4 ปรากฏการณ์หลังยลโฉม iPhone 4S

4 ปรากฏการณ์หลังยลโฉม iPhone 4S


เปิดตัวไปเรียบร้อยกับ iPhone 4S รุ่นใหม่จากแอปเปิล ที่หลายคนอาจจะผิดหวังกับสิ่งที่คาดไว้ว่าทางแอปเปิลจะมีการนำนวัตกรรมเด็ดๆ ของมาชี้นำเทรนด์เทคโนโลยีเพื่อให้โลกก้าวตามกันต่อไป 
        
       สรุปกันสั้นๆถึงความเปลี่ยนแปลงกับ iPhone 4S กันก่อนว่าจุดหลักที่เปลี่ยนแปลงจริงจังเลยคือหน่วยประมวลผลที่ใช้มีการอัปเดตขึ้นมาตามสมัยนิยมคือ เปลี่ยนเป็นใช้ซีพียู Apple A5 ที่เป็นดูอัลคอร์เช่นเดียวกับไอแพด 2 กล้องเพิ่มความละเอียดขึ้นมาเป็น 8 ล้านพิกเซล พร้อมอัดฟังก์ชันกล้องต่างๆมากมายใส่เข้าไป 
        
        ***1.ปรับราคา iPhone 4 ชิงแชร์ android 
        
       แต่จุดที่น่าสนใจคือการลดราคาของ iPhone 4 ที่มีการลดสเปกลงเล็กน้อยอย่างลดหน่วยความจำลงเหลือ 8 GB จากปกติที่เปิดตัวคราวที่แล้วเมื่อ มิถุนายน ปีที่ผ่านมาซึ่งวางจำหน่ายในรุ่น 16GB และ 32GB เช่นเดียวกับกลไกสมัยรุ่น iPhone 3GS ตอนที่เปิดตัว iPhone 4 แบบไม่ผูกสัญญาในราคา 549 เหรียญฯ 
        
       นั่นแปลว่าผู้ใช้ชาวไทยอาจได้ใช้งาน iPhone 4 8 GB ในราคาประมาณ 16,500 บาท* ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ iPhone 4 กลายเป็นรุ่นที่น่าจับตามองขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับผู้บริโภคที่มีงบจำกัดจำเขี่ย และยังถือเป็นการขยายฐานตลาดของแอปเปิลให้กว้างขึ้นไปในตัว 
        
       เมื่อมองไปที่ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ที่ไอโอเอสเริ่มถูกแอนดรอยด์กินพื้นที่มากขึ้น ทำให้แอปเปิลต้องหันมาทำตลาดเชิงรุกหนักขึ้น ด้วยการปรับราคาสินค้าอย่าง iPhone 3Gs และ iPhone 4 ลงมาให้เทียบเท่ากับแอนดรอยด์รุ่นที่มีความนิยมในท้องตลาด 
        
       จากข้อมูลล่าสุดของแอปเปิลที่แสดงในงานอ้างอิงจากผลวิจัยของคอมสกอร์พบว่า สัดส่วนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอสมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก (อาจนับรวมทุกอุปกรณ์พกพาที่ใช้งาน) 43% แอนดรอยด์ 33% แบล็กเบอรี 17% และอื่นๆอีก 7% 
        
       ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลจากบริษัทวิจัย คานาไลซ์ที่ระบุว่าสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ที่ 48% ขณะที่แชร์ของไอโฟนอยู่ที่ 19% ขณะที่การ์ทเนอร์เองก็ระบุว่าแอนดรอยด์มีส่วนแบ่งในไตรมาส 2 ทั่วโลกอยู่ที่ 43.4% ส่วนไอโฟนอยู่ที่ 18.2% 
        
       และถ้ามองในภาพใหญ่แล้ว ไอโฟน มีส่วนแบ่งจากตลาดโทรศัพท์ทั่วโลกเพียง 5% เท่านั้น จากแนวทางเหล่านี้ จึงเห็นได้ว่าทางแอปเปิลพยายามเริ่มเข้าหากลุ่มคนหมู่มาก ที่มีกำลังซื้อในช่วงระดับราคาหนึ่งหมื่นบาทปลายๆ ที่เมื่อรวมกับกระแสการเติบโตของสมาร์ทโฟน ที่คาดว่าภายในปี 2015 จะมีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของตลาดโทรศัพท์จากผลสำรวจก่อนหน้านี้ จะกลายเป็นผลดีกับแบรนด์ของตนเอง
        
        แน่นอนว่า การปรับลดราคาลงมา ย่อมส่งผลกับผู้ที่ครองตลาดในระดับราคานี้อย่าง ซัมซุง และเอชทีซี เพราะเมื่อมองไปถึงอารมณ์ ความรู้สึกกับภาพลักษณ์ของแบรนด์แล้ว ความเป็นสินค้าของแอปเปิล ย่อมเร้าใจผู้ซื้อ มากกว่าแบรนด์จากทางฝั่งเกาหลี และไต้หวัน 
        
        ***2.หลุดภาพกรอบผู้นำสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ 
        
       ขณะที่การปรับเปลี่ยนสเปกใหม่ของ iPhone 4S นั้นแทบจะไม่มีความแปลกใหม่ในตลาดสมาร์ทโฟน ทั้งเรื่องของหน่วยประมวลผล ความละเอียดกล้อง ขนาดและความละเอียดหน้าจอ ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รายใหญ่อย่างซัมซุง ที่กำลังจะเปิดเผย Nexus Prime แอนดรอยด์โฟนต้นแบบรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกับกูเกิล อาจกลายเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ จากสเปกเครื่องที่กำลังจะเผยโฉมในเร็ววันนี้ 
        
       รายงานล่าสุดจากหลายๆแหล่งระบุว่า ความสามารถของ Nexus Prime จะมาพร้อมกับซีพียู Exynos รุ่นใหม่ของซัมซุง ที่มีความเร็วในการประมวลผลเป็นดูอัลคอร์ 1.5 GHz หน้าจอ Super AMOLED Plus ขนาด 4.6 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดภาพอยู่ที่ 1184 x 720 พิกเซล หรือเปรียบได้ว่ารองรับการแสดงผลแบบ 720p ยังไม่รวมว่าตัวเครื่องจะรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ NFC หรือแม้แต่ 4G LTE ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในอนาคต 
        
       เพราะสิ่งที่เรียกว่าใหม่อย่างจริงจังในแง่ของสเปก iPhone 4S คงหนีไม่พ้นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ใช้เลนส์ซ้อนกัน 5 ชั้น ทำให้ภาพที่ได้ออกมาคมชัดสมจริง บนขนาดรูรับแสงเพียง f2.4 ยังไม่รวมกับโหมดกันสั่น ความเร็วชัตเตอร์ที่ทำให้กลายเป็นกล้องมือถือที่เร็วที่สุดในโลก 

***3.ฟีเจอร์เด็ด iOS5 
        
        นอกจากสเปก iPhone 4S ที่ถูกอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในเรื่องของระบบปฏิบัติการที่มากับตัวเครื่องยังถูกอัปเดตเป็น iOS รุ่น 5 ที่ถือเป็นการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และฟีเจอร์แบบใหม่ถอดด้าม (Major Change) ทั้งหมด 
        
       โดยจากการเปิดตัว iOS 5 ไปก่อนหน้าในงาน WWDC 2011 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จะพบว่าสิ่งที่เด่นสุดใน iOS 5 ก็คือการมาของ iCloud และฟีเจอร์ PC Free ที่ทางแอปเปิลหวังสร้างประสบการณ์การใช้งานไอโอเอส ดีไวซ์ในยุคหน้าจะทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งไอจูนเพื่อซิงค์ข้อมูล แต่ตัวไอโอเอสดีไวซ์จะสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน App Store รวมถึงการจัดอัลบั้มรูปภาพและวิดีโอได้โดยไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์ 
        
       ในขณะเดียวกันการแบ็กอัพข้อมูลในไอโอเอสดีไวซ์ทั้งหมดจะสามารถย้ายจากไอจูนไปฝากไว้กับ Personal Cloud ของแอปเปิลในชื่อ iCloud ได้ และเมื่อผู้ใช้ซื้ออุปกรณ์ไอโอเอสตัวใหม่มาใช้ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบ iCloud เพื่อดึงข้อมูลจากเครื่องเก่า ทั้งเบอร์โทรศัพท์ เซฟงานต่างๆ กลับมาที่ไอโอเอสเครื่องใหม่หรือจะใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Photo Steam ในการดึงรูปที่ถ่ายจากไอโฟนมายังไอแพดได้โดยเชื่อมต่อกับ WiFi/3G และ iCloud โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องโอนไฟล์ผ่านคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก เพราะระบบทุกอย่างทำงานอัตโนมัติ เพียงแค่ใช้บัญชี Apple ID ในการเชื่อมต่อเท่านั้น 
        
       นอกจากนั้นใน iPhone 4S ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่นในชื่อ Siri ที่แอปเปิลหวังเป็นไม้ตายล้ม Voice Search จากกูเกิลโดยเฉพาะ เพราะจากในงาน Let's talk iPhone ที่ผ่านมา แอปเปิลชูว่า Siri เป็นสมองกล (AI) ที่สามารถตอบคำถามผู้ใช้ iPhone ได้ทุกคำถาม (ต้องเป็นภาษา อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมันเท่านั้น) เช่น ถาม Siri ว่า วันนี้อากาศในเมืองนี้เป็นอย่างไร Siri ก็จะตอบว่า "อากาศในเมืองวันนี้ร้อน..." หรือแม้เราจะสั่งให้ Siri โทรหาภรรยา Siri จะเรียนรู้ว่าชื่อใดคือภรรยาของผู้ใช้ (เรียนรู้จากการกำหนดตอนบันทึกรายชื่อ) จากนั้น Siri จะโทรออกด้วยเบอร์ที่ถูกต้องทันที 
        
       ซึ่งถ้านับรวมกับเรื่องการพยายามชิงตลาด Messaging Service จาก BBM ของ BlackBerry ด้วยการคลอดแอปฯ iMessage บน iOS 5 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชตกับเพื่อนผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตแทนระบบรับส่ง SMS และ MMS แบบเดิม พร้อมอุดช่องโหว่และเก็บความสมบูรณ์ของ iOS 5 ด้วยฟีเจอร์แบบเดียวกับแอนดรอยด์อย่าง ระบบแจ้งเตือนแบบดึงจากขอบจอลงมาหรือระบบ iCloud ที่มาท้าชน Google Service ก็ถือว่าระบบปฏบัติการดังกล่าวเปรียบเสมือนจุดขายอีกหนึ่งอย่างของ iPhone 4S ที่ไม่เน้นขายสเปกไฮเอนด์เหมือนสมัยก่อน 
        
       แต่เน้นจับจุดเรื่องประสบการณ์ผู้ใช้ ซึ่งใน iOS 5 มีจุดขายในเรื่องความง่าย ความเสถียรของระบบ และแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน 

***4.มาไทยขายเท่าไหร่ 
        
        ย้อนมองกลับไปเมื่อครั้งไอโฟน 4 วางจำหน่ายที่สหรัฐฯ คงจำกันได้ว่าราคาเครื่องหิ้วของไอโฟน 4 ที่ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน เคยทำสถิติขึ้นไปสูงถึงเกือบแสนบาท ในช่วงที่สินค้าเริ่มขาดตลาด และเชื่อว่าปรากฏการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเช่นเดียวกัน กับความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพี่ไทยในมุม ‘ขอเท่ห์ก่อนใคร’ 
        
       ตามปกติแล้วระยะเวลา นำเข้ามาตามร้านค้าเกรย์มาเก็ต น่าจะอยู่ในช่วงไม่เกินสัปดาห์หลังสินค้าวางจำหน่ายที่สหรัฐฯ แต่เชื่อว่าการวางจำหน่ายครั้งนี้ แอปเปิลคงไม่พลาดซ้ำในแง่ของปริมาณการผลิตจากบทเรียนครั้งสำคัญที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มโรงงานขนาดใหญ่ในบราซิล ส่งผลให้สินค้าจะสามารถกระจายสู่ทั่วโลกได้ภายในสิ้นปีนี้ 
        
       ขณะที่เวลาในการนำเข้ามาจำหน่ายของโอเปอเรเตอร์ 3 ค่ายหลักในประเทศไทย น่าจะอยู่ในกลุ่มที่ 3 ในช่วงสิ้นปี 2554 พร้อมกับอีก 70 ประเทศ 100 ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลก เช่นเดียวกับการจำหน่าย iPhone 4 ในครั้งที่ผ่านมา 
        
       และความน่าสนใจในการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์จะน่าสนใจยิ่งขึ้น เมื่อมีแนวโน้มว่าราคาจำหน่ายของ iPhone 4S แบบไม่ผูกสัญญา (เครื่องเปล่า) ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 649 เหรียญ (ราว 19,500 บาท) รุ่น 32GB ราคา 749 เหรียญ (ราว 22,500 บาท) และรุ่น 64GB ราคา 850 เหรียญ (ราว 25,500 บาท) ซึ่งมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่ระดับราคาจะออกมาอยู่ในช่วงดังกล่าว เพราะถ้ามองในแง่ของอีโคโนมี ออฟ สเกล แล้วราคาชิ้นส่วนที่แอปเปิลสั่งเพื่อมาผลิต iPhone 4S นั้นอาจจะถูกกว่าสมัยสั่งผลิต iPhone 4 เสียด้วยซ้ำ 
        
        สงครามสมาร์ทโฟนใกล้ทะลักจุดเดือดแน่ !!!


FW

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์