มีรัก ต้อง มีเซ็กส์ ด้วยหรือ?

มีรัก ต้อง มีเซ็กส์ ด้วยหรือ?

ความรู้สึกเป็นความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้นธรรมชาติต่อใครสักคน ทำให้เรารู้สึกอยากสนิทสนมอยากอยู่ใกล้และอยากสัมผัส

เมื่อคน 2 คน เข้าใจเปิดใจพูดคุยยอมรับความคิดเห็นของอีกฝ่ายหนึ่ง ความสุขรักจึงเกิดขึ้น “เซ็กส์เป็นเพียงส่วนหนึ่ง” ของความรักเท่านั้น เพราะความรักอาจแนบแน่นได้ ด้วยกิจกรรมอื่นๆร่วมกัน นอกเหนือจากการมีเซ็กส์

ความรัก

ความรัก
เป็นอารมณ์และการตอบสนองที่เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ การเรียนรู้จากความรักมักเริ่มจาก ความรักในลักษณะพึงพา (Anaclitic Love) ซึ่งไม่ได้พื้นฐานมาจากความต้องการทางเพศ แต่เป็นความรักที่ประกอบไปด้วยเหตุผล ความเอื้ออาทร และปรารถนาดีต่อกัน จากนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหญิงชายหนุ่มสาว ก็จะได้เรียนรู้ถึงความรักของชู้สาว (Romantic Love) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากความต้องการทางเพศอันเป็นผลมาจากอิทธิพลของโฮโมนเพศ  


หญิงชาย
ที่มีความรักและมีเป้าหมายเพื่อร่วมทางแห่งชีวิตสมรสด้วยกันจึงต้องมีความ รักทั้งสองประเภทประกอบกัน หากมีเพียงความรักที่เกิดจากความต้องการทางร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ตามคือความล้มเหลวในชีวิตรัก เพราะเมื่อร่างกายของคู่รักเปลี่ยนแปลงไปความเบื่อหน่ายก็จะเกิดขึ้น และจบลงด้วยการแสวงหาคนใหม่เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป สิ่งที่ต้องระมัดระวัง อีก ประการ หนึ่งคือ ต้องแยกให้ออกระหว่างความรักกับความพึงพอใจซึ่งทั้งสองสิ่งอาจมีความคล้าย คลึงกันจนยากที่จะแยกให้เห็นความแตกต่าง โดยเฉพาะในกรณีวัยรุ่นที่ไม่มีประสบการณ์  


ความพึงพอใจ
เป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นจากความรู้สึกสนใจอีกฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ จนเกิดความพึงพอใจและลุ่มหลง แต่ความพึงพอใจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากและไม่ยั่งยืน มักเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป  


ความรัก
มีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวคนที่ตนรัก แต่ความพึงพอใจมีศูนย์อยู่ที่ความต้องการของตนเอง แม้ความ พึงพอใจจะสามารถพัฒนาไปสู่ความรักก็ตาม แต่เราก็ควรตระหนักและรู้เท่าทันความรู้สึกของเราว่ากำลังเกิดความรักหรือ ความพึงพอใจ


มีรัก ต้อง มีเซ็กส์ ด้วยหรือ?

หนุ่มสาวเมื่อรักกัน หนุ่มสาวเมื่อรักกันก็อยากอยู่ใกล้กัน ความใกล้ชิดและการอยู่ด้วยกันลำพังสองต่อสองในที่ลับตาคนอาจนำไปสู่การมีเพศ สัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ เพราะผู้ชายมักจะคิดไว้แล้ว โดยที่ผู้หญิงมักจะเคลิบเคลิ้มตามได้หากคิดจะมีเพศสัมพันธ์ให้ลองทบทวนว่า



  • เราทั้งสองคนพร้อมที่จะมีอะไรกันหรือยัง

  • เราสามารถที่จะรับผิดชอบทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ แน่ใจหรือเปล่า

  • พ่อแม่ที่สองฝ่ายยอมรับเรื่องแบบนี้ได้หรือเปล่า

  • ผู้หญิง…..หากคิดว่าไม่พร้อมถ้าจะมีอะไรก่อนแต่งงาน ควรพูดให้ผู้ชายเข้าใจก่อนจะเคลิบเคลิ้มตามไป

  • ผู้ชาย…..ควรรับฟังและใส่ใจความรู้สึกของคนรักไม่ควรคิดเอาแต่ฝ่ายเดียว

  นิยามความรักของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ความรักไม่ต้องการแค่วันเดียวความรักไม่เกี่ยวกับวันไหน
ความรักไม่ต้องมีเวลาใด ความรักไม่ต้องการให้ใครชี้
ความรักไม่ต้องมีข้อวิจารณ์ ความรักไม่ต้องการกดขี่
ความรักไม่ต้องการให้ใครตราตี ความรักไม่ต้องมีเส้นพรมแดน
ความรักไม่ต้องรอข้อพิสูจน์ ความรักไม่ต้องมีเส้นพรหมแดน
ความรักไม่ต้องการตอบแทน ความรักไม่ต้องแค่นหัวใจคน
ความรักไม่ต้องการการเป็นต่อ ความรักไม่ต้องรอขอเหตุผล
ความรักไม่ต้องต้องย้ำความมีจน ความรักไม่ต้องทนที่จะรัก

สรุป ความรักเป็นอะไรที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล ซึ่งจะตรงความรักของวัยรุ่นมาก แต่เมื่อเติบโตขึ้น เมื่อวันเวลาผ่านไปนานขึ้นเราก็จะรู้ว่าความรักที่ยั่งยืนนั้นต้องมีทั้งอารมณ์และเหตุผล มิใช่อารมณ์แต่อย่างเดียว
 

นายแพทย์ สุกมล วิภาวีพลกุล

เรื่องความรักเป็นเรื่องสวยงาม เป็นสิ่งที่เราสามารถออกแบบให้เป็นความรักที่ดีได้ โดยเฉพาะรักแรก ที่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แต่เป็นบทพิสูจน์การเรียนรู้จักตนเองเพื่อจะค้นหาวิถีแห่งรักที่แท้จริง สำหรับตนเอง ได้ให้แง่คิด ในการมีความรักสำหรับวัยรุ่นว่า ต้องรู้จักรักให้เป็น
 

ความรักมีอยู่
4 ระดับ คือ
1. ‘รักใคร่ใฝ่กามา’ นั่นคือ ความรักของคนทั่วๆ ไปที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
2. ‘รักหวังวิวาห์มาคู่กัน’ ความรักประเภทนี้ เป็นความรักในวัยรุ่น คิดว่าความรักสำคัญมาก จะมีการหึงหวงตามมา
3. ‘รักปันแบ่งความสุข’ แต่เมื่อพ้นวัยนี้ เราจะรู้จักรักที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และความห่วงใย คือ ‘รักปันแบ่งความสุข’ และ
4. ‘รักยอมทุกข์ เพื่อสุขเธอ’ เป็น ความรักที่สูงสุด คือ ความรักของพ่อและแม่ ‘รักยอมทุกข์ เพื่อสุขเธอ’ ซึ่งพ่อแม่ชาวไทย มักจะไม่ค่อยพูดหรือแสดงความรักกับลูก ทั้งที่แท้จริงแล้วรักลูกมากความจริงสำหรับวัยใสที่อยากค้นหาความรักว่าเป็นอย่างไร น่าจะได้รู้ว่าความรักมีขั้นตอน เรียนรู้จักความรักตาม step ไม่ลัดขั้นตอนรัก จะได้รู้ว่ารักแท้เป็นอย่างไร  


มีรัก ต้อง มีเซ็กส์ ด้วยหรือ?

Step แรก : มิตรภาพ
การเรียนรู้เรื่องความรัก ความเข้าใจระหว่างความรู้สึกชาย-หญิง การรู้จักธรรมชาติของกันและกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความสัมพันธ์ ช่วงวัยรุ่นตอนต้นการมีเพื่อนทั้งหญิงและชายเป็นการเรียนรู้ความสัมพันธ์ที่ แตกต่างของเพื่อนทั้งสองเพศ หลายคนเคอะเขินเวลาที่อยู่ต่อหน้าเพื่อนต่างเพศ ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงที่เขิน ผู้ชายก็เขินเหมือนกัน การเริ่มทำความรู้จักแบบกลุ่มจะลดความเขินลง เรียกว่าทำตามๆ กลุ่มไป การเริ่มเข้ากลุ่ม พูดคุย ทำกิจกรรม ทั้งในการเรียนและกิจกรรมอื่น ทำให้เริ่มเข้าใจความแตกต่างระหว่างเพศ การวางตัวเพื่อทำความรู้จักกัน การคบหากันเป็นเพื่อน อีกทั้งมิตรภาพที่ดีทำให้เวลาเกิดความไม่เข้าใจ สามารถสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจได้ง่าย เพื่อเรียนรู้และทำความรู้จักความเป็นชายความเป็นหญิง
 

Step 2 : ความรู้สึกพิเศษ

รู้จักกันแบบเพื่อนเป็นเวลาที่ดีของวัยของการมีเพื่อน เวลาผ่านไปหลายคนยังคิดถึงมิตรภาพเมื่อวัยเยาว์กับเพื่อนทั้งกลุ่ม แต่เมื่อมิตรภาพผ่านไปเวลาหนี่ง อาจเริ่มพบว่าในความรู้สึกแบบธรรมดาๆ ที่มีให้กับเพื่อนต่างเพศ เริ่มมีความรู้สึกที่แตกต่างกับเพื่อนหรือคนอื่นที่เป็นเพื่อนต่างเพศ จะเรียกว่าปิ๊งก็ได้ แต่ที่ควรรู้คือบางครั้งเป็นแค่อาการปลื้ม เช่น ปลื้มรุ่นพี่ ปลื้มนักกีฬาโรงเรียน ปลื้มน้องน่ารัก ปลื้มดาวโรงเรียน เก็บไปฝันถึง คิดจินตนาการไปคนเดียวบ้าง ต้องสำรวจใจให้ดีว่าเป็นอาการปลื้มหรือเริ่มรู้สึกเป็นพิเศษ

ความรู้สึกเป็นพิเศษอาจเริ่มต้นที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือใจตรงกันเริ่มรู้สึกตรงกันจากความใกล้ชิดที่มีต่อกันจนเริ่มรู้สึกว่า ความเป็นเพื่อนมีความเป็นพิเศษกว่าที่เคยเป็น ความรู้สึกพิเศษกับใครควรเป็นความรู้สึกพิเศษจริงๆ ไม่ใช่เกิดกับใครต่อใครไม่เลือก เรียกว่าเข้าใกล้ใครเป็นเกิดอาการตกหลุมรักอยู่เรื่อย ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่เรียกว่าพิเศษ ต้องหัดควบคุมความรู้สึกให้มีความเป็นเพื่อนที่ดีกับเพศตรงข้ามมากขึ้น จนกว่าจะเจอคนที่คิดว่าใช่  

มีรัก ต้อง มีเซ็กส์ ด้วยหรือ?

Step 3 : เริ่มต้นรู้ใจกัน
เจอ คนที่พิเศษแล้ว บางคนตั้งคำถามว่าใช่รักแท้หรือไม่ อาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบ ที่สำคัญจะสื่อสารอย่างไรให้รู้ว่าใจตรงกัน หากเราเป็นฝ่ายรู้สึกเป็นพิเศษ การเริ่มสื่อสารสามารถใช้ทั้งภาษาท่าทางและภาษาพูด แต่ภาษาท่าทางอาจจะง่ายและสะดวกใจมากกว่า เริ่มต้นจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สนใจร่วมกัน ท่าทางเอาใจใส่ แสดงความสนใจเป็นพิเศษ มักทำให้อีกฝ่ายเริ่มรับรู้ความเป็นพิเศษ หากอีกฝ่ายมีใจให้กันจะพบว่าความรู้สึกจะสอดคล้องและต่างฝ่ายต่างสนใจซึ่ง กันและกัน
เวลาระหว่าง การเริ่มทำความรู้จัก-รู้ใจ เป็นเวลาที่ได้เรียนรู้ใกล้ชิดมากขึ้น ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร ต้องยอมรับความจริงว่า ใจอาจไม่ตรงกัน ไม่ได้แปลว่าเราแย่ ไม่น่าสนใจ แต่เรื่องความรู้สึกเป็นพิเศษเป็นเรื่องของคนสองคนที่เปิดใจให้กัน แต่กว่าจะรับได้ว่าไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง คงต้องฝึกใจให้ยอมรับ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่เอาแต่อารมณ์ความต้องการของตนเอง การตอบสนองจากอีกฝ่ายเหมือนการเรียนรู้อีกขั้น จะสมหวังหรือผิดหวังก็เป็นอีกขั้นหนึ่งที่จะได้ก้าวต่อไป

Step 4 : รักก้าวหน้า
จาก จุดเริ่มต้นที่ใจตรงกัน ความรักเพิ่งเริ่มต้นเดินทาง ว่ากันว่าการหาคนรู้ใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่ยากกว่าคือการรักษาความรู้สึกดีๆ ต่อกันให้ยืนยาว การรักษาความรักเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ ระยะเวลาที่ผ่านไปจะเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม ยอมรับการเป็นคนรักของกันและกัน ความรู้สึกแบบแรกพบอาจลดอานุภาพลงบ้าง มีความคุ้นเคยกันมากขึ้น เหมือนคนใกล้ตัว รู้จักตัวตนกันมากขึ้น ผ่านประสบการณ์ทางอารมณ์ ทั้งชอบใจและไม่ชอบใจ เริ่มขัดแย้งทะเลาะกันไป รักกันไป
ระยะเวลาช่วงนี้ จะสั้นหรือยาวอยู่ที่การเรียนรู้จักถนอมความรัก มีความสม่ำเสมอ แสดงความรู้สึกต่อกัน ให้เวลากับความรัก สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยน ให้กำลังใจกัน จะทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดาของคนสองคน ต้องรู้วิธีหาข้อตกลงทำความเข้าใจกัน ส่วนจะโรแมนติคมากน้อยอยู่ที่แต่ละคู่ หัวใจสำคัญอยู่ที่ความมั่นคง จริงใจต่อกัน เห็นคุณค่าของกันและกัน อยู่ด้วยกันก็มีช่วงเวลาดีๆ ไม่ได้เจอกันรู้สึกคิดถึง รักจะก้าวหน้าต้องขึ้นอยู่กับพันธะสัญญาใจของทั้งสองฝ่ายที่จะถนอมรัก ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโลเล ความรักอาจต้องจบลงช่วงเวลาของรักก้าวหน้า เป็นช่วงเวลาการเรียนรู้จักตัวตนของอีกฝ่าย และในขณะเดียวกันสะท้อนให้รู้จักตัวเองไปด้วย หลายคนโชคดีได้เจอคนที่ใช่ ได้พบความรักที่ดี แต่บางคนอาจไม่โชคดี รักไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ต้องหันกลับมาดูว่า เราคาดหวังเกินจริงหรือว่าเจอคนที่ไม่ใช่ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวังกับความรัก เราต้องมีสติกับความรักเสมอ จำไว้ว่าชีวิตไม่ได้จบเพราะอกหัก
ส่วนเรื่องเซ็กส์ อาจเป็นเพียงการสื่อสารความรักอีกวิธี ที่ไม่ควรใช้ก่อนหน้าจะถึงขั้นของรักก้าวหน้าเป็นอันขาด เพราะการสื่อสารด้วยเซ็กส์เป็นการสื่อสารที่เป็นส่วนตัวมาก ถ้าใช้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคนถึงจะเป็นประโยชน์กับการสื่อสารรัก และที่สำคัญเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องของความรับผิดชอบ ทั้งชีวิตของตัวเองและชีวิตของอีกคน ควรตัดสินใจให้ดีที่สุด

Step 5 : รักจริงหวังแต่ง
เป็น ขั้นของความรักที่ก้าวหน้าต่อไป เป็นความรู้สึกที่เข้าใจกัน ความยอมรับอีกฝ่ายอย่างที่เขาเป็น เกิดเป็นความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น เรียกได้ว่าความรักมั่นคง รอเวลาที่มีความพร้อมพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของกันและกัน หลายคู่เดินทางมาถึงเวลาที่ตัดสินใจว่าอยากมีอนาคตร่วมกัน ส่วนจะต้องมีพิธีแต่งงานกันอย่างไรเป็นเรื่องของสังคมวัฒนธรรมที่เลือกให้พอ เหมาะกับตนเอง ความรักที่จะเดินต่อจากนี้ไปคงไม่ได้อยู่ที่พิธีแต่งงาน แต่อยู่ที่สัญญาใจที่มีต่อกันว่าจะรักษาสัญญาอีกนานเท่าไหร่ จะยอมรับชีวิตคู่ที่ต้องเสียสละ รับผิดชอบ และเติมความรักให้กันได้ขนาดไหน ถ้าประคองความรัก ดูแลกันและกันไปได้ตลอด ก็จะเป็นความรักที่ตลอดรอดฝั่ง 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์