วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม

วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม

วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม

นำผึ้ง เป็นน้ำหวานที่ได้มาจากธรรมชาติ  ที่เกิดจากการผลิตของแมลงที่เรียกว่า "ผึ้ง"  น้ำผึ้งมีหลายชิด ทั้งน้ำผึ้งป่า  คือ  น้ำผึ้งที่ได้มาจากรังของผึ้งป่า  และน้ำผึ้งเลี้ยง คือ น้ำผึ้งที่ได้จาก ผึ้งที่คนเลี้ยงตามบ้าน หรือตามฟาร์มเลี้ยงผึ้ง หลาย ๆ ท่านคง ได้ชิมลิ้มรศกับน้ำผึ้งที่หวานฉ่ำกันมาแล้ว  แต่ทราบมั้ยล่ะครับว่า น้ำผึ้งที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้มา  จากการเดินตลาด ไปหาซื้อ  มีคนเอามาแจกเป็นของขวัญ ในวันสำคัญบ้าง ก็แล้วแต่คุณ ๆ ท่าน ๆ จะได้มา  ทราบมั้ยล่ะครับว่า  น้ำผึ้งที่ได้มา  เราจะสังเกตหรือรู้ได้อย่างล่ะครับว่าเป็นของแท้ หรือของเทียม  คำถามนี้เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงทราบ และหลาย ๆ ท่านคงยังไม่ทราบ ว่าเค้ามีวิธีการทดสอบอย่างไร  ผู้เขียนเองจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้  มาให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ และสามารถนำไปปฏิบัติได้เมื่อถึงคราวจำเป็นจะได้นำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครับ

 

ผลจากการศึกษาและค้นคว้าวิจัยของ อาจารย์หทัยพร ศิรินามารัตนะ ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ให้ความรู้ว่าการทดสอบน้ำผึ้งว่าเป็นของแท้หรือไม่ ถ้าจะให้ถูกต้องแม่นยำ ต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ทดสอบปริมาณกลูโคส ไม่มีวิธีการทดสอบง่ายๆ อย่างที่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม มีหลักเกณฑ์วิธีที่พอจะใช้ได้สำหรับดูหรือสังเกตน้ำผึ้งแท้และดีได้ ดังนี้

 


1.น้ำผึ้งควรมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ระบุไว้บนฉลากข้างขวดน้ำผึ้ง เช่น น้ำผึ้งลำไยก็ควรมีกลิ่นของลำไย เป็นต้น

2.น้ำผึ้งต้องมีความหนืด แม้ในอากาศร้อนหรืออุณหภูมิห้อง

3.น้ำผึ้งต้องมีสีอ่อนตามธรรมชาติที่ได้เก็บเกี่ยวมา ถ้ามีสีเข้มมากจนดำแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งที่เก็บมานานแล้ว ซึ่งน้ำผึ้งที่เก็บมานานคุณประโยชน์ก็จะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นควรดูวันหมดอายุที่ข้างขวด แต่ทั้งนี้เป็นข้อมูลที่ไม่เที่ยงตรงนัก เพราะน้ำผึ้งอาจถูกเก็บไว้นานเป็นปีก่อนนำมาขาย

4.น้ำผึ้งต้องไม่แยกชั้น ต้องอยู่เป็นเนื้อเดียวกัน แม้ในบางครั้งอาจพบน้ำผึ้งเกิดการตกผลึกเนื่องจากเป็นน้ำผึ้งที่ได้มาจากการเลี้ยงด้วยดอกไม้ต่างชนิดกัน แต่น้ำผึ้งแท้ที่ตกผลึกจะมีผลึกเป็นแท่งเหลี่ยมแหลมเปราะบาง และถ้าตกผลึกทั้งขวดจะมองเห็นสีผลึกเป็นสีเดียวกันทั้งขวด ไม่เป็นสีเข้มปนสีอ่อนตกผลึกอยู่ที่ก้นขวด เหนือผลึกขึ้นมาเป็นของเหลวและสีของเหลวนั้นมีสีเข้มกว่าผลึกอย่างเห็นได้ชัด เรียกลักษณะนี้ว่าน้ำผึ้งตกตะกอน โดยทดสอบน้ำผึ้งที่ตกตะกอนได้โดยนำไปแช่ตู้เย็นจะเห็นได้ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น

5.น้ำผึ้งต้องสะอาด ไม่มีสิ่งเจือปน ถ้ามีแสดงว่าวิธีการเก็บเกี่ยวไม่ดี

ถ้าดูน้ำผึ้งไม่เป็นเลยก็อาจดูจากฉลาก บริษัทผู้ผลิตว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ได้รับการรับรองจากองคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ เป็นแนวทางในการเลือกซื้อ และเมื่อได้น้ำผึ้งที่ดีแล้วต้องเก็บในภาชนะปิดสนิท เก็บในที่เย็น แต่ไม่ควรแช่ตู้เย็น (อุณหภูมิห้องทั่วไปที่ไม่ร้อนมากนัก) และควรเก็บในขวดปากแคบ ถ้ารับประทานน้ำผึ้งทุกวันให้แบ่งน้ำผึ้งออกมาไว้ในขวดปากกว้างเพื่อสะดวกต่อการใช้และทำให้เก็บน้ำผึ้งได้นานไม่เสียง่าย

ส่วนการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ น้ำผึ้งคือผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ และจากแหล่งน้ำหวานอื่นๆ ที่ผึ้งนำมาเก็บสะสมไว้ในรังผึ้ง ประกอบด้วย 


1.น้ำ โดยน้ำผึ้งจะประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนประกอบไม่เกินร้อยละ 20
2.คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่มากที่สุด คือมีปริมาณร้อยละ 79 ในรูปของน้ำตาลฟรักโทส และกลูโคส โดยมีปริมาณน้ำตาลฟรักโทส มากกว่าน้ำตาลกลูโคสเล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่น
3.กรด มีประมาณร้อยละ 0.5 ทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย โดยกรดที่พบมากคือกรดกลูโคนิก
4.แร่ธาตุ มีประมาณร้อยละ 0.5 ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โปตัสเซียม ฟอสฟอรัส โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้มจะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน
5.วิตามิน เช่น ไรโบเฟลวิน ไนอะซิน เป็นต้น


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์