บริการฝากเสียง จอมขโมยโดยละม่อม

           หากกล่าวถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ สื่อเทคโนโลยีที่ถือเป็นปัจจัยหนึ่งของมนุษย์ไปแล้วก็ว่าได้ เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงสื่ออิเล็กทรอนิคสำหรับรับสายหรือโทรออกเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นสมุดบันทึกเตือนความจำชั้นดี เป็นนาฬิกาคอยบอกเวลาและคอยปลุกเจ้าของจอมขี้เกียจ เป็นเครื่องบันทึกภาพและเสียง รวมถึงสื่อบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในยุค 3G ที่กระตุ้นเร้าความต้องการสื่อประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอย่างมาก

เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ราคาโทรศัพท์เคลื่อนจากเดิมมีราคาค่อนข้างสูงถึงสูงมาก บวกกับอัตราค่าบริการที่สูงถึงนาทีละ 5 บาท บ่งบอกถึงฐานะของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ในระดับหนึ่ง แต่ปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนรวมถึงอัตราค่าบริการกลับมีราคาถูกลงอย่างน่าใจหาย ทำให้คนทุกระดับสามารถเข้าถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยง่าย

แต่หารู้ไม่ว่าทุกคนกลับตกเป็นเยื่อของสื่อเทคโนโลยีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยการล้อหลอกให้ใช้บริการเกินความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแอพพิเคชั่นต่างๆ เช่น เพลง เกมส์ ข้อความโดนๆ หรือรูปภาพ ฯลฯ นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมในการล้อหลอกดึงเงินออกจากกระเป๋าของคุณ

ขณะเดียวกัน การโทรออกเพื่อรอฟังการเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์จากเครื่องหนึ่งไปยังโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถดึงเงินออกจากกระเป๋าคุณตามโปรโมชั่นที่คุณเลือกใช้บริการได้เช่นกัน หากหมายเลขนั้นเปิดใช้บริการรับฝากข้อความ

หากเทียบกับแต่ก่อน บริการรับฝากข้อความเสียงนั้นจะมีโอเปอเรเตอร์แจ้งว่า “กรุณาฝากข้อความเสียงหลังได้ยินเสียงสัญญาณ....” แต่ปัจจุบันบางบริษัทได้มีการหน่วงเวลาในการรอสายประมาณ 5-6 วินาทีก่อนตัดเข้าสู่บริการฝากข้อความเสียง โดยผู้โทรจะไม่รู้ตัวเลยว่าได้เสียงเงินค่าบริการในส่วนนั้นไปแล้ว แม้ว่าเงินที่เสียนั้นเป็นเพียงเศษเงินไม่กี่บาท หากแต่นำเงินในแต่ละครั้งมารวมกันนับๆ แล้วบางคนอาจเสียเป็นร้อยเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้หมายเลขที่รับฝากข้อความเองก็ต้องเสียเงินค่าบริการเพื่อโทรเข้าศูนย์รับฟังข้อความเสียงที่ฝากไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอัตราค่าบริการของแต่ละผู้ให้บริการจะแตกต่างกันไป และอาจแพงถึงนาทีละ 3-4 บาทก็ว่าได้

ฉะนั้น หากคุณไม่ต้องการเสียเงินโดยใช่เหตุ หรือไม่ต้องการตกเป็นเยื่อของบริการเสริมเหล่านั้น ควรรีบว่างสายก่อนที่จะถึงวินาทีที่ 5 หรือ 6 เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้น แต่จะดีกว่านั้นถ้าคุณคือคนหนึ่งที่เห็นว่านี่คือปัญหาที่ต้องแก้ไขที่ต้นทาง มิใช่ปลายทางเพียงแค่รีบวางสาย แล้วคุณจะลุกขึ้นมาทำอย่างไร เพื่อประโยชน์ของคนโดยรวมต่อไป...