รู้ไว้ก่อนไปดำน้ำ

รู้ไว้ก่อนไปดำน้ำ



นักดำน้ำควรทำตัวให้แข็งแรง เพราะว่าการออกกำลังกายชนิดนี้ ยังต้องอาศัยกำลังในการแบกเครื่อง ดำน้ำที่หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัมหรือมากกว่า...

หลายปีมานี้กีฬาดำน้ำเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นยิ่งอากาศร้อนๆ อย่างนี้ใครๆ ก็คิดถึงการลงน้ำกันทั้งนั้น

การดำน้ำนั้น มีทั้งแบบ ดำน้ำลึก (Diving) และ ดำผิวน้ำ (Snorkeling) หากคิดจะเริ่มต้นเรียนดำน้ำ ควรจะต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนจะไปเรียน โดยผู้จัดงาน ไทยแลนด์กอล์ฟแอนด์ไดฟ์ เอ็กซ์โป2010 ให้ข้อมูลว่า ต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นโรคอะไรบ้าง ส่วนใหญ่แล้วโรคอันตรายและเกี่ยวข้องกับการดำน้ำ ได้แก่ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับหู และโรคหอบหืด

นักดำน้ำควรทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการหมั่นออกกำลังกายทำจิตใจให้ปกติ ไม่เครียด ในกรณีของเด็กน้อย สามารถเริ่มเรียนดำน้ำได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ไม่ควรดำน้ำลึกเกิน 21 เมตร เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเติบโตของกระดูกของเด็ก ส่วนผู้ใหญ่ที่มากกว่า 15 ปีสามารถลงได้ลึกถึง 30 เมตร

ที่บอกว่านักดำน้ำควรทำตัวให้แข็งแรง เพราะว่าการออกกำลังกายชนิดนี้ ยังต้องอาศัยกำลังในการแบกเครื่องดำน้ำที่หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัมหรือมากกว่า จึงจำเป็นที่ผู้เรียนดำน้ำหรือผู้ที่ดำน้ำควรต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ การนอนหลับให้เพียงพอ และกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ไม่ควรสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้การหมุนเวียนของโลหิตเร็วขึ้น

ในกรณีนักดำน้ำหญิง มีข้อสงสัยว่าขณะมีประจำเดือนจะดำน้ำได้หรือไม่ คำตอบคือได้ เพราะเมื่อลงน้ำแล้ว ร่างกายกระทบกับความเย็นทำให้เลือดหยุดในขณะนั้น ส่วนการดำน้ำขณะตั้งครรภ์ ปัจจุบันยังไม่ สามารถพิสูจน์ได้ว่าความดันของน้ำจะมีผลต่อการพัฒนาของลูกในท้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ดำน้ำในขณะท้อง เนื่องจากผลกระทบต่อเด็กในท้องยังไม่แน่ชัด.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์