พลังบำบัดแห่งว่านหางจระเข้

พลังบำบัดแห่งว่านหางจระเข้

นี่คือพืชอัศจรรย์ที่มีสรรพคุณในการรักษาบาดแผล ปวดท้องอาหารไม่ย่อย และล้างพิษ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้มากมายวางขายตาม ท้องตลาด ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันดีกว่า

ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีสรรพคุณในการบำบัด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีชนิดหนึ่ง ถูกยุงกัดก็ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่ถูกกัด ปวดท้องอาหารไม่ย่อย ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการปวดกระเพาะ"เราพบว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาโรคมากมาย ด้วยเหตุที่ว่านหางจระเข้ถูกใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟันไปจนถึงกระดาษชำระ จึงทำให้หลายคนสับสน" เพนนี ไวเนอร์ประธานสมาคมผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ (Health Food Manufacturers Associaton-HFMA) กล่าว
"เราได้กำหนดมาตรฐานของว่านหางจระเข้ที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกใน ประเทศอังกฤษ วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักวิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ"

ว่านหางจระเข้เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ มีแหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พันธุ์ของว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กแค่ 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมีสีต่างๆ กัน เช่น เหลือง ขาว และแดง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์

ต้นว่านหางจระเข้ที่จะนำมาใช้ ควรเป็นต้นที่ปลูกนานหนึ่งปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ต้นเล็กๆ ก็มีสรรพคุณในการรักษาเช่นกัน แต่สรรพคุณของมันจะมีมากขึ้นตามอายุปกติควรใช้ใบล่างสุด เพราะเป็นใบที่แก่และใหญ่กว่าใบอื่น ดังนั้นจึงมีเมือกมากและมีคุณค่าทางยามากกว่า เมื่อเราปอกเปลือกว่านหางจระเข้จนหมด จะเหลือส่วนที่เป็นเนื้อใสๆ ที่เรียกว่าวุ้น และเมื่อขูดวุ้นนี้ออกจะมีน้ำไหลออกมาเรียกว่า เมือก

ก่อนนำใบว่านหางจระเข้มาใช้ ต้องล้างให้สะอาดเสียก่อน ใบว่านที่นำมาใช้ ยิ่งสดจากต้นเท่าไหร่ยิ่งดี ทั้งนี้เพราะใบที่ถูกตัดจากต้นแล้วสรรพคุณจะลดลงเรื่อยๆ วิธีประหยัดต้นว่านหางจระเข้และทำให้มีสรรพคุณดีที่สุด คือตัดใบเอามาใช้เท่าที่จำเป็นและพอใช้ในหนึ่งวัน วันรุ่งขึ้นหากต้องการใช้ ก็ไปตัดจากต้นมาใหม่ หากต้องการใช้เพียงเล็กน้อย แต่ตัดเอามาใช้ทั้งใบ ส่วนที่เหลือเก็บไว้ วิธีนี้จะทำให้สิ้นเปลืองและใบว่านหางจระเข้จะมีสรรพคุณลดลง ควรตัดใบออกมาเพียงบางส่วนก็พอ เพราะวุ้นจากว่านหางจระเข้ที่แม้จะนำไปแช่ตู้เย็น ก็ยังทำให้เสื่อมสรรพคุณเร็วเช่นกัน

ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่ปลูกกันทั่วโลก ว่านหางจระเข้พันธุ์ที่นิยมใช้ในซีกโลกตะวันตกเรียกว่า aloe barbadensis miller เหตุที่ได้รับความนิยมเพราะอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ได้แก่วิตามินเอ บี1 บี2 บี6 บี12 ซี และอี ขณะที่แร่ธาตุที่พบได้แก่ โซเดียม แมกนีเซียม และเซเลเนียม น้ำตาลที่มีสรรพคุณในการบำบัด โปรตีน และกรดอะมิโน ลองรับประทานว่านหางจระเข้ หากคุณมีปัญหาดังต่อไปนี้

โรคลำไส้แปรปรวน

ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการตะคริวที่ท้องและท้องอืด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณลดการอักเสบด้วย

ไขข้ออักเสบ

ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่อักเสบ เนื้อเจลจะแทรกซึมเข้าสู่ผิว ช่วยบรรเทาอาการปวด แจน เดอ รีส์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Naturopathy ของ Health Plus กล่าว

โรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง

บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ลมพิษ และอื่นๆ ทาเจลว่านหางจระเข้เป็นประจำ นอกจากนี้ยังใช้นวดหนังศีรษะช่วยกำจัดรังแค

แผลไฟไหม้

น้ำร้อนลวก และมีดบาด ทาเจลว่านหางจระเข้บริเวณที่ถูกยุงกัด ถูกแดดเผา และแผลขีดข่วน เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณลดอาการปวด

ท้องผูก

ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ทุกวันจะช่วยป้องกันท้องผูก เนื่องจากมีสรรพคุณเป็นยาระบาย แต่ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์