รถไฟสองขบวน

อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต เราคงเคยพบคนที่ขับรถไฟสองขบวนพร้อมกัน

ประเด็นการมีคนรักพร้อมกันทีเดียวสองคน (หรือมากกว่า) เป็นธีมเรื่องให้นวนิยาย บทละคร ภาพยนตร์ และบทเพลงมานับไม่ถ้วน และไม่มีทีท่าจะล้าสมัย

‘คนขับรถไฟ’ ไม่จำเป็นต้องเป็นชายเท่านั้น บ่อยครั้งผู้หญิงก็มีแฟนทีเดียวหลายคนเช่นกัน หลายกรณี ‘คนขับรถไฟ’ ไม่ใช่คนหน้าตาดีด้วย

บางคนจะตัดสินพฤติกรรมแบบนี้ทันทีด้วยคำว่า ถูก-ผิด ดี-เลว แต่เรื่องความรู้สึกของมนุษย์ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยมาตรฐานใดๆ และเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ยาก


รถไฟสองขบวน

หากเรามองในมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และสังคม สมมุติฐานหนึ่งชี้ว่า สัตว์โลกจำนวนมากเป็นแบบมีหลายคู่ มนุษย์ก็อาจเข้าข่ายนี้

ในสังคมดั้งเดิมที่ชายเป็นใหญ่ การที่ชายหนึ่งคนมีเมียพร้อมกันหลายคนเป็นภาพปกติที่สังคมยอมรับ เมื่อสังคมเปลี่ยนทิศมาเป็นแบบผัวเดียวเมียเดียว ความไม่สมดุลก็บังเกิด

ไม่ว่าเป็นสมมุติฐานที่จริงหรือไม่ ไม่ใช่ข้ออ้างในการมีหลายคู่ อีกทั้งไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งที่บาปหรือไม่บาป

พฤติกรรมขับรถไฟหลายขบวนพร้อมกันเกิดขึ้นได้ด้วยหลายปัจจัย เช่น ความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต

บ่อยแค่ไหนที่คุณจะเจอคนที่ตรงสเป็คฯสองคน (หรือมากกว่า) พร้อมกัน? เมื่อไม่แน่ใจ แต่ไม่อยากทิ้งโอกาส ก็ต้องขอลองดูไปก่อน

ถ้าบอกทั้งสองฝ่ายแต่แรกว่า ขอลองดูก่อน ก็ถือว่ายุติธรรม แต่ถ้าพัฒนาไปจนถึงขั้น 'แฟนจ๋า' ทั้งสองขบวน ก็คือการขับรถไฟแบบ bullet train สองขบวน

หากเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายก็สูง

ประเด็นไม่ใช่เกิดอะไรขึ้นเมื่อรถไฟสองขบวนชนกัน หรือสับรางเก่งแค่ไหน ไม่ว่าจะเรียกว่า การสับราง หรือการเผื่อไว้ก่อน ก็คือการโกหกกลายๆ

วัฒนธรรมฝรั่งแม้จะมีเสรีภาพในเรื่องเซ็กส์ แต่ก็นิยมการคบหากันครั้งละคน เลิกกันแล้วหาคนใหม่ เพราะการคบกันฉันชู้สาวทีละหลายคนถือว่าไม่ให้เกียรติกัน

คนที่รักกันย่อมให้เกียรติกัน

คำว่า จรรยาบรรณ ควรมีอยู่ในทุกเรื่อง แม้ในการขับรถไฟ

มารยาทในการจีบกันคือไม่ควรให้อีกฝ่ายตั้งความหวังลอยๆ หรือเข้าใจผิด คุณอาจบอกว่า ก็ไม่ได้สัญญา แต่บางครั้งคำพูดก็ไม่สำคัญเท่ากับความเข้าใจ

บางคนไม่เคยเอ่ยปากฝากคำว่ารัก แต่กิริยาท่าทางและสายตาที่แสดงออกอาจสื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจแทนคำว่า รัก

ผมมีเพื่อนที่ประสบความเจ็บปวดในเรื่องแบบนี้ เธอเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าเขารักเธอ แต่เมื่อผ่านชีวิตจนถึงวัยเริ่มโรยรา ฝายชายก็ถอนตัวจากไปตามพล็อตเรื่องเดิมๆ

เป็นโชคร้ายของเธอที่ฝ่ายชายไม่มีจรรยาบรรณในเรื่องนี้ เพราะเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าฝ่ายหญิงรักและรอเขามาหลายปี แต่ก็ไม่ยอมบอกตามความจริงว่าตนเองไม่ได้รักเธอ

รักก็คือไฟ เล่นกับไฟหนึ่งกองก็ยากแล้วที่ไม่ให้ไหม้ตัวเอง

ไฟหลายกองยิ่งเล่นยาก

ช้าหรือเร็ว ในสังคมปัจจุบัน ก็ต้องเลือกเอาเพียงกองเดียว

โบราณสอนว่า "อย่าเหยียบเรือสองแคม" กับ "อย่าจับปลาสองมือ" คงไม่ได้เขียนไว้เล่น ๆ แก้กลุ้ม

===================================

ขอบคุณที่มา  ::  บทความโดย...วินทร์ เลียววาริณ

ขอบคุณที่มา  ::  ป้าแก้ว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์