ควรทำอย่างไรเมื่อขาดความยับยั้งชั่งใจ

ควรทำอย่างไรเมื่อขาดความยับยั้งชั่งใจ



การขาดความยับยั้งชั่งใจเกิดจากการที่แต่ละคนมีสัญชาติญาณการเอาชนะผู้อื่นเป็นเหตุ ร เมื่อมีความอยากจะเอาชนะคนอื่นหรือสิ่งอื่นมากย่อมทำให้เกิดการขาดความยยับยั้งช่างใจมาก 

หลักการที่เราจะนำมาพิจารณาว่าเราควรทำอย่างไร  คือคำถามที่ว่า  "แพ้แล้วอย่างไรชนะแล้วอย่างไร"  นั่นหมายความว่าพิจารณาผลที่จะเกิดตามมาในอนาคตให้ถ่องแท้ถ้าเห็นว่าชนะไปก็เท่านั้นก็ให้หยุดเสีย  แต่ถ้าคิดว่าการเอาชนะแล้วมีประโยชน์แล้วสามารถอธิบายได้ว่าไดประโยชน์อะไรมาบ้าง  ก็ให้ลุยได้เลยเพื่อให้ผลประโยชน์นั้นเกิดขึ้น  อย่างไรก็ตามคนที่ทำเพื่อตนเองเป็นหลักมักมองผลประดยชน์ที่เกิดขึ้นในแง่มุมที่แตกต่างกัน

แรงแห่งการอยากจะเอาชนะของมนุษย์เป็นมูลเหตุทำให้เกิดหลายสิ่งหลายอย่างมีทั้งดีบ้างไม่ดีบ้าง  อย่างที่ดีคือเอาชนะสมุหทัยหรือสาเหตุแห่งทุกข์  อย่างไม่ดีเช่นการแข่งขันเพื่อเอาชนะในรูปแบบต่าง ๆ  หรือการเล่นการพนัน  รวมถึงการลบคำสบประมาทในเรื่องที่รู้แล้วว่าทำไปก็๋ไม่เป็นผลดี  เช่นกาแข่งรถวิ่งแข่งกันตัดหน้ารถไฟด้วยความคึกคะนอง  อย่างไรก็ตามแรงกระตุ้นนี้เกิดขึ้นจากแร่งกฎแห่งกรรม  เช่นวิบากกรรมของการเอาชนะผู้อื่นทั้งผู้ที่อยากจะเอาชนะและผู้ที่แพ้แล้วอยากจะเอาชนะผู้อื่น  ผู้ที่ชนะผุ้อื่นได้แล้วอยากจะทำลายสถิติแล้วอยากจะเอาชนะผู้อื่นมากขึ้น ผุ้แพ้ก็อยากจะหาทางเอาชนะผู้ที่ชนะตนเสมอ

ด้วยเหตุนี้เองผู้ที่อยากจะเอาชนะผู้อื่นจึงมีแต่ความุกข์และมีความทุกข์ทั้งสิ้น  ผู้ที่ชนะแล้วก็กลัวว่าสักวันตนจะแพ้ก็เกิดทุกข์  ผู้ที่แพ้แล้วอยากจะเอาชนะรอโอกาสที่จะเอาชนะให้ได้  นำมาซึงการจับผิดผุ้อื่นว่ามีที่ตรงไหนติได้บ้าง  เหตุนี้เองทำให้ผุ้เขียนได้อธิบายกับสหายธรรมว่าผุ้ที่มีความเห็นแย้งกหับผู้เขียนจะอ่านสิ่งที่ผู้เขียนได้เขียนอย่างละเอียดมากกว่าผู้ที่ตั้งใจอ่านด้วยความเห็นด้วยเสียอก  เพราะต้องหาช่องว่างในการเขียนของผู้เขียนใหไ้ได้หรือคิดว่ามุมไหนที่ผุ้เขียนได้เขียนแล้วเสียเปรียบจะนำจุดนั้นมาเป็นประเด็นในการโจมตีผู้เขียนทันที

การอยากจะเอาชนะผู้อื่นจึงไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยนอกจากจะทำไปเพื่อความสนุกสนาน  แต่การเอาชนะตนเองในแต่ละคนจะมีประโยชน์มากกว่า  เพราะผู้ที่เอาชนะตนเองคือการเอาชนะสมุหทัยของตนเอง  เมื่อเอาสมุหทัยแห่งตนเองแล้วผุ้นั้นจะไม่เป็นทุกข์อีก  เมื่อใดก็ตามผุ้ใดก็ตามเอาชนะสมุหทัยในตนได้ผู้นั้นจะกลายเป็นผุ้มองโลกตรงตามความเป็นจริง  เมื่อผุ้นั้นมองโลกตรงความเป็นจริงได้แล้ว  เมื่อมีผุ้อื่นเห็นต่างจากตนไปจึงเห็นแย้งกับความเป็นจริงไปด้วยโดยดุษฎี  ฉะนั้นเมื่อมีผุ้เห็นต่างจากตน  ตนจึงสามารถนำความจริงตามที่ตนเห็นนั้นมาแย้งความเห็นนั้นได้ทันที

การเอาชนะผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย  เพราะไม่มีใคอยากตกเป็นผุ้แพ้  ด้วยความรู้สึกว่าไม่อยากเป็นผู้แพ้ตนเองจึงต้องเป็นผู้แพ้ต่อไป  ผู้เอาชนะคนอื่นได้จุึงได้ชื่อว่าแพ้เพราะแพ้ตนเอง  ผู้ที่เป็นผุ้แพ้ก็คือผุ้แพ้ตนเองอยู่แล้ว  และหากผุ้แพ้ดินรที่จะเอาชนะต่อไปตนก็จะมีแต่คำว่าแพ้และก็แพ้ต่อไป  ความมีสติในการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ  ก็จตะน้อยลง  การขาดความยับยั้งชั่งใจก็จะมีน้อยลงจนในที่สุดก็เกิดและกลายเป็นความมุทะลุดุดันขึ้นมาได้  ผู้ที่จะเอาชนะตนเองได้นั้นทำยากกว่า  เพราะผุ้ที่เอาชนะตนเองได้นั้นต้องเป็นผู้ที่ยอมรับความเป็นจริงที่ตนเป็นด้วย  ตนเองยอมรับความจริงที่ตนเป็นเมื่อไรตนเองก็เอาชนะตนเองได้อย่างน้อยครึงหนึ่งแล้ว  ที่เหลืออยู่ที่ตนเองเท่านั้นที่จะทำให้ชนะขาดได้อย่างถาวรได้หรือไม่

ผู้เอาชนะตนเองจึงเริ่มต้นด้วยความทุกข์แล้วจบลงด้วยความสุขและความสุขจะตั้งอยุ่อย่างถาวร  ส่วนผู้ที่เริมจากการเอาชนะผู้อื่นจะมีความสุขเฉพาะเท่าที่ตนเอาชนะผู้อื่นแล้วเท่านั้น  ในทำนองเดียวกันตนจมีความทุกข์เกิดขึ้นเมื่อตนตกเป็นผู้แพ้  การเอาชนะผู้อื่นด้วยความอยากจึงทำให้ตนเองมีแต่ทุกข์และทุกข์เท่านั้น  ผู้ชนะจะมีความทุกข์อย่างหนึ่งผู้แพ้ก็จะมีแต่ความทุกข์อีกอย่างหนึ่งตามที่ผู้เขียนได้บรรยายมา



ที่มา
dhumma.net

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์