วัดถ้ำเสือ - วัดถ้ำเขาน้อย สุดยอดอันซีนของกาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือ - วัดถ้ำเขาน้อย สุดยอดอันซีนของกาญจนบุรี



วัดถ้ำเขาน้อย และ วัดถ้ำเสือ อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชายแดนตะวันตกของประเทศไทยที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่ามาเยือนมากจังหวัดหนึ่งของประเทศ

วัดถ้ำเสือ
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โดยอยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลอง ประมาณ 4 กิโลเมตร สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุก็คือความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี และที่ทำให้ต้องตกใจอีกอย่างคือ ความสูงของบันไดก่อนที่จะถึงด้านบนนั้นมีถึง 159 ขั้น ทำให้ทีมงานเหงื่อตกเลยทีเดียว

แต่พอดีหันไปเห็นว่ามีรถไฟฟ้าด้วย ก็เลยลงความเห็นได้ทันทีว่า ไปรถไฟฟ้าดีกว่า (ค่าบำรุงไฟฟ้าท่านละ 15 บาท รวมขาไปและกลับแล้ว) เมื่อเดินทางมาถึงด้านบนก็พบกับความสดชื่นของลมที่พัดเย็น และแรงทีเดียว มองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนา และผู้คนตัวเล็กนิดเดียว เมื่อช่างภาพประจำทีมเตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปพร้อมแล้วก็จะพาไปชมสิ่งสำคัญ ๆ กันเลย

พระพุทธรูปปางประทานพร ที่เห็นกันด้านล่างว่าใหญ่แล้ว พอขึ้นมาถึงพบว่าใหญ่มาก ๆ สมกับที่เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีจริง ๆ ตัวองค์พระสวยงามประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ หลังจากถ่ายรูปแล้ว ทีมงานก็พากันไปบูชาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้พระขอพรกัน

พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ หลายชั้น(ไม่ทันนับเพราะว่าเดินวนกันจนมึน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่คาดว่าประมาณ 7-8 ชั้น) แต่ละชั้นจะประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆมากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย และยังมีวิหารต่าง ๆ ให้เข้าไปสักการะพระพุทธรูปและชื่นชมความงดงามของจิตรกรรมฝาผนังภายใน (อย่าลืมชมให้ทั่ว) เมื่อชมจนทั่วแล้ว ก็นั่งรถไฟฟ้าลงไปข้างล่างเพื่อเข้าถ้ำเสือ

ถ้ำเสือ เป็นถ้ำขนาดเล็กอยู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง ภายในประดิษฐานพระประจำวันเกิด และจำหน่ายวัตถุมงคล สามารถแวะไปไหว้พระประจำวันเกิดได้ก่อนเดินทางต่อไปที่วัดถ้ำเขาน้อย

นอกจากนั้นขอแนะนำให้คุณไปยัง วัดถ้ำเขาน้อย โดยออกจากวัดถ้ำเสือมานิดหน่อยเท่านั้น ก็จะพบกับวัดถ้ำเขาน้อยที่ศิลปะของวัดต่างกันสิ้นเชิง วัดถ้ำเขาน้อยเป็นวัดแบบจีนที่อยู่บนเขาเช่นกัน แต่ว่าที่มีไม่มีรถไฟฟ้าให้ขึ้น และถ้าดูจากภายนอกเหมือนด้านบนจะติดกันกับวัดเขาน้อย แต่ต้องขอบอกว่า ใกล้กันจริงแต่เดินข้ามหากันไม่ได้นะ ดังนั้นถ้าจะเที่ยวแต่ละวัดต้องเริ่มจากด้านล่างเท่านั้น สิ่งที่สะดุดของวัดถ้ำเขาน้อยคง เป็นพระเจดีย์ทรงเก๋งจีนที่ตระหง่านเคียงคู่กับพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ได้อย่างสวยงาม ภายในวัดถ้ำเขาน้อยมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

พระพุทธรูปจีนแบบ ต่าง ๆ ชั้นล่างสุด พอก้าวเข้าสู่ประตูไว้ไปจะพบกับพระสังกัจจาย และเทพ 18 อรหันต์องค์สีทองตามแบบนิยมของชาวจีน หลังจากนั้นจะต้องเดินไปตามบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปด้านบน ระหว่างชั้นต่าง ๆ จะมีชั้นพัก แต่ละชั้นพักก็จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ชาวจีนเคารพนับถือ เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม และมีท้าวจตุรบาลที่คอยคุ้มครองสถานที่ หลังจากเดินตามบันได้ขึ้นเขามาจนสุด (เรียกความเหนื่อยได้พอสมควรทีเดียว) จะพบกับองค์พระเจดีย์คีรีบรมธาตุ

พระเจดีย์คีรีบรมธาตุ เป็นพระเจดีย์ทรงเก๋งจีน ภายในแบ่งเป็นหลายชั้น(ไม่นับนับอีกตามเคย) แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่ทุกชั้น เชื่อมถึงกันด้วยบันไดเวียนที่วนจนเวียนหัว ตัวองค์พระเจดีย์แต่ละชั้นเปิดประตูโล่ง ลมผ่านเข้าออกได้อย่างสบาย ดังนั้นยิ่งสูงยิ่งหนาว ลมยิ่งแรง รอบ ๆ ชั้นเชื่อมกันสามารถเดินชมทิวทัศน์ได้ทั่ว ประดับฝาผนังของเจดีย์ด้วยภาพเขียนแบบจีน และแผ่นกระเบื้องนูนรูปพระพุทธรูปแบบจีน

พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์คีรีบรมธาตุ แต่กรอบกระจกบางด้านร้าวแตก(ไม่แน่ใจว่าฝีมือคน หรือฝีมือธรรมชาติ) ที่วัดถ้ำเขาน้อยนี้แม้จะอยู่ติดกับวัดถ้ำเสือแต่แตกต่างกันขึ้นระหว่างเส้น ทางการเดินขึ้นชม มีนักท่องเที่ยวเพียงอีก 1-2 กลุ่มเท่านั้น ที่ขึ้นมาชม ทำให้เงียบสงบ พระสงฆ์ที่อยู่ที่วัดนี้ก็จะห่มจีวรแบบพระจีนเช่นกัน แม้การเดินทางจากลำบาก แต่หากชอบความเงียบสงบ และงดงามแบบจีนแล้วล่ะก็อย่าลืมแวะมาไหว้พระ และชมทิวทัศน์ที่วัดถ้ำเขาน้อย และแวะให้อาหารปลาที่สระน้ำด้านล่างด้วยนะคะ คำแนะนำ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวความสูง เพราะว่าจะทำให้ตื่นเต้นมาก และสำหรับผู้ที่มีปัญหสุขภาพ

การเดินทาง - รถยนต์จากอำเภอท่าม่วง ไปตามเส้นทางเลียบคลองชลประทาน วัดถ้ำเสือ และวัดถ้ำเขาน้อย อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลอง ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลอง แล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร คอยสังเกตป้ายบอกทาง และตัวเจดีย์

ข้อมูลโดย : UnseenKanchanaburi / www2.kru.ac.th/

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์