5 เรื่องเกี่ยวกับเกาหลีที่คุณอาจไม่รู้

5 เรื่องเกี่ยวกับเกาหลีที่คุณอาจไม่รู้


วัฒนธรรมบันเทิงจากแดนเกาหลีในบ้านเรายังไม่สิ้นมนต์ขลัง หนัง, เพลง หรือละครจากแดนกิมจิอาจจะฮิตระเบิดเถิดเทิง แต่มีอะไรอีกหลายอย่างที่แฟนๆ อาจจะมองข้าม

นิตยสาร "เล่มโปรด" ฉบับเดือน มี.ค.ค้นคว้า "5 เรื่องเกี่ยวกับเกาหลีที่คุณอาจไม่รู้" มาให้อ่านเพลินๆ

1. ชื่อประเทศ Korea มาจากชื่อโสม

โสมเกาหลีได้ชื่อว่าคุณภาพดีที่สุด มีชื่อเรียกเฉพาะว่า โสมกอริโย (Goryeoginseng) ตั้งตามชื่อราชวงศ์กอริโย (ค.ศ.918-1392) ก่อนจะกลายมาเป็นชื่อประเทศเกาหลี

มีชื่อเต็มยศว่า Republic of Korea หรือ สาธารณรัฐเกาหลีใต้

2. ความหมายของธงชาติเกาหลี
วงกลมที่อยู่กลางธงชาติเรียกว่า "หยิน" (สีน้ำเงิน) - "หยาง" (สีแดง) เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของจักรวาล สื่อถึงความแตกต่างที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน

กลุ่มเส้นขีดที่มุมทั้งสี่ของธงชาติมีความหมายแตกต่างกัน กลุ่มเส้นขีดที่มุมล่างขวาแทนโลก มุมซ้ายบนแทนสวรรค์ มุมขวาแทนน้ำ และมุมล่างซ้ายแทนไฟ สื่อถึงความแตกต่างและความสมดุล

ส่วนพื้นขาวนั้นแสดงถึงความบริสุทธิ์และจิตใจที่รักสงบของชาวเกาหลี

3. สัญลักษณ์กิมจิแท้จากเกาหลี
กิมจิเป็นอาหารเกาหลีที่เรารู้จักกันดี และในบ้านเราสามารถหาซื้อกิมจิสำเร็จรูปได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต

ถ้าเป็นกิมจิแท้จากเกาหลี ต้องสังเกตตัวสัญลักษณ์นี้ สร้างขึ้นโดยองค์กรการค้าเกษตรกรรมและการประมงประเทศเกาหลี เมื่อเดือนมิ.ย.2543 จะพบสัญลักษณ์นี้เฉพาะกิมจิที่ผลิตและใช้วัตถุดิบในประเทศเกาหลีเท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมกิมจิจากเกาหลีและให้ผู้บริโภคแยกได้ชัดเจนระหว่างกิมจิเกาหลีและกิมจิญี่ปุ่น

4. เกาหลีประเทศแรกที่มีการพิมพ์
ชาวเกาหลีประดิษฐ์แม่พิมพ์ไม้ได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ตัวพิมพ์โลหะชิ้นแรกของโลกก็ประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวเกาหลี และในศตวรรษที่ 13 ในสมัยราชวงศ์กอริโย ได้พิมพ์พระไตรปิฎกฉบับเกาหลีขึ้นด้วยแม่พิมพ์ไม้

แม่พิมพ์ไม้นี้เป็นแม่พิมพ์ไม้พระคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1995 หรือ พ.ศ.2538

5.ภาษาจีนอ่านยาก ทำให้เกิดภาษาเกาหลี
ประเทศเกาหลีประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 5 โดยพระเจ้าเซจงมหาราช แต่อ่านเขียนค่อนข้างยาก ทำให้ชาวเกาหลีอ่านหรือเขียนหนังสือได้น้อย พระเจ้าเซจงมหาราชจึงประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใหม่ มีพยัญชนะ 14 ตัว และสระ 10 ตัว ประกอบขึ้นเป็นคำที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย

ตัวอักษรชุดนี้ทำให้ชาวเกาหลีรู้หนังสือมากขึ้น และได้ชื่อว่าเป็นชนชาติหนึ่งที่รักการอ่านยิ่งในปัจจุบัน

ที่มา : เก็บเรื่องมาเล่า
ชนา ชลาศัย
นสพ.ข่าวสด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์