ที่มาของเย็นตาโฟ

ที่มาของเย็นตาโฟ


เย็นตาโฟ เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ซอสสีแดงลงไป ทำให้น้ำก๋วยเตี๋ยวมีสีแดงอมชมพู มีรสชาติแปลกออกไปตามแต่ที่มาของซอส แต่ส่วนใหญ่แล้วทำจากเต้าหู้ยี้และซอสมะเขือเทศหรือซอสพริก และพริกป่น

นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบพิเศษกว่าก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ เช่น มีปลาหมึกแห้ง เลือดหมู แมงกะพรุน หรือบางเจ้าใช้เห็ดแทนแมงกะพรุน ปาท่องโก๋ชิ้นเล็ก ปลาหมึกกรอบ และผักนิยมใช้ ผักบุ้ง อาจจะใส่เกี๊ยวทอดกรอบ ปลาชิ้น ลูกชิ้นปลา ด้วยก็ได้

ส่วนที่ขาดไม่ได้ในเย็นตาโฟคือ "เต้าหู้" เพราะเป็นต้นตอของอาหารชนิดนี้

นพพร สุวรรณพานิช ผู้จัดทำพจนานุกรมหัวป่าก์และปลายจวัก ระบุว่า เย็นตาโฟ ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ยี่อ่องเต่าฝู่ ภาษาอังกฤษใช้ว่า brewed bean curd

ส่วนข้อมูลวิกิพีเดียระบุว่า เย็นตาโฟน่าจะมาจากภาษาจีนแคะ ว่า ย้องแท้วฟู้ Yong Tau Fu หรือ Yong Tau Foo ภาษาจีนกลางอ่านว่า เหนียงเต้าฟู่ Niang Dou Fu


คำดังกล่าวหมายถึงเต้าหู้บ่มสอดไส้หมูสับ ลักษณะเดียวกับส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวแคะ ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวจีนฮากกา หรือชาวจีนฮั่นกลุ่มหนึ่ง แต่เดิมมีบรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดบริเวณมณฑลเหอหนานและซานซี ทางตอนเหนือของจีน แต่ต่อมาอพยพลงมาทางใต้

ชาวแคะที่อาศัยอยู่นอกจีนแผ่นดินใหญ่ มีทั้งที่มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน และติมอร์ตะวันออก

ชาวจีนที่อยู่เมืองไทยส่วนใหญ่ใช้ภาษาแต้จิ๋ว เมื่อเรียกอาหารชนิดนี้ตามแบบถนัดจึงออกเสียงว่า ยี่อ่องเต่าฝู่ หรือ เยี่ยงเต่าฮู ก่อนคนไทยเรียกตามมาอีกทีจนเพี้ยนมาเป็นเย็นตาโฟ

เต้าหู้ยัดไส้ที่ชาวไทยรู้จักในชื่อ "เต้าหู้แคะ" เป็นวัตถุดิบสำคัญของ "ก๋วยเตี๋ยวแคะ" อาหารพื้นบ้านโบราณชาวฮากกาที่สืบทอดมาเป็นเวลายาวนานนับพันปีจนกลายเป็นอาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อของประเทศจีน ส่วนชาวฮากกาในมาเลเซียนิยมอาหารนี้เช่นกัน จนจดทะเบียนให้เต้าหู้แคะ หรือ ย้องแท้วฟู้ เป็นหนึ่งใน 100 รายการมรดกวัฒนธรรมอาหารของประเทศ


สำหรับเมนูก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเริ่มเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงที่สยามเปิดประเทศติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย ชาวจีนจึงนำก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินกันในเรือ โดยต้มในน้ำซุป ใส่หมู ใส่ผักและเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย ก่อนถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินนี้มาถึงไทย โดยคนไทยนิยมกินอาหารรสเข้มข้นกว่า จึงปรับเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆ จนปัจจุบันมีก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูยอดนิยมนานาชนิด รวมถึงเย็นตาโฟด้วย

รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์