แว่นกันแดด...แค่เท่ไม่พอ

แว่นกันแดด...แค่เท่ไม่พอ


ในช่วงหน้าร้อนที่แดดแผดแสงจ้าเช่นนี้ แว่นกันแดดกลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มฮิตที่หลายคนนิยมซื้อมาสวมใส่ เพื่อเสริมบุคลิกให้ดูทันสมัยและปกป้องดวงตาจากการถูกทำร้ายจากรังสียูวี ในแสงแดด

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้แนะนำเคล็ด (ไม่)ลับเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อแว่นกันแดดว่า สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ เลนส์แว่น ซึ่งมีทั้งเลนส์ที่ทำจากแก้วและเลนส์ที่ทำจากพลาสติก

ข้อแตกต่างระหว่างเลนส์สองชนิดนี้ คือ เลนส์แก้วจะแข็งกว่า และเกิดรอยขีด ข่วนได้ยากกว่า แต่หนัก ส่วนเลนส์พลาสติก จะเบากว่าและทนต่อแรงกระแทกได้มาก กว่า แต่เกิดรอยขีดข่วนง่าย จึงมีการเคลือบสารบางชนิดเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้มีราคาแพง

เลนส์แว่นตาที่ดีนั้นเมื่อเรามองเส้นตรงผ่านเลนส์ข้างใดข้างหนึ่ง แล้วขยับแว่นเลื่อนเข้าเลื่อนออกช้าๆ เส้นตรงนั้นจะต้องไม่คดเบี้ยว

สีของเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดคือแดง เทา เขียว น้ำตาล เพราะจะไม่ทำให้การมองสีอย่างเช่นสีไฟสัญญาณจราจรผิดเพี้ยนไป

ส่วนเลนส์สีเข้มที่ไม่ได้เคลือบสารกรองหรือป้องกันรังสียูวีก็ไม่สามารถปก ป้องดวงตาจากอันตรายของรังสียูวีได้แต่ จะยิ่งทำให้ดวงตาได้รับแสงยูวีมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลาอยู่ในที่มืดหรือที่สลัวรูม่าน ตาของเราจะขยายตัวมากขึ้นทำให้ดวงตาได้รับรังสียูวีมากขึ้นด้วย

วิธีสังเกตว่าแว่นตากันแดดที่จะซื้อ ป้องกันรังสียูวีได้หรือไม่ ดูได้จากว่า ถ้ามีข้อ ความ "400 UV Protection" ระบุอยู่ แสดงว่ามีการเคลือบสารป้องกันรังสียูวีใน ระดับที่ปลอดภัย เพราะรังสียูวีมีความยาว คลื่น 200-400 นาโนเมตร และตัวเลข 400 ในข้อความข้างต้น มาจาก 400 นาโนเมตร ซึ่งเป็นระยะที่รังสียูวีส่งผ่านไม่ถึงหรือเป็นระยะที่ป้องกันรังสียูวีได้ 100% ตามเกณฑ์มาตรฐานที่ใช้ในยุโรปอเมริกาและอีกหลายๆ ประเทศ

หรือถ้ามีสัญลักษณ์CEตรารับ รองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากยุโรปกำกับอยู่ ก็ถือเป็นการการันตีคุณภาพเช่นกัน

ในการเลือกรูปทรงของแว่นตานอก จากเรื่องของความเท่ หรือความกุ๊กกิ๊กน่ารัก แล้ว ควรเลือกให้เหมาะสมกับรูปหน้า โดยไม่ควรเลือกแว่นกันแดดที่คับเกินไปจนอึดอัดหรือเจ็บที่ขมับ แต่ก็ต้องไม่หลวมจน ตกมาอยู่ที่จมูกทำให้เวลามองต้องลดสาย ตาลงต่ำ เพราะอาจทำให้ปวดตาปวดหัวได้

และเวลาที่สวมแว่นกันแดดแล้ว ต้องมีแสงลอดผ่านเข้าดวงตาน้อยที่สุด ทั้งจากด้านบนและด้านล่าง แต่ไม่ต้องใกล้ถึงขนาด เวลาใส่แล้วเลนส์เข้ามาชิดขนตา

ถึงแม้ราคาและแบรนด์จะไม่ใช่เครื่องยืนยันคุณสมบัติในการป้องกันรังสียูวีของแว่นกันแดด แต่การซื้อแว่นกันแดดจากร้าน ที่มีที่อยู่แน่นอน มีรายละเอียดข้อมูลผู้ผลิต และมีใบรับประกันคุณภาพ ย่อมสร้างความ มั่นใจให้กับผู้ใช้ได้มากกว่าและแว่นกัน แดดนั้นก็มีกำหนดอายุการใช้งานเพียง 2-3 ปี เพราะฉะนั้นเวลาซื้อต้องศึกษาข้อมูล วันที่ผลิตจากคู่มือหรือใบรับรองหรืออาจสอบถามจากพนักงานขาย

สำหรับใครที่กำลังมองหาแว่นกันแดดมาใส่ท้าร้อน อย่าลืมว่า แค่เท่อย่างเดียวไม่ พออีกต่อไป แว่นกันแดดที่ดียังต้องทำหน้า ที่ปกป้องและถนอมดวงตาของเราได้เป็นอย่างดีด้วย



ขอบคุณ : นิตยสารเอสเอ็มอี พลัส

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์