ชะตากรรมคนกรุงเทพ ; ทำไมฝนตก แล้วรถต้องติด…-

ชะตากรรมคนกรุงเทพ ; ทำไมฝนตก แล้วรถต้องติด…-



แม้ว่าปีนี้จะแล้ง..ชาวบ้านที่ยังต้องเอาชะตาชีวิตฝากไว้กับฟ้าฝนอาจจะต้องเดือดร้อนในการเลี้ยงชีพมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา

แต่นั้นไม่ได้แปลว่าฝนที่กรุงเทพฯ ก็ยังตก และรถก็ยังติด มากกว่าปกติ…ในเวลาที่ฝนตก..

เชื่อว่าหลายคนที่อยู่ และเคยอยู่กรุงเทพฯ น่าจะเข้าใจสถานการณ์รถติดจนนิ่งในยามฝนตก และคิดว่าหลายคงก็รู้ว่าแล้วทำไมฝนตก รถต้องติด คำถามนี้อาจไม่ค่อยสร้างสรรค์

ถ้าคำตอบไม่ครบ ขาด ตก อะไร คิดว่าคนอ่าน(มั่นใจมั๊ยเนี่ยว่ามีคนอ่าน) น่าจะช่วยเติมเพิ่มให้คนเขียนได้เข้าใจสาเหตุของรถตกตอนฝนติดได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มาเริ่มฟันเฟิร์มที่มาของโศกนาฏกรรมขนาดย่อมบนถนนตอนฝนโปรยกันดีกว่าค่ะ

1. เพราะรถไม่ติดเนื่องจากรถยนต์บ้านเราราคาแพง
 การใช้รถให้คุ้ม หรือซื้อรกมือสองมาใช้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ต้องการจะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง บทถนนของกรุงเทพฯ รถบันทึกประวัติศาสตร์ใช้มาตั้งแต่สมัยคุณปู่ยังหนุ่ม คุณย่ายังสาวจึงยังมีวิ่งให้เห็นเป็นสีสัน แซมรถป้ายแดง รถถูก รถแพงทั้งหลาย และปัจจุบัน บ้านเรายังไม่ได้มีการกำหนดอายุการใช้งานรถ ทนใช้กันได้ก็ใช้กันไป ข้อบังคับที่มีอยู่ขณะนี้จึงเป็นเพียงแค่มาตรการคุมเข้มรถยนต์บุคคลที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี บังคับให้ตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง มาตรการนี้คงเข้มมาก จนกระทั่งมีรถเสียให้เห็นเป็นระยะๆ เวลาที่ฝนตก น้ำท่วมถนน ทำให้เกิดอาการจราจรติดขัดมากขึ้นไปอิก

2. เพราะว่าประสิทธิภาพการทำงานของกรุงเทพยังไม่ดีพอ
ทำให้ยังแก้ไขปัญหาการกระบายน้ำไม่ทัน น้ำท่วมถนน รถวิ่งได้ช้า และบางรายวิ่งไม่ได้เลยเพราะไม่ติด กลายเป็นรถนิ่งบนถนน


3. รถบนถนนมีเพิ่มขึ้นๆ ๆ
 สังเกตจากยอดจองในงานมอเตอร์โชว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณ 18,000 เมื่อปี 2008 เป็น 25,220 คัน ในปี 2009 และ ประมาณ 27,000 คันในปีนี้ นอกจากความต้องการที่จะยกสถานะทางสังคมแล้ว ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะระบบขนส่งมวลชนสาธารณะก็มีประสิทธิภาพจนน่าระอาใจ ทั้งความเก่า ความช้า ความตรงเวลา เป็นเลิศอย่างรอบด้าน จึงทำให้การมีรถยนต์เป็นความฝันหนึ่งของคนเมืองที่จะหลุดพ้นจากความยาก ลำบาก ไม่ปลอดภัย ฯลฯ แม้ว่าสิ่งที่ได้มานั้น จะแลกด้วยภาระค่าใช้จ่ายหลายอย่างตามมา (เข้าใจว่าต่อให้ฝนไม่ตก รถก็ติดเพราะสาเหตุนี้อยู่ดี – -”)


4. คนระมัดระวังอุบัติเหตุมากขึ้น
 เนื่องจากถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี ฯลฯ ทำให้ขับรถช้าลง


5. คนหันมาใช้รถแท๊กซี่มากขึ้นและรถยนต์ในการเดินทางมากขึ้น
เพราะมีโอกาสจะต้องเผชิญฝนน้อยที่สุด เนื่ืองจากอยู่ใต้หลังคาตลอดเวลา ไม่ต้องรีบวิ่งขึ้นรถ หรือยืนหลบรอรถเมล์ที่ป้าย วิ่งไปสถานีรถไฟฟ้า หรือเสี่ยงฟ้าผ่าขณะซ้อนท้ายแมงกะไซด์

ุ6. มีการรับส่งกันเพิ่มขึ้น
เช่น ไปส่งเพื่อนที่บ้าน ไปส่งภรรยาที่ทำงาน ไปส่งลูกที่โรงเรียน แทนที่จะให้เดินทางตามยถากรรมแบบสู้ชีวิตมากกว่าปกติ ทำให้รถหลายคันต้องวิ่งในระยะทางที่ไกลขึ้น และใช้เวลาบนถนนนานกว่าที่เคย เหมือนฝนจะเป็นทั้งเหตุให้ครอบครัวผูกพันรักกันมาขึ้นนะคะเนี่ย


ไม่รู้ว่าที่มาของรถติดตอนฝนตกจะครบหรือยัง แต่เชื่อว่าหาคุณอ่านแล้ว..น่าจะพอมีคำตอบในใจว่าเราจะสามารถทำอย่างไร เพื่อเปลี่ยนให้รถติดตอนฝนตกทุเลาเบาบางลงบ้าง?หวังว่าคงไม่ใช่การเลิกไปส่งไปรับคนที่คุณควรไปรับส่งตอนฝนตกนะคะ



ขอบคุณบทความจาก

do you know Y? Blog

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์