● เร็วแค่ไหน .. เรียกว่าเร็วเกินไป ●

“อย่าชิงสุกก่อนห่าม” นั่นเป็นคำโบราณที่ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษของเราลั่นวาจาสั่งสอนลูกหลานเอาไว้ หมายถึง การที่ให้ประคองตัว พยายามอย่ามีความสัมพันธ์ทางเพศเกินเลย ก่อนเวลาอันควร ปัญหาที่คนสมัยใหม่ มักจะตั้งคำถามก็คือ “แค่ไหนล่ะ ถึงจะเรียกว่าเร็วเกินไป?” “แค่ไหนถึงจะเรียกว่าเวลาอันควร?” “ต้องรอไปอีกนานถึงเมื่อไรล่ะ?” ไม่มีกฏหมายห้ามหรอกค่ะ ว่าคุณจะมีเซ็กส์ได้หลังจากออกเดททั้งหมดกี่วัน แค่บรรลุนิติภาวะเท่านั้น จะทำอะไรก็เป็นสิทธิของคุณ ดังนั้น คำถามเหล่านี้ บางอย่างเราตอบคุณได้ แต่บางอย่างคุณก็ต้องตอบโจทย์ตัวเองนะคะ

1. คุณรู้จักกันมานานแค่ไหน

ในขณะที่เซ็กส์ สามารถทำให้ความลึกซึ้งของคุณทั้งคู่ทั้งคู่แนบแน่นขึ้นไปอีก มันก็สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้อย่างฉับพลันทันทีเหมือนกัน คุณต้องถามตัวเองว่า เขาหรือเธอ จะยังคงเป็นคนเดิมหลังจากมีเซ็กส์กันแล้วหรือไม่ หากคุณทั้งคู่รู้จักกันดี และนานพอที่จะมีสายใยต่อกันแล้ว เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องที่ดีแน่ แต่หากคุณยังไม่เคยไปไหว้พ่อแม่ของเขาที่บ้านเลยด้วยซ้ำ ระวังตอนเช้าตื่นมา จะหาตัวเขาไม่เจอตลอดไปนะคะ...และก็ไม่จำเป็นต้องไปถามเขาหรือเธอตรงๆนะคะ ว่า “คุณจะเปลี่ยนไปมั้ย?” เพราะคำพูดมันพิสูจน์อะไรไม่ได้เท่าการกระทำ!

2. พร้อมมั้ย

ไม่ได้พูดถึงเรื่องทางร่างกาย เพราะทั้งชายและหญิงเรา ต่างก็พร้อมที่จะผสมพันธ์สืบสายเลือดตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องสถานที่ เพราะสมัยนี้โรงแรมม่านรูดมีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่คุณต้องถามตัวเองว่า หากเกิดกรณีเลวร้ายที่สุดขึ้น นั่นคือเกิดมีการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ และยังไม่ได้แต่งงานขึ้นมา คุณจะรับหน้ากับผู้ปกครองของตัวเองและของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไร ที่สำคัญคือ คุณจะมีความสามารถในการหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างดีหรือไม่?

3. มั่นใจแค่ไหน

คุณรู้จักเรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างดีแค่ไหน หรือคิดว่ามีเพียงแต่โรคเอดส์โรคเดียวเท่านั้น ที่เป็นไปได้ คุณรู้จักโรคซิฟิลิส โรคหนองใน โรคเริม โรคหูดหงอนไก่หรือไม่? ถ้าเพิ่งเคยได้ยินโรคที่กล่าวมาเป็นครั้งแรก คุณพร้อมจะรับมือกับความเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้แค่ไหน...เพราะโรคบางโรค ถึงแม้จะใช้ถุงยางอนามัย ก็ยังมีโอกาสติดต่อกันทางอื่น เช่นทางน้ำลาย หรือบาดแผลได้ และผลลัพธ์ของมัน ก็ไม่ใช่แค่ “จุดนั้น” แต่ยังสามารถทำลายไปถึงสมองและอวัยวะภายใน ทำให้ทรมานเหมือนตายทั้งเป็นได้อีกด้วย 

4. รอได้มั้ย

ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุด!.....บางครั้งฝ่ายตรงข้ามอาจไม่ได้มีความต้องการจะหลับนอนกับคุณเลยก็ได้ แต่ตัวคุณเองต่างหากที่ลึกๆแล้วก็มีความต้องการทางเพศ หรืออยากที่จะใช้เรื่องเพศในการเอาใจและมัดใจคู่เดทของคุณเอาไว้ จนเกิดความรู้สึกว่าต้องเป็นฝ่าย “เริ่มก่อน” ซะเอง …..พยายามมีสติเข้าไว้ค่ะ ถ้าเขาไม่รีบ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเร่ง ถ้าเขาไม่รุก คุณก็ไม่จำเป็นต้องเร้า....สิ่งที่คุณต้องถามตัวเองก็คือ ตัวคุณเองนั่นแหละอยากมีเซ็กส์ใช่หรือไม่?

             สำหรับฝ่ายชาย คงมีแต่ได้กับได้ในเรื่องนี้ เราหวังแค่ว่า สมาชิกชายหนุ่มทั้งหลายของเรา จะรู้จักระมัดระวังและป้องกัน รวมถึงรับผิดชอบในผลลัพธ์ต่างๆที่ตามมาก็เพียงพอแล้ว ส่วนฝ่ายสมาชิกหญิงสาว พึงจำเอาไว้อย่างนึง นั่นคือสเน่ห์ดึงดูดของคุณ จะลดลงทันที หลังจากที่คุณได้พลีกายให้แก่บุรุษของคุณไปแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่ชัวร์กับใคร ก็เก็บตัวเก็บใจไว้รอก่อนดีกว่านะคะด้วยรักและหวังดีค่ะ