ปอร์เช่ชนสาวลาวขาดครึ่งท่อนซิ่งหนี

"ปอร์เช่ ป้ายแดง" ซิ่งชนสยอง ลูกจ้างสาวชาวลาวกำลังข้ามถนนหน้าหมู่บ้านปาริชาติ ปทุมธานี-บางบัวทอง ขาดครึ่งท่อน ก่อนซิ่งหนี พบรถก่อเหตุจอดทิ้งไว้ทางเข้าวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ห่างจุดเกิดเหตุ 10 กม. ตะลึง! ท่อนหัวหล่นอยู่เบาะนั่งข้างคนขับ ส่วนคนขับเผ่นหนี

เหตุการณ์อุบัติเหตุสยอง รถยนต์หรูชนสาวต่างด้าวขาดสองท่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มีนาคม พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวร สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนคนเดินข้ามถนน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณถนนปทุมธานี-บางบัวทอง (ถนน 345) ช่วงหน้าหมู่บ้านปาริชาติ หมู่ 6 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์จากโรงพยาบาลปทุมธานี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านปาริชาติ เจ้าหน้าที่พบศพครึ่งตัว จากเอวลงมาถึงขาถูกรถเฉี่ยวชนจนขาดครึ่งตัว ตกอยู่ร่องกลางถนน ส่วนท่อนบนตั้งแต่เอวจนถึงศีรษะหายไป

คาดว่าติดไปกับรถคันที่ก่อเหตุ ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ทองใบ อายุ 17 ปี สัญชาติลาว จากสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกจ้างร้านขายไส้กรอกอยู่ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านปาริชาติ โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.ทองใบ ผู้ตาย ข้ามถนนไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านฝั่งตรงข้าม เมื่อซื้อก๋วยเตี๋ยวเรียบร้อยแล้วก็ข้ามถนนเพื่อกลับมาที่ร้าน แต่ระหว่างข้ามถนนมีรถยนต์สีขาว ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ขับมาจากทางด้านสะพานนวลฉวี มุ่งหน้าไปบางบัวทองด้วยความเร็วสูง พุ่งชนผู้ตายอย่างแรงจนร่างขาดกระเด็นตกลงข้างทางดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ง 1352 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้บริเวณปากทางเข้าวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ถนนราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดไปตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบรถยนต์ปอร์เช่จอดทิ้งไว้ จากการตรวจสภาพพบมีร่องรอยเฉี่ยวชน กระจกหน้าและกระจกหลังแตก

นอกจากนี้ยัง พบศพ น.ส.ทองใบ ผู้เสียชีวิต ที่ขาดครึ่งตัวจากท่อนเอวขึ้นมาถึงศีรษะ ตกอยู่บนที่นั่งเบาะซ้ายของคนขับ แต่ไม่พบผู้ขับขี่แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนรถคันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของรถ และใครเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งจะติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวเป็นผู้ชายวัยรุ่น ไว้ผมยาว สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนขายาว เมื่อขับรถมาจอดแล้วก็รีบลงจากรถ จากนั้นวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว  พ.ต.ท.บัญชากล่าวว่า เบื้องต้นเราทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุคงต้องตรวจสอบอีกครั้ง และรถคันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จะยึดไว้ตรวจสอบ โดยจะติดตามคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป