เมื่อเขาไปมี กิ๊ก

เมื่อเขาไปมี กิ๊ก



เมื่อเขาไปมี กิ๊ก



ผม : “สองสาวน้อย จูงมือกันต้อย ๆ จะไปไหนจ๊ะ”
เอ๋ : “จะไปวัด”
ผม : “ไปติดต่อศาลาให้นังเบญจ์เหรอ ดูหน้าตาท่าทางเข้าสิ สงสัยไม่รอดคืนนี้”
เอ๋ : “พอเจอกันก็เมาท์ด๊อกตามเคยนะเราเบญจ์เขามีเรื่องไม่สบายใจมาก ก็เลยจะพาเขาไปทำบุญ เผื่อจะดีขึ้นบ้าง”
ผม : “มีเรื่องอะไรล่ะ”
เอ๋ : “ก็คนวัยนี้ มีครอบครัวแล้ว จะมีเรื่องอะไรเบญจ์ เรื่องของเธอลองเล่าให้พิชฟังซิ เผื่อเขาจะมีความคิดอะไรช่วยเธอได้บ้าง”
เบญจ์ : “แฟนเราเขาชอบเที่ยว”
ผม : “ดีสิ ชอบเที่ยวน่ะดีแล้ว เราจะได้พลอยไปเที่ยวด้วย”
เอ๋ : “จะบ้าเหรอ ไม่ใช่เที่ยวทัศนาจร แต่หมายถึงเขาไปเที่ยวผู้หญิง เข้าใจไหม”
ผม : “อ๋อ รู้แล้ว”
เบญจ์ : “หา นายรู้เรื่องของฉันด้วยเหรอ”
ผม : “รู้ครับ ป้าเบญจ์”
เบญจ์ : “รู้ รู้อะไร”
ผม : “ป้าเบญจ์ก็..เป็นบ้าไง”
เบญจ์ : “เฮ้อ ว่าแต่นายมีทรรศนะในเรื่องนี้ยังไง”
ผม : “เรื่องพรรค์นี้มีหลายทรรศนะ


ประเภทแรก ทรรศนะลายคราม คนที่มีทรรศนะแบบนี้ก็จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย จะให้ผู้ชายกินน้ำพริกถ้วยเก่าอยู่ทุกวี่ทุกวันได้ยังไงเรื่องแบบนี้เป็นมรดกตกทอดสืบต่อกันมาในสังคมไทยนานแล้ว เมียบางคนถึงกับหาให้ผัว จะได้เลือกเอาชนิดที่แน่ใจได้ว่าจะไม่ลุกขึ้นมาทาบรัศมีเรื่องนี้ผู้ชายเท่านั้นนะที่มีเมียน้อยได้ ผัวน้อยนั้นอย่าได้แม้แต่จะคิด ไปเอาที่ไหนมาว่าผู้หญิงกับผู้ชายเท่าเทียมกัน อาจจะเท่าเทียมกันได้บ้างในเรื่องอื่น แต่กับเรื่องนี้เท่ากันไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ผู้หญิงเองก็ยังรับความเท่าเทียมเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่เชื่อก็ลองให้รัฐบาลทำประชาพิจารณ์ดู


ประเภทที่สอง ทรรศนะสิทธิสตรี ทรรศนะแบบนี้เห็นว่าถ้าผู้ชายเป็นมนุษย์ ผู้หญิงก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ทำไมจะเท่าเทียมกันไม่ได้ เมื่อแต่งงานกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน จะให้ผู้หญิงซื่อสัตย์อยู่ฝ่ายเดียวยังไงไหว ถ้าอยากไปมีคนอื่นได้ ฉันก็มีได้ หรือถ้าเธอไปมีคนอื่นก็เลิกกัน ทุกวันนี้ฉันก็ทำงานเหมือนกัน ไม่ได้แบมือขอใครรับประทาน อยู่คนเดียวฉันก็อยู่ได้ ลูกน่ะเหรอฉันเลี้ยงเองได้ พ่อไม่ต้องยุ่ง


ประเภทที่สาม ทรรศนะสมัยใหม่ คนที่มีทรรศนะแบบนี้จะเห็นว่าการที่คนสองคนจะมาใช้ชีวิตร่วมกัน ควรจะต้องศึกษากันก่อนว่าจะไปด้วยกันได้หรือไม่ การทำงานยังมีระยะทดลองงานเลยแล้วนี่เป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ก็ควรมีระยะทดลองอยู่ด้วยกันก่อน ถ้าไปด้วยกันได้ค่อยเข้าระยะจริง ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็หันหลังให้กัน เหมือนซื้อของ เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็ไปซื้อเจ้าอื่นจนกว่าจะพอใจ อันตัวข้าคือ เทพผู้ฤทธี ทางชีวีจะดีชั่วเพราะตัวข้า คนอื่นอย่ายุ่ง”

เอ๋ : “แล้วนายอยู่ประเภทไหนล่ะ”
ผม : “เราจะอยู่ประเภทไหนไม่สำคัญ สำคัญที่เบญจ์อยู่ประเภทไหน”
เบญจ์ : “คล้ายๆ ประเภทสอง แต่ก็ยังไม่ถึงกับอยากเลิกเพราะสงสารลูก และนายก็เคยสั่งนักสั่งหนาไม่ใช่เหรอว่าห้ามยื่นคำขาดให้เขาเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง แต่ฉันก็ยังทำใจลำบาก กลายเป็นป้าเบญจ์อยู่ทุกวันนี้”
ผม : “ปัญหานี้มีทางออกอยู่ 2 ทาง คือ เลิก หรือไม่เลิก

ถ้าเลิก ทำไมถึงเลิก เพราะทนไม่ไหว เลิกกันให้เด็ดขาด ต่างคนต่างจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นของเราจริงๆ ลูกเองก็น่าจะมีความสงบสุขมากกว่าที่จะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวันเหมือนหรั่งไง อธิบายให้ลูกฟังง้าย…ง่ายว่า “พ่อกับแม่ยังรักกันนะ และก็ยังรักลูกเหมือนเดิม เพียงแต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ โตขึ้นลูกจะเข้าใจ”


ถ้าไม่เลิก ทำไมถึงไม่เลิก เพราะ

1. เศรษฐกิจ ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองให้ตลอดรอดฝั่ง ต้องพึ่งเขา อันนี้ก็ต้องหาวิธีเจรจาเพื่อความสงบของประสาทของเรา หรือสงบปากสงบคำตัวเราเอง ทำใจยอมรับเพราะอยู่ในฐานะเป็นรอง


2. รัก ผู้หญิงส่วนมากลงรักเขาแล้วก็รักมากผู้ชายจะไประยำตำบอนที่ไหนก็ยังรักไม่ลืมหูลืมตา


3. สังคม มีหลายคู่ดังๆ ที่ปัญหาไม่ใช่ข้อ 1 หรือ 2 แต่เลิกไม่ได้เพราะกลัวเสียหน้า เลยทนอยู่บ้านคนเดียว แต่ผ่าแยกกันอยู่เป็นสัดเป็นส่วนหรือชนิดแยกกันอยู่ตามพฤตินัย แต่ยังควงกันออกงานหวานจ๋อย พอพ้นงานก็แยกกันกลับ บ้านใครบ้านมัน

เบญจ์ เธอต้องตัดสินใจ จะเป็นคนใจป่วยแบบนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะลูกเราทำให้เขาเกิดมาแล้วจะให้เขามารับบาปของพ่อแม่ได้ยังไง ถ้าเลิก เธอจะเป็นทั้งพ่อแม่ของลูกไหวไหม ถ้าไม่เลิก ก็ต้องทำใจให้อภัยเขา มองเขาในส่วนดีที่เขามี ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะสมบูรณ์แบบไปหมด จิตที่ให้อภัยเป็นจิตที่สูงส่ง ทำให้เจ้าของจิตมีแต่ความสงบสุข ไม่เครียด คนที่ใกล้ชิดก็พลอยมีความสงบด้วย ตัวเขาเองแทนที่จะเจ็บแค้นหงุดหงิดเพราะจิตที่ไม่อภัยของเรา กลับจะเปลี่ยนเป็นความเกรงใจ รักและเทิดทูน การอยู่ร่วมกันแบบรู้จักให้อภัยกัน จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเข้าอกเข้าใจ อบอุ่น นำไปสู่ความรักที่แนบแน่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าใจของเรายังมีแต่ความแค้น ไม่รู้จะใจให้อภัยยังไงลองหาหนังสือธรรมะอ่านดู


จะตัดสินใจอย่างไร เบญจ์ เธอเท่านั้นที่มีข้อมูลมากที่สุด จงใช้ข้อมูลนั้นมาช่วยตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับเธอ และโดยเฉพาะลูก”


เบญจ์ : “ขอบใจที่แนะนำ เราจะลองไปคิดดูจ๊ะ”.


ขอบคุณที่มา  ::  โดย คุณสถาพร ริยะสุ

ขอบคุณที่มา  ::  คลินิกรัก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์