ภัยเปิบ เนื้อสุนัข!

ภัยเปิบ เนื้อสุนัข!


มาอีกแล้วกับข่าวการบริโภคเนื้อสุนัข น่าจะถึงเวลายอมรับความจริงกันเสียทีว่ายังมีหลายพื้นที่ของโลกโปรดปรานเนื้อสัตว์ชนิดนี้อยู่ ซึ่งเป็นทางเลือกหรือรสนิยมในการบริโภคของแต่ละท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่จะตามมาด้วยเช่นกัน

เมื่อเร็วๆ นี้มีการโพสต์คลิปบนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยนำเนื้อสุนัขมาเป็นส่วนประกอบและขายให้กับผู้บริโภคในหลายเมืองของจีน เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ

ส่วนในไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกมายืนยันว่าสำนักอาหารและสำนักด่านอาหารและยามีการตรวจสอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในท้องตลาดและที่นำเข้าอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554-เมษายน 2555 เวลานี้มีผลวิเคราะห์ 12 ตัวอย่าง จาก 21 ตัวอย่างที่นำเข้าจากจีน ไม่พบว่ามีปัญหาด้านคุณภาพ ส่วนการตรวจสอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็ยังไม่พบ หรือหากพบผู้นำเข้าหรือผลิตจะมีโทษตามกฎหมายจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

อย่างไรก็ดี หากจะห้ามไม่ให้บริโภคกันจริงๆ ต้องยอมรับว่าเป็น เรื่องยาก เพราะเนื้อสุนัขเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก เช่น จีน ที่ต้องบอกว่าเป็นสวรรค์ของนักเปิบพิสดารก็ว่าได้ โดยบริโภคกันมาตั้งแต่ 500 ปีก่อนคริสตกาลหรือนานกว่านั้น แม้จีนเคยพยายาม ร่างกฎหมายเพื่อห้ามบริโภคเนื้อสุนัขในปี 2010 แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะยังคงมีรายงานว่าเฉพาะในงานเทศกาลอาหารประจำปี 2011 ที่เมืองหยูหยิน มณฑลฉ่านซี มีการบริโภคสุนัขถึง 15,000 ตัวในเวลาเพียง 10 วัน

ส่วนประเทศอื่นๆ ที่โปรดเนื้อสุนัขเหมือนกันคือญี่ปุ่น ซึ่งมักนำเข้าเนื้อสุนัขจากจีน เกาหลีทั้งเหนือและใต้ อินโดนีเซีย เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สวิตเซอร์แลนด์ เวียดนาม ภูมิภาคโพลีนีเซีย ได้แก่ บริเวณหมู่เกาะเฟรนช์ โพลีนีเซีย เกาะตาฮิติ บริเวณรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟิก และแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้

โดยภาพรวมอาจกล่าวได้ว่า การบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดนี้ ส่วนใหญ่มีความเชื่อคล้ายกัน เช่น ช่วยคลายหนาว บำรุงร่างกาย เพิ่มพลังทางเพศ โดยเฉพาะสุนัขสีดำ ขณะที่ชาวเกาหลีใต้เชื่อว่าช่วยทำให้ผิวสวย นอกจากนี้น้ำมันของสุนัขยังถูกนำมาใช้รักษาบาดแผลอีกด้วย ส่วนในแอฟริกาเชื่อว่าเนื้อสุนัขมีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะมาลาเรีย

อย่างไรก็ตาม ในความอร่อยและความเชื่อว่ามีประโยชน์นั้น หากไม่ระมัดระวังอาจทำให้เสี่ยงได้รับเชื้อโรคอันตรายได้ เช่น เชื้อกลุ่มริกเก็ตเซีย (Rickettsia) ที่พบในสัตว์พวกเห็บ เหา หมัด โลน หรือไร ซึ่งอาศัยอยู่บนตัวสุนัข หลังจากเคยพบเชื้อกลุ่มนี้ในเลือดของชาวเวียดนามหลายราย นอกจากนี้ยังเสี่ยงได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเคยมีรายงานในจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมทั้งเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae bacterium ที่ทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษหรืออหิวาตกโรค

อย่าอร่อยจนลืมตัว


ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้วันสุข โดยสิริรัตน์ วารี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์