6 ทางด่วน ชวนได้โรคจากโรงพยาบาล

6 ทางด่วน ชวนได้โรคจากโรงพยาบาล


พูดถึงเรื่องผ่าตัดก็น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่ผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า หลังผ่านมีดหมอ เสร็จสิ้นการผ่าตัดแล้ว แผลที่เกิดยังมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคยามเมื่อท่านนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย

เรื่องนี้ นพ.กฤษดา  ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เตือนว่ามี

6 ช่องทาง หรือ 6 ทวาร เป้าหมายของเชื้อโรคร้ายนำความเจ็บป่วยมาเพิ่มให้...

เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คุณพ่อของผมต้องเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ที่โรงพยาบาลจุฬา เพื่อกำจัดหนองที่อยู่ในจุดลึกในหมดไป  ซึ่งในการผ่าตัดนี้ผมก็ได้คอยดูแลช่วยทำแผลให้พ่อในภายหลัง  แผลผ่าตัดที่กว้างทำให้พ่อลุกนั่งไม่สะดวกเพราะเจ็บระบมต้องให้ยาแก้ปวดก่อนทำแผล...สงสารพ่อจับหัวใจ

ตอนทำแผลไปก็ให้ระวังอย่างที่สุดเพราะหลังผ่าตัดมีสิทธิ์ติดเชื้อได้อีกโดยเฉพาะผ่านทางทวารต่างๆของร่างกาย  ไหนจะทางเลือดที่มีสายน้ำเกลือคาอยู่  ท่อปัสสาวะที่ต้องคาสายสวนไว้และในหลอดลมที่พ่อต้องคอยขากเสมหะออก  เลยอยากนำมาบอกเล่าให้ท่านที่รักฟังกันว่าทางด่วนชวนติดเชื้อหลังผ่าตัดมีดังนี้ครับ...

'หลอดลม'  ระดมจัดหนักเข้าปอดได้ถือเป็นจุดอ่อนให้เชื้อเข้ามาเป็นอย่างดี  แค่นอนมากเกินไปหลังผ่าตัดจนเสมหะไปคั่งในปอดหรือแค่สำลักน้ำก็ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้  ในยามพักฟื้นหลังผ่าตัดจึงต้องถือว่าเป็นช่วงวิกฤตที่ต้องคอยให้ลุกขึ้นมาไอขับเสมหะครับ

'โพรงไซนัส'  เป็นแหล่งซ่อนของการติดเชื้อได้เหมือนกัน  สิ่งสำคัญจึงต้องห้ามการเยี่ยมด้วยดอกไม้สดที่จะมีละอองเรณูและละอองเชื้อราปนอยู่  นอกจากนั้นการใส่ท่อยางให้อาหารทางจมูกก็ถือว่าเป็นทางด่วนให้เชื้อขึ้นไปได้เหมือนกัน

' หลอดเลือด'  ดูเป็นเรื่องเข้าถึงยากแต่หากมีแผลกดทับจากการนอนนานเกิดขึ้น  การเจาะเลือดบ่อยๆ  หรือเอาเข็มแทงเส้นคาไว้ในเส้นเลือดดำใหญ่ที่คอ  ก็เป็นแหล่งของการติดเชื้อผ่านกระแสเลือดเข้าไปทั่วร่างกายได้  อันตรายอยู่ที่อาจช็อคจากโลหิตเป็นพิษ(Septicemia)ได้ครับ

'หลอดอาหาร'  เป็นทางผ่านของอาหารและแน่นอนเชื้อที่มากับอาหารด้วย  คนไข้หลังผ่าตัดควรได้รับอาหารอ่อนที่ไม่บูดง่าย  พวกเข้านม,เนยหรือกะทิควรเลี่ยงไว้ก่อน  รวมถึงผักผลไม้สดที่อาจปนเปื้อนเชื้อจากดินและฝุ่นที่ผิว

'ทวารหนัก'  แม้เป็นช่องขับถ่ายของเสียแต่ยามติดเชื้อขึ้นมาก็ลามยาวขึ้นไปถึงช่องท้องได้  มักเกิดจากแผลกดทับ(Pressure sore)จากพักฟื้นอยู่นาน  ต้องระวังเรื่องการขับถ่ายให้ดีเพราะเชื้อที่มีมักเป็นเชื้อในอุจจาระส่วนใหญ่

'ท่อปัสสาวะ'  หลังผ่าตัดบางรายอาจต้องคาสายสวนปัสสาวะไว้ทำให้เป็นแหล่งเรียกเชื้อเข้ามา  นอกจากนั้นเมื่อถอดออกใหม่ก็ยังไม่ชินต้องค่อยฝึกเบ่งปัสสาวะกันอีกครั้งเหมือนเมื่อยังเด็ก  เทคนิกป้องกันคือให้ดื่มน้ำเยอะเข้าไว้ให้ล้างท่อปัสสาวะและถ้าไม่มีข้อบ่งชี้แล้วอย่าคาสายสวนไว้นาน

จะเห็นว่าทุกทางล้วนแต่เป็นเส้นทางธรรมดาแต่ทว่ายามผ่าตัดแล้วมันจะกลายเป็น “ทางด่วนอันตราย” ได้ง่ายๆ  ไหนจะร่างกายที่กะปลกกะเปลี้ยอยู่แล้ว อีกทั้งสายระโยงระยางที่ประดังกันเข้ามาเพื่อช่วยรักษาอีก 

มากสายก็มากโรค เพราะของทางการแพทย์เหล่านี้แม้จะมีการฆ่าเชื้อสเตอไรส์เป็นอย่างดีแต่ถ้าทิ้งไว้นานก็เป็นบ้านของเชื้อโรคได้เหมือนกัน  มันมีหลักอยู่ข้อหนึ่งว่าถ้ามีรูเปิดที่ใดในร่างกายเราก็อาจเป็นประตูเข้าให้เชื้อโรคได้หมด  ดังนั้นถ้าเมื่อใดที่หมดข้อบ่งชี้ของการใส่ท่อคอ,ท่ออาหาร,ท่อเลือด,ท่อฉี่และอีกสารพัดท่อแล้วก็ขอให้ถอดออกเถิดครับ.


ขอบคุณข้อมูลจาก : takecareDD@gmail.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์