ถ้าจะพูดถึงพุทราแล้ว เชื่อว่าใครก็ปลูกได้ แต่จะหวาน กรอบ อร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับที่ สวนพุทราวารินทร์ ของ คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา เกษตรกรดีเด่นระดับเขต สาขาอาชีพทำสวน ผู้ที่มีหัวคิด และหัวใจในการคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้พุทราของสวนพุทราวารินทร์ เป็นที่ยอมรับในด้านความอร่อย ผลใหญ่โตเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของชื่อ “ พุทราซุปเปอร์จัมโบ้ ” นั่นเอง
ความที่เป็นคนชอบคิดค้นสิ่งแปลกใหม่ในแวดวงไม้ผลตลอดเวลา ทำให้ วารินทร์ ชิตะปัญญา หนุ่มใหญ่แห่ง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ที่ประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าของสวน “ พุทราซุปเปอร์จัมโบ้ ” สายพันธุ์พม่าที่สร้างรายได้ให้ไม่น้อยเพราะลูกที่ใหญ่ยักษ์แถมรสชาติก็หวานกรอบจึงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก
ก่อนจะมาเป็นพุทราซุปเปอร์จัมโบ้ คุณวารินทร์ เล่ากับทีมงานว่า ตนไม่ได้เรียนจบเกษตรแต่จบจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปกร แต่ด้วยตนเองมีพื้นที่และมีความสนใจในด้านการเกษตรจึงศึกษาการทำเกษตร และหาแนวทางใหม่ๆ แปลๆ ในการทำการเกษตร เพื่อให้ได้รับความสนใจ ซึ่งผมได้มีโอกาสไปประเทศพม่ากับ ดร.ชาตรี พิทักษ์ไพวัน ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับ ดร.เมี่ยหม่อง ได้ให้พันธุ์พุทรามาทดลองปลูก 10 กิ่ง ผมได้มา 3 กิ่ง นำมาเสียบดูแลอย่างดีประมาณ 1 ปี จึงให้ผลผลิต
สำหรับการเอาใจใส่ดูแลบำรุงรักษา หมั่นสังเกตจนรู้ว่าพุทราต้องให้ออกหน้าฝนและแก่จัดหน้าแล้ง ซึ่งเทคนิคอยู่ที่การตัดแต่งกิ่ง ส่วนผลใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับการใส่ปุ๋ย ทั้งปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีแต่ต้องยอมรับว่าพุทราเป็นผลไม้ที่ประสบปัญหาเรื่องโรคและหนอนมากที่สุด ที่สวนของเราเน้นการใช้สมุนไพรผสมสาน โดยใช้เครื่องโซลาร์ฮีตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ต้มสมุนไพร เช่นสะเดา ยูคาลิปตัส กะเพรา ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเชื้อแป้งที่ต้นพุทราได้ดี โดยใช้สารนี้ 100 ซีซี ผสมกับคลอไพรีฟอส 10 ซีซี ฉีดให้ทั่วปัญหาโรคเชื้อแป้งก็จะหมดไป
พุทราจะเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ที่สวนไม่ปล่อยให้ออกทั้งปี เพราะต้องการให้พุทราได้พักต้นจากนั้นจะดัดแต่งกิ่งและให้อาหารเสริมซึ่งการดูแลลักษณะนี้จะทำให้พุทรามีผลโต รสชาติดี แต่จะให้รสชาติอร่อยที่สุดต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ซึ่งพุทราของเราได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก สร้างรายได้และทำให้ผมประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
