ตกขาว สีไม่ขาว!..บอกโรค

เกิดเป็นหญิง นอกจากจะต้องเจอกับการมีประจำเดือน และการตั้งครรภ์แล้ว ผู้หญิงยังต้องเผชิญกับภาวะตกขาว บ้างอาจเรียกระดูขาว หรือมุตกิด ซึ่งมีประโยชน์ช่วยป้องกันเชื้อโรค

โดยตกขาวที่ปกติจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น และไม่ทำให้คันช่องคลอด เว้นเสียแต่ตกขาวที่ออกในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือน จะค่อนข้างเหลวใส

ทว่า มีตกขาวออกมาไม่เหมือนลักษณะข้างต้น แสดงว่า ตกขาวผิดปกติ เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ ติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ โดยแต่ละสาเหตุมีผลกับลักษณะของตกขาวที่แตกต่างกัน จึงนำมาซึ่งการสันนิษฐานเบื้องต้นได้

อย่างกรณีการตกขาวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ ยังแบ่งย่อยออกเป็น "ติดเชื้อไวรัส" เช่น เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม เป็นหนึ่งโรคที่ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ หากติดเชื้อไวรัสที่เกี่ยวกับโรคทางเพศนี้ ตกขาวจะผิดปกติ คือ มีสีเหลือง และมีกลิ่น โดยจะชัดเจนมากในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ (อาการโรคเริม จะมีตุ่มเล็กใสต่อมาจะแตกเป็นแผล)

ส่วน "การติดเชื้อแบคทีเรีย" ทำให้ตกขาวมีสีเหลือง ค่อนข้างเหนียว บางรายอาจรู้สึกคันร่วมด้วย แถมเชื้อบางชนิดอาจทำให้ตกขาวมีกลิ่นคาวปลาหลังการมีเพศสัมพันธ์ เว้นแต่การติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคหนองในจะทำให้ตกขาวมีสีเหลืองจัด แล้วยังอาจปัสสาวะแสบขัดด้วย

"ติดเชื้อรา" ทำให้ตกขาวมีสีขาว แต่จะออกมาเป็นก้อนขนาดเล็ก คล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา และยังทำให้คันช่องคลอด โดยการติดเชื้อรานี้มักเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด และผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ ใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน

และ "ติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด" จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะทำให้ตกขาวมีสีเหลือง เห็นเป็นฟอง มีกลิ่นเปรี้ยว และทำให้คันช่องคลอด

สำหรับสาเหตุของการตกขาวผิดปกติ แบบไม่ติดเชื้อ อาจทำให้มีสี กลิ่น ความเข้มข้น ต่างไปจากตกขาวที่ปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการระคายเคือง แพ้สารเคมี  มีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด หรือเป็นโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์เพศหญิง เช่น มะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่

หลังจากทราบลักษณะของตกขาวที่เป็นปกติ และผิดปกติแล้ว ผู้หญิงสามารถสังเกตตกขาวของตนเองว่าผิดปกติหรือไม่ ด้วยหลักง่ายๆ คือ ดูสี กลิ่น และมีอาการคันร่วมด้วยหรือไม่ หากพบว่าผิดแปลกไป ควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้หมดกังวล.