นอนนะเรื่องง่าย แต่แน่ใจแล้วหรือว่า คุณนอนถูกสุขลักษณะ

นอนนะเรื่องง่าย แต่แน่ใจแล้วหรือว่า คุณนอนถูกสุขลักษณะ


ปกติคนเราใช้เวลานอนหลับ 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมด แต่เพราะร่างกายของแต่ละคนต้องการระยะเวลาในการพักผ่อนแตกต่างกัน เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมบางคนนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาก็สามารถตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นแจ่มใสกระปี้กระเปร่า ขณะที่บางคนต่อให้หลับยาวนานเกิน 8 ชั่วโมง พวกเขาก็ยังรู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่มอยู่ดี ที่ถูกแล้วคนเราควรต้องนอนอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่านอนอย่างมีคุณภาพนอน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพักผ่อนที่ดีที่สุดละนี่

ข้อมูลทางการแพทย์แบ่งประเภทการนอนง่ายๆ เป็น 2 ระยะ คือ ระยะคลื่นสมองช้า ยังไงนะหรือ ก็คือช่วงที่เราสะลืมสะลือ หรือช่วงเริ่มง่วง ช่วงนี้คลื่นสมองจะเริ่มช้าลง แม้ว่าจะยังรู้สึกตัวอยู่ในลักษณะหลับๆ ตื่นๆก็ตาม หลังจากนั้นจึงค่อยๆ หลับลึก รวมถึงเริ่มมีอาการกรน กัดฟัน ก่อนจะเข้าสู่ระยะที่สองคือระยะฝัน ซึ่งเป็นระยะที่ร่างกายทุกส่วนหยุดการเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวน้อยที่สุด การฝันจะเกิดเป็นวงจร หมุนเวียนไปตั้งแต่การหลับในระดับตื่นๆ จนถึงหลับลึกและฝัน (ประมาณ 45 นาที)

จากข้อมูลทางการแพทย์ ทำให้พบว่า หากคนเราต้องการนอนให้ถูกสุขลักษณะและให้การนอนแต่ละครั้งมีผลทำให้ร่างกายสดชื่นเต็มอิ่ม สมองปลอดโปร่ง นี่คือ 7 สิ่งที่คุณต้องทำ

1. เลิกหลับกลางวัน การนอนกลางวันจำเป็นก็จริงแต่ไม่ทุกคนหรอก เพราะถ้าคุณไม่มีกิจกรรมต้องใช้กำลังกายและใจในตอนกลางวันแล้วละก็ การนอนกลางวันก็เป็นสิ่งเกินความจำเป็นได้เช่นกัน หากยังฝืนกฎข้อนี้ ร่างกายของคุณก็อาจจะไม่อยากพักผ่อนในเวลากลางคืน นั่นเป็นที่มาของความเจ็บป่วย รวมถึงต้องอาศัยยานอนหลับด้วย

2. นอนก่อนเที่ยงคืน ข้อนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนเมืองที่ติดนิสัยนอนดึกดื่นแต่ต้องตื่นเช้า แต่เชื่อเถอะคุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ป่วยได้ เริ่มที่ลองฝึกควบคุมตัวเองให้เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน เพื่อให้ร่างกายเคยชิน เมื่อนาฬิกาชีวิตถูกตั้งใหม่แล้วต่อให้นอนมากน้อยแค่ไหนเมื่อถึงเวลาตื่นคุณก็จะรู้สึกสดชื่นกว่าการตื่นนอนครั้งไหนๆ

3. ปิดไฟก่อนนอน หลายคนชอบที่จะเปิดไฟทิ้งไว้เวลานอน เพื่อความสะดวกเวลาตื่นตอนดึกดื่น นั่นเป็นวิธีที่ผิด เพราะการที่คนเราจะหลับลึกได้ ก็ต่อเมื่อร่างกายปล่อยสารเมลาโตนินออกมา เมลาโตนินถือเป็นสาร antioxidant ตัวสำคัญชนิดหนึ่ง เป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตที่ทำให้เราแก่ช้าลง และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายที่สำคัญสารเมลาโตนินที่ช่วยให้เราหลับลึกนั้น จะออกมาก็ต่อเมื่อสายตาเราอยู่ในความมืดเท่านั้น เพราะเมื่อโดนแสงร่างกายจะไม่สร้างสารเมลาโตนินได้ ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย      

4. อิ่มแต่พอดี การรู้จักประมาณในการกินสำคัญมากในทุกๆ เรื่องแหละ รวมถึงก่อนเข้านอนด้วย เพราะการเข้านอนพร้อมกับความหิวหรือท้องที่กำลังอิ่ม จะทำให้คุณหลับไม่ลง หลับยาก สิ่งที่ต้องทำก็คือ หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน หรือไม่มื้อนั้นก็ต้องหากจากเวลานอน 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

5. หันหลังให้กาแฟ หากคุณอยากดื่มกาแฟและไม่อยากมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับจำไว้ว่าควรดื่มแก้วสุดท้ายก่อนบ่าย 3 โมงของแต่ละวัน เพราะฤทธิ์คาเฟอีนในกาแฟจะทำให้คุณตาค้างยาวนานไปถึง 6 ชั่วโมง ถ้าจำเป็นต้องดื่มอะไรอุ่นๆ ก่อนนอน ลองน้ำผลไม้แค่พอรองท้อง หรือนมอุ่นๆ สักแก้วน่าจะดีที่สุด เพราะในนมมีสารทริปโตเฟนที่จะช่วยให้คุณง่วงและหลับง่ายขึ้น

6. เลิกเถอะ ดูทีวี อ่านหนังสือ รู้หรือไม่ว่าการดูทีวีหรืออ่านหนังสือก่อนนอน ทำให้สมองทำงานหนักจากการคิดใครครวญเรื่องที่รับรู้เข้ามาทางที่ดีที่สุดคือการทำจิตใจให้ว่างเปล่า ด้วยการสวดมนต์นั่งสมาธิ ปล่อยวางทุกอย่างก่อน เพื่อให้ร่างกายได้พบกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

7. ออกกำลังถูกเวลา การออกกำลังกายนอกจากจะต้องถูกที่ ยังต้องเป็นเวลาด้วย คนส่วนใหญ่มักคิดว่าออกกำลังกายก่อนนอนทำให้หลับสบาย แต่ความจริงแล้ว ร่างกายของคนเราจะอ่อนเพลียแค่ช่วงที่เสร็จสิ้นการออกกำลังกายใหม่ๆ เท่านั้น เพราะเมื่อได้นั่งพักหรืออาบน้ำหลังออกกำลังกาย คุณจะรู้สึกว่าร่างกายกำลังสดชื่นจนนอนไม่หลับ ทางที่ดีหากคิดจะออกกำลังกายตอนค่ำ จำไว้ว่าควรทำไม่เกินเวลา 16.00 น. เพราะการออกกำลังช่วงเวลานี้จะช่วยให้คืนนั้นของคุณหลับเร็วและตื่นเร็วขึ้น

รู้อย่างนี้แล้วก่อนเข้านอนครั้งต่อๆ ไปอย่าเข้านอนเพียงเพื่อให้ผ่านพ้นค่ำคืนนั้นไปอย่างไร้คุณภาพเชียวละ



ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์