แพ้น้ำหอม...โดยไม่รู้ตัว

แพ้น้ำหอม...โดยไม่รู้ตัว


แพ้น้ำหอม...โดยไม่รู้ตัว


เมื่อพูดถึงการแพ้น้ำหอมในที่นี้ เราไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่น้ำหอมหลากหลายยี่ห้อ แต่หมายรวมไปถึงสารให้กลิ่นหอมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง ซึ่งได้กลายเป็นสาเหตุหลักของการแพ้เครื่องสำอางในปัจจุบัน

              การแพ้น้ำหอมเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น แพ้แอลกอฮอล์ซึ่งเป็นตัวช่วยระเหยน้ำมันหอม แพ้สารเคมีจากน้ำหอมสังเคราะห์ ในอุตสาหกรรมการผลิตมีการแบ่งเกรดน้ำหอมตามความเข้มข้นของน้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางด้วยแอลกอฮอล์ ยิ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหอมน้อยยิ่งมีโอกาสในการแพ้สูง จึงควรอ่านฉลากก่อนซื้อ

             
1. Eau de Cologne หรือโคโลญจ์ คือน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมเพียง 3-5%
              2. Eau de Toilette คือน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอม 4-8% ใช้เป็นน้ำหอมฉีดตามร่างกายและเป็นส่วนผสมสร้างความหอมในผลิตภัณฑ์อื่นๆ
              3. Eau de Perfume เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอม 15-18% นิยมใช้เป็นน้ำหอมฉีดตามร่างกายเพราะมีกลิ่นติดทนนาน
              4. Perfume Gentle เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมใกล้เคียงกับ Eau de Perfume แต่สกัดสารที่ทำให้แพ้ออก มีราคาสูงกว่า Eau de Perfume ประมาณ 5 เท่า
              5. Perfume Fraction เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมที่สกัดจากธรรมชาติ 100% จึงมีราคาสูงที่สุดและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้


คุณมีอาการเหล่านี้..หรือไม่
คนทั่วไปมักเข้าใจว่าการจามหรือโรคทางระบบหายใจบอกถึงอาการแพ้น้ำหอม แต่ความจริงแล้วการแพ้นั้นมีหลากหลายจนเราอาจคิดไม่ถึงว่าเกิดจากน้ำหอม

              1. คันตามผิวหนัง มักเกิดบริเวณที่แต้มน้ำหอม เช่น กกหู ต้นคอ ข้อพับ ป้องกันได้ด้วย การทดลองแต้มน้ำหอมในบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนซื้อ
              2. ใบหน้าเป็นสิวเกิด จากสารเคมีหรือส่วนประกอบใน น้ำหอมเข้าไปอุดตันรูขุมขนทำให้ อักเสบ มักพบเมื่อใช้น้ำหอมหรือเครื่องสำอางประมาณ 1 เดือนขึ้นไป วิธีแก้คือหยุดใช้ทันที และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมแทน
              3. ผื่นแพ้ ในกรณีของคนที่มีอาหารแพ้มากอาจพบลักษณะตุ่มน้ำใส หรือเป็นหนอง อาการนี้พบได้ไม่บ่อยนัก
              4. รอยด่างดำบริเวณที่แต้มน้ำหอม รอยนี้จะเกิดขึ้นเมื่อถูกแสงแดด เพราะน้ำหอมจะดูด ซับรังสีอัลตร้าไวโอเลตจนเกิดรอยด่างดำลักษณะคล้ายฝ้า รักษาให้หายได้โดยใช้ยาทา
              5. ระคายเคืองตาและเยื่อบุจมูก เกิดจากการฉีดสเปรย์น้ำหอม วิธีแก้คือให้ฉีดน้ำหอมใน ต่ำกว่าระดับไหล่และห่างจากตัวประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันการระคายเคือง แล้วยังไม่ทำให้เกิดรอยด่างบนเสื้อผ้า แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้ใช้การแต้มน้ำหอมตรงจุดชีพจร ข้อพับ ไหปลาร้า หลังอาบน้ำใหม่ๆ แทนการฉีดสเปรย์ วิธีนี้ทำให้กลิ่นติดทนนานขึ้นด้วย
              6. SICK HOUSE SYNDROME โรคนี้เกิดจากมลภาวะภายในบ้าน เช่น ฝุ่นละออง สีทาบ้าน กลิ่นบุหรี่ แม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอม ทำให้ปวดศีรษะเรื้อรัง และในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อปอดได้

ทำอย่างไรเมื่อแพ้น้ำหอม    
             
หยุดการใช้น้ำหอมหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมนั้นทันที หลังจากนั้นสังเกตดูว่ามีอาการแพ้ลุกลามมากขึ้นหรือไม่ โดยมากมักจะหายภายใน 7-10 วัน แต่หากมีอาการรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์

             
หากเป็นผื่นแดง หรือเป็นตุ่มบวม หรือเป็นตุ่มน้ำใสมีน้ำเหลืองซึมออกมา ควรทำความสะอาดแผลและใส่ยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการอักเสบเป็นหนอง และควรไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจดูว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการแพ้เครื่อง สำอางหรือไม่

             
สำหรับคนแพ้มากถึงขนาดน้ำหอม สัมผัสผิวโดยตรงไม่ได้ อาจใช้วิธีฉีดน้ำหอมใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วพกใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงแทนก็ได้ ความหอมไม่แพ้กัน




ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากhealth & Cuisine

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์