ลดโลกร้อน คุณก็ทำได้


 


เรียนรู้เรื่องโลกร้อน Global warming & Climate change (โครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา)

ความหมายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change)

          “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากกระบวนการภายในและภายนอกหรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ บรรยากาศ หรือพื้นดิน ที่มาจากกิจกรรมต่อเนื่องของมนุษย์โดยการเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัด (สามารถวัดได้) เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ, การเปลี่ยนแปลงของกระแสลม, การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฝน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ อาจเป็นทศวรรษ (10 ปี) หรือยาวนานกว่านั้น (ร้อยปี พันปี...ล้านปี)

ความหมายของภาวะโลกร้อน (Global warming)

          ภาวะโลกร้อน (Global warming) คือ การที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ภาวะโลกร้อน จะหมายความถึง ผลจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์  และก๊าซเรือนกระจกนี้เองทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับความร้อนเอาไว้ไม่ให้ออกไป จากโลกได้ โดยส่งผลให้สิ่งมีชีวิตหลายชนิดจะต้องอพยพย้ายถิ่น หรืออาจสูญพันธุ์ไป โรคเขตร้อน ที่มียุงเป็นพาหะนำโรคจะแพร่กระจายไปยังเขตอบอุ่น พื้นที่เกษตรกรรมจะได้รับผลกระทบ ส่งผลต่อการผลิตอาหารของโลก ผู้คนนับล้านจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย

สาเหตุของภาวะโลกร้อน

          ภาวะโลกร้อนคือผลจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งก๊าซเรือนกระจกหลักได้แก่

         
* ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ที่ มาจากการหายใจของสัตว์, การย่อยสลาย,การเผา เช่น ไฟป่า, การระเหยจากมหาสมุทร,การเผาไหม้ซากฟอสซิล เช่น น้ำมัน, ถ่านหิน
          * ก๊าซมีเทน (CH4) ที่เกิดจากการทับถมของซากสิ่งมีชีวิตใต้ดิน, การหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน, นาข้าวหรือพื้นที่น้ำท่วมขัง, แหล่งทิ้งหรือกำจัดขยะ
         
* ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) จากการย่อยสลายในดิน, ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน, การเผาไหม้ซากฟอสซิล และจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตเส้นใยไนลอน อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติก ที่ใช้กรดไนตริกในกระบวนการผลิต
         
* ก๊าซซีเอฟซี (CFC) หรือ คลอโรฟลูออโรคาร์บอน ก๊าซชนิดนี้เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น (ไม่มีตามธรรมชาติ) เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทำความเย็น และอุตสาหกรรมผลิตสี      
         
* ก๊าซโอโซนระดับผิวโลก (O3)ที่ อยู่ในชั้นโทรโพสเฟียร์

         
เดิมทีนั้นก๊าซเรือนกระจกมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้หากมีในปริมาณที่ เหมาะสม โดยก๊าซเรือนกระจกนั้นมีเพื่อรักษาความอบอุ่นให้กับโลก ทำให้สิ่งมีชีวิตภายในเรือนกระจกนั้นมีอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปไกลมากขึ้นการทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมก็มากขึ้น เป็นทวีคูณ เช่น การนำฟอสซิลมาใช้ผลิตเชื้อเพลิงต่างๆ การผลิตสารสังเคราะห์จากอุตสาหกรรม หรือการผลิตขยะที่เหลือจากการบริโภค เหล่านี้คือกิจกรรมที่เพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งนั้น และมันยังส่งผลให้ตัวการที่ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์เพิ่มมาก ขึ้น และแน่นอนว่าอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นนั้นมาจากความหนาของเรือนกระจกที่หนา ขึ้นนั่นเอง

ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

          ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว เช่น การละลายของธารน้ำแข็ง ใน Alaska, น้ำทะเลสูงขึ้นทำให้เกาะเวลสเคท ในบริเวณหมู่เกาะฮาวายจมหายไป, การเกิดคลื่นความร้อนในยุโรป ที่อุณหภูมิสูงถึง 40 C, ปะการังในมหาสมุทรอินเดียบริเวณหมู่เกาะเซเชลล์ หมู่เกาะมัลดีฟ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ไทยและอื่นๆ เกิดการฟอกขาวและตายลง, การเกิดพายุเฮอร์ริเคนในอเมริกากลาง และอื่นๆ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ว่า หากอุณหภูมิโลกยังคงสูงขึ้น สิ่งมีชีวิตหลายชนิดจะต้องอพยพย้ายถิ่น หรืออาจสูญพันธุ์ไปจากโลก โรคเขตร้อนที่มียุงเป็นพาหะนำโรคจะแพร่กระจายไปยังเขตอบอุ่น พื้นที่เกษตรกรรมจะได้รับผลกระทบ ส่งผลต่อการผลิตอาหารของโลก ผู้คนนับล้านจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

แนวทางการแก้ไข

          หากการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหน้าที่ของคน เพียงกลุ่มเดียวคงไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะทุกคนบนโลกเป็นผู้ก่อปัญหาขึ้นมาทั้งนั้น และสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การบริโภคที่เกินความจำเป็นของมนุษย์ และวิธีการลดโลกร้อนนั้นก็มีวิธีง่ายๆ เช่น

         
* ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษา สิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์
         
* เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้มาใช้แบบหลอด คอมแพคฟลูออเรสเซนต์จะประหยัดไฟได้ถึงร้อยละ 75-80 เมื่อเทียบกับหลอดไส้
         
* ใช้ฝักบัวชนิดประหยัดน้ำ (Water Efficient Showerhead) แทนการอาบน้ำแบบใช้ตัก เพราะ สามารถประหยัดน้ำได้ถึงร้อยละ 25-75
         
* ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20%
         
* ทานอาหารที่ผลิตในประเทศ เพราะการขนส่งต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงและยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย
         
* ปลูกต้นไม่เพื่อเพิ่มตัวดูดซับคาร์บอน ไดออกไซด์






ขอขอบคุณข้อมูลจาก



โครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา

 


วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

 



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์