถึงการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
เรื่องแบบนี้วัยุรุ่นหลายคนคิด แต่ไม่ค่อยมีสื่อที่จะสื่อสารออกไป ซึ่งผู้ใหญ่เคยรู้ไหมว่าการออกมาพูดแบบนี้ทำให้โรงแรมม่านรูดต่างๆ จัดโปรโมชั่นมากมายแล้วใครได้ประโยชน์ แต่คงไม่ใช่เด็กแน่ๆ เรื่องผิดกฎหมายแบบนี้ทำไม่กระทรวงวัฒนธรรมไม่ทำ". 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์