คลื่นโทรศัพท์ทำ ป.6 ความจำสั้น

ผลการศึกษา ม.มหิดลชี้ เด็ก ป.6 อยู่ใกล้เสาโทรศัพท์มือถือ รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นประจำ ความจำสั้นกว่าเด็กวัยเดียกัน เตรียมขยายผลการศึกษา ในกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากขึ้นเพื่อขยายผลในอนาคต

ภายในการประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 13 จัดโดยคระสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.อรุณกาญจน์ อุดมฤทธิ์ นักศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศาสตร์อุตสาหกรรมและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล นำเสนอการศึกษา เรื่อง "ผลกระทบของการรับสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อน ที่ต่อความจำระยะสั้นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6" ว่า ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่สมัครใจเข้าร่วมการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนรัฐบาล 2 แห่งในจังหวัดหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงเรียนละ 30 คน โดยโรงเรียนของเด็กกลุ่มแรก มีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เสาติดตั้งมานานกว่า 5 ปี อยู่ในรัศมีประมาณ 250 เมตร ส่วนโรงเรียนของเด็กกลุ่มที่ 2 ไม่มีเสาสัญญาณภายในรัศมีโรงเรียน 1 กิโลเมตร ซึ่งนักเรียนทั้ง 2 กลุ่ม มีอายุเฉลี่ย 11.9 ปี มีภาวะโภชนาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เคยประสบอุบัติเหตุทางศีรษะหรือโรคเกี่ยวกับสมอง ส่วนใหญ่ไม่มีโทรศัพท์มือถือหากมีจำนวนครั้งของการใช้โทรศัพท์ต่อวันทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกัน

             การทดสอบความจำระยะสั้นทำโดยใช้แบบทดสอบที่ใช้มาตรฐาน การแปลผลเป็นคะแนนและระดับความจำระยะสั้นทำโดยนักจิตวิทยาคลินิก และใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานในการตรวจวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในบริเวณโรงเรียน ผลการวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพบว่า กลุ่มที่โรงเรียนอยู่ใกล้เสาสัญญาณได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นเฉลี่ย 0.0033 w/m2 มากกว่าอีกกลุ่มที่ได้รับเพียง 0.0016 w/m2

             การทดสอบความจำระยะสั้นปรากฎว่า กลุ่มที่โรงเรียนอยู่ใกล้เสามีคะแนนความจำระยะสั้นเฉลี่ย 8.83 น้อยกว่าอีกกลุ่มที่มีความจำระยะสั้นเฉลี่ย 8.83 น้อยกว่าอีกกลุ่มที่มีความจำระยะสั้น 10.80 ซึ่งถือว่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อทำการประเมินระดับความจำระยะสั้น พบว่ากลุ่มที่โรงเรียนประเมินระดับความจำระยะสั้นต่ำกว่าเกณฑ์ปกติถึง 20% ขณะที่อีกกลุ่มมีเพียง 6.7% นอกจากนี้เมื่อพิจารณาผลการเรียน พบว่า กลุ่มแรกมีเกรดเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มหลังด้วย

             "การสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อที่ระดับความ เข้มไม่เกินมาตรฐานเป็นเวลานาน ส่งผลต่อความจำระยะสั้นของเด็กประถมศึกษาอย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ ยังมีกลุ่มตัวอย่างที่ทำการศึกษาจำนวนน้อย จึงควรจะทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากขึ้น "น.ส.อรุณกาญจน์ กล่าว