การรักษาศีลให้เป็นกรรมฐาน-ฌาน

การรักษาศีลให้เป็นกรรมฐาน-ฌาน


ถาม : ศีล เรารักษากันเวลาไหน?..ถ้าเราไม่มีโอกาสสมาทานศีลมันจะเป็นศีลได้หรือไม่?

หลวงพ่อ ตอบ :
..ศีลนี้เราจะสมาทานหรือไม่สมาทานก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ความสำคัญอยู่ที่การงดเว้นเท่านั้นมันจึงจะเป็นศีล...นี่หากว่าเราจะสมาทานศีลสักวันละพันครั้ง แต่ว่าจิตใจของเราไม่ได้ผูกพันในศีลก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ศีลไม่ได้มีกับใจเรา

ฉะนั้น การที่เราจะระงับตัณหาได้ ในอันดับแรกต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธ์คือมีอารมณ์ทรงศีลเป็นปกติธรรมดา ไม่ใช่แต่เฉพาะมานั่งขัดสมาธิหลับตา หรือว่านั่งสมาธิจึงมีศีลบริสุทธิ์ ถ้าเราต้องการศีลบริสุทธิ์เพียงเท่านี้ ก็มีหวังลงนรกแน่นอน วันหนึ่งมี ๒๔ ชั่วโมง เราทำจิตบริสุทธิ์กี่นาที

...ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงสอนให้ทรงสมาธิ ในด้านศีลานุสติกรรมฐาน คือ ให้จิตใจของเราทรงศีลเป็นอารมณ์ เป็นปรกติ ไอ้การนั่งหลับตา วันละ ๙ ชั่วโมง ๑๐ ชั่วโมงไม่มีความหมาย ความสำคัญก็มีอยู่ว่า ทุกลมหายใจเข้าออก จิตของเราทรงอยู่ในศีล

ถาม : ...ศีลของเราจะเป็นสมาธิจิตในด้านของศีลานุสติกรรมฐานให้เข้าถึงฌาน ทำอย่างไร? และทำอย่างไรเราจึงจะรู้ว่าศีลของเราเข้าถึงฌาน?

หลวงพ่อ ตอบ :
อันนี้ เราก็สังเกตได้ว่า วันทั้งวัน จิตของเราใคร่ครวญอยู่ในศีลเป็นปกติ มีการระมัดระวังในศีล

ปัญจเวร ๕ ประการ คือ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือทำร้ายสัตว์ การลักขโมยของ การยื้อแย่งความรัก การโกหกมดเท็จ การดื่มสุราเป็นต้น
เรียกว่าปัจเวร ๕ ประการ อย่างนี้เราทรงได้แบบสบาย

ใครนินทาว่าร้าย ส่งเสียงรบกวนเพียงใดก็ตาม จิตใจเราไม่รำคาญในเสียงของบุคคลนั้น ไม่สะทกสะท้าน ต่อ คำนินทาว่าร้าย หรือ ไม่ยินดี ต่อคำสรรเสริญใดๆ มีจิตใจอารมณ์สบายเป็นศีล อย่างนี้ชื่อว่า สมาธิจิตของท่านเข้าสู่เป็นสภาพฌาน

...เมื่อสมาธิจิตของเราทรงศีลเป็นฌาน มีจิตใจผูกพันในศีลเป็นปกติ จะไปทางไหนก็ตามอยู่ในสถานที่ใดก็ตามอยู่ในสังคมใดก็ตาม เราไม่ยอมละเมิดในศีลอย่างเด็ดขาด ไม่ยุยงส่งเสริมให้ใครละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว จิตใจของเรามีความชุ่มชื่นในศีลอย่างนี้เป็นฌาน ถ้าอารมณ์จิตเป็นฌาน เราตายไปจากความเป็นมนุษย์เราเกิดเป็นพรหม...

พลังจิต

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์