ยิ่งอยากก็ยิ่งไม่มี

ยิ่งอยากก็ยิ่งไม่มี


     เคยสังเกตไหมว่า ยิ่งอยากได้อะไร สิ่งนั้นกลับหลุดลอยหนีออกห่างไปทุกที หรือกว่าจะได้มา ก็ช่างยากเย็นแสนเข็นเสียเหลือเกิน เวลาอยากจะให้ถึงที่หมายไว ๆ ทำไมหนอระยะทางกลับไกลขึ้น จุดหมายปลายทางทำท่าจะเขยิบห่างไปเรื่อย ๆ เหมือนกลับจะแกล้งเรา

      สาวที่อยากสวย อยากมีทรวดทรงสะดุดตา มักรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของเธอช่างไม่น่าดูเอาเสียเลย ยิ่งเอาใจใส่ดูแลทรวดทรงมากขึ้นเท่าไร หรือปรุงแต่งให้ตัวเองดูสวยขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งกลุ้มใจกับเรือนร่างของเธอมากเท่านั้น อันที่จริงเธออาจจะสวยอยู่แล้วก็ได้ แต่ความอยากของเธอต่างหากที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองขี้เหร่

      ทำนองเดียวกันกับระยะทางซึ่งที่จริงก็เท่าเดิม แต่ความอยากให้ถึงไว ๆ ทำให้รู้สึกว่ามันไกลขึ้น เมื่อมีการสอบถามความคิดเห็นของหญิงสาวชาวแคนาดาจำนวน 203 คน ซึ่งมีอายุ 21 ปีโดยเฉลี่ย เขาพบว่าผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยที่สุด (จากการจัดอันดับของผู้วิจัย) กลับมีความรู้สึกไม่พอใจกับรูปร่างของตนมากที่สุด ความอยากสวยด้วยหุ่นนางแบบเป็นศัตรูที่สำคัญของผู้หญิงสาวสมัยนี้ก็ว่าได้ เพราะมันไม่เพียงพอกลับทำให้เธอต้องกลุ้มอกกลุ้มใจและรังเกียจรูปร่างของตนเอง (ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอสวยอยู่แล้วก็ว่าได้) มันอาจทำให้เธอกลายเป็นคนไม่สวยไปจริง ๆ เลย คือ ผอมกะร่องจนซี่โครงบาน เนื่องจากไม่ยอมกินอาหาร หรือหน้าตาดูไม่ได้เพราะคุ้มคลั่งจากพิษยาลดความอ้วน

      ไม่ใช่แต่ความสวยเท่านั้น ความรักก็เช่นกัน ยิ่งอยากได้ก็ยิ่งไม่ได้ คนที่อยากได้ความรักจากคู่ครองของตน จำนวนไม่น้อยกลับลงเอยด้วยการที่คู่ครองตีจาก ที่เขาตีจาก ไม่ใช่เพราะเขาไม่รัก แต่เพราะทนไม่ได้กับการถูกเรียกร้องความรักอย่างเกินพอดี เวลาทำอะไรไม่ถูกใจก็ถูกอีกฝ่ายตัดพ้อค่อนแคะว่า เธอไม่รักฉันแล้วใช่ไหม หรือไม่ก็ถูกตามประกบเพราะกลัวตีจากสุดท้ายเขาก็เลยตีจากไปจริง ๆ

      คนที่อยากได้ความรักจากคนอื่นมาก ๆ มักรู้สึกไม่พอใจกับความรักที่ได้รับ เพราะลึก ๆ รู้สึกกลัว่าจะสูญเสียความรัก ดังนั้นจึงพยายามไปกะเกณฑ์ให้เขารักมากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ระแวงว่าเขาจะเป็นอื่น เกิดอาการหึงหวงและยิ่งรีดคั้นความรักจากเขามากขึ้น

      ใครที่เจอแบบนี้ถึงจะรัก ก็คงทนไม่ได้ ยิ่งอยาก ก็ยิ่งกลัวสูญเสีย ดังนั้นจึงยิ่งเข้าไปควบคุมบังคับผลก็คือสูญเสียไปจริง ๆ กฎข้อนี้ควบคุมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกด้วย พ่อแม่ที่อยากได้ความรักจากลูกมาก ๆ มักอดไม่ได้ที่จะเรียกกะเกณฑ์ให้ลูกทำตามความต้องการของพ่อแม่ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรักต่อบุพการี เจอบ่อย ๆ เข้า ลูกก็อึดอัดจนต้องหาทางหนีห่างจากรัศมีของพ่อแม่ให้ไกลที่สุด หาไม่ก็ขัดขืนท้าทายาจนพ่อแม่ทุกข์ระทมใจ

      สังเกตไหมว่าความอยากที่กล่าวมา ล้วนเป็นความอยากชนิดที่มุ่งเอาเข้าตัว ความอยากชนิดนี้ยิ่งมีมากเท่าใด ก็ยิ่งคิดถึงตัวเองมากเท่านั้น เลยไม่แคร์ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร จึงเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ความสัมพันธ์จะแย่ลง หรือเกิดความทุกข์มากขึ้นทั้งกับเราและเขา ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่า ยิ่งอยากได้ความสุขกลับเป็นทุกข์มากขึ้น เพราะความอยากแบบนี้ทำให้ผู้คนคิดแต่จะตักตวงความสุขใส่ตัว จนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่เป็นที่รักของคนอื่น ๆ ชีวิตที่หาคนรักยากจะพบความสุขได้อย่างไร

      ถ้าเช่นนั้น เราจะมีความสุขได้อย่างไร ความสุขจะได้มาก็ต่อเมื่อรู้จักแบ่งปันความสุขให้แก่คนอื่น ยิ่งให้ความสุขก็ยิ่งได้ความสุข นี้เป็นกฎอย่างหนึ่งของชีวิต ในทำนองเดียวกัน ยิ่งให้ความรัก ก็ยิ่งได้ความรัก ถ้าอยากถึงเป้าหมายไว ๆ ก็ต้องลืมเป้าหมายไปก่อน ถ้าจะทำสมาธิ ก็อย่ารีบเร่งไปให้ถึงความสงบ แล้วความสงบจะมาเอง

      กฎแห่งธรรมชาตินั้นมีอยู่ว่า ประจุลบนั้นย่อมดึงประจุบวกเข้ามาหา แต่ประจุบวก ถ้ามาเจอประจุบวกด้วยกันก็ย่อมผลักไสกัน ฉันใดก็ฉันนั้น ใจที่ไม่อยากจะได้แต่กลับได้ ใจที่อยากได้แต่กลับไม่ได้ คนที่ไม่อยากได้ทรัพย์ กลับรู้สึกว่ารวยเสมอ มิหนำซ้ำยิ่งจ่ายออกไป ทรัพย์กลับหลั่งไหลมาหา

      ส่วนคนที่อยากจะรวย กลับรู้สึกจน และอยากได้ไม่หยุดหย่อน ซ้ำร้ายกว่านั้นยิ่งพยายามตักตวงเท่าไร ทรัพย์ก็ยิ่งหดหายมากขึ้นเท่านั้น ใช่หรือไม่ว่า คนที่ล้มละลายในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ก็ล้วนเป็นคนที่อยากจะรวยเร็ว ๆ กันทั้งนั้น.

+++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่มา  ::  บทความโดย.. รินใจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์