สร้างสมดุลโภชนาการแบบ หยิน หยาง

สร้างสมดุลโภชนาการแบบ หยิน หยาง



 แนวคิดพื้นฐานของหยินหยางที่ว่า "อาหารแต่ละชนิดมีกระบวนการย่อยแตกต่างกัน" ถ้ารู้จักเลือกกินอาหารที่เข้ากัน ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะทำหน้าที่ได้เต็มที่ สามารถดูดซึมอาหาร เผาผลาญ และขับของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากเพื่อการเผาผลาญอาหารที่รับประทานเข้าไปให้มีความสมดุลแล้ว ยังส่งผลต่ออารมณ์ และจิตใจด้วย และนี่คือเคล็ดลับการเลือกกิน ดื่ม ที่จะนำมาซึ่งความงามของรูปร่าง ความอ่อนวัยของผิวพรรณ และความยั่งยืนของสุขภาพ

    หยินหยางกับอาหารประเภทแป้ง

       - ไม่ควรกินแป้งกับอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ไม่ควรกินขนมปังที่ทาด้วยแยมราดน้ำผึ้ง หรือโรยน้ำตาล เพราะน้ำตาลจะไปป้องกันการผลิตเอนไซม์ไทอะลินซึ่งทำหน้าที่ย่อยแป้ง ให้เลือกเป็นทาเนยที่ทำจากน้ำมันมะกอก เนยถั่ว หรือชีส

       - ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งกับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำพวกผลไม้รสเปรี้ยว น้ำส้มสายชู เช่น กินก๋วยเตี๋ยวห้ามใส่น้ำส้มสายชู เพราะจะไปขัดขวางการหลั่งเอนไซม์ไทอะลิน ซึ่งทำหน้าที่ย่อยแป้ง

    หยินหยางกับอาหารประเภทโปรตีน

       - ไม่ควรกินโปรตีนกับอาหารที่มีไขมัน หรือน้ำตาลสูงในมื้อเดียวกัน เช่น ไม่ควรดื่มน้ำหวานหลังหรือระหว่างกินสเต็ก หรือกินกุ้งชุบแป้งทอดจิ้มน้ำสลัด หรือมายองเนส เพราะโปรตีนจะทำให้ระบบการย่อยน้ำตาลช้าลง ซึ่งน้ำตาลควรได้รับการซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายทันทีที่กินเข้าไป และไขมันจะขัดขวางให้การย่อยโปรตีนช้าลง

       - ไม่ควรกินโปรตีน กับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดจำพวกผลไม้รสเปรี้ยวในมื้อเดียวกัน เช่น กินไข่ดาว แฮม ตามด้วยน้ำส้ม เป็นต้น เพราะความเป็นกรดจะไปกำจัดการหลั่งของน้ำย่อยเปปซิน ซึ่งมีหน้าที่ย่อยโปรตีน

       - ไม่ควรกินโปรตีนกับแป้ง เช่น ไข่กับขนมปัง สเต็กกับเฟรนช์ฟราย เพราะความเป็นกรดและด่างที่ต่างกันมาก จะไปขัดขวางระบบการย่อยอาหาร
 
        ไม่ควรกินโปรตีนต่างชนิดในมื้อเดียวกัน เช่น เนื้อวัวกับเนื้อไก่ หรือเนื้อหมูกับเนื้อปลา ให้เลือกกินเนื้อสัตว์ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน เช่น เนื้อวัวกับเนื้อแกะ เนื้อไก่กับเนื้อเป็ด เนื้อปลากับเนื้อกุ้ง หรืออาหารทะเลชนิดอื่น

    หยินหยางกับผลิตภัณฑ์นม และของหวาน

       - ไม่ควรดื่มนมหรือโยเกิร์ตพร้อมมื้ออาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้อง

       - ไม่ควรกินของหวานหรือผลไม้หลังมื้ออาหาร เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง

    หยินหยางกับสุขภาพในยามเช้า

        การอาบน้ำชำระร่างกายในตอนเช้า ควรอาบด้วยน้ำที่อุ่นเล็กน้อย ไม่ควรที่จะให้ร่างกายที่เพิ่งตื่นนอนในตอนเช้าถูกราดรดด้วยน้ำเย็น เพราะในการพักผ่อนที่ผ่านมา ร่างกายเราอยู่ในสภาวะหยิน หรือการนอนหลับมาเป็นเวลานาน จึงต้องปรับชี่ในร่างกายด้วยการอาบน้ำอุ่นเล็กร้อน เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย อย่างประมาทไปค่ะ มีปรากฎมาแล้ว ตื่นมาสดชื่นดี แต่พอเข้าไปอาบน้ำเย็นยามเช้าเกิดอาการวิงเวียน แบบหน้าจะมืด เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน เรียกว่า น็อกค่ะ เช้านั้นเลยมึนงงไปทั้งวัน

        ตื่นนอนตอนเช้า ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 แก้วค่ะ ถ้าเป็นน้ำอุ่นได้จะดีทีเดียว ก็เพื่อให้เกิดความเป็นหยาง น้ำเย็น น้ำผลไม้แช่เย็น ควรงด

        ควรรับประทานอาหารมื้อเช้าเป็นประจำอย่าให้ขาด เพื่อให้พลังงานหยางแก่ร่างกาย ซึ่งทางการแพทย์ได้มีการยืนยันแล้วว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด และมีผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว หากมีเวลาควรรับประทานอาหารที่ร้อน ๆ เช่น ข้าวต้ม ข้าวต้มกระดูกหมู หรือข้าวต้มทรงเครื่อง โจ๊ก ต้มเลือดหมู เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวได้รับสารอาหาร ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้พร้อมทำงาน หากมีเวลาน้อย แนะนำโอวัลติน ชาร้อน เต้าฮวยน้ำขิง บัวลอยน้ำขิง น้ำเต้าหู้ และต้องทานควบคู่ไปกับปาท่องโก๋ เพราะเครื่องดื่มเป็นกลุ่มอาหารที่เป็นธาตุหยิน แต่ปาท่องโก๋จะเป็นอาหารธาตุหยาง เมื่อทานพร้อมกันจะดีต่อร่างกาย




ทีมา ... 247 City Magazine

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์