ตรวจเบาหวาน ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร

ตรวจเบาหวาน ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร


การเจาะเลือดเก็บตัวอย่างในโปรแกรมตรวจสุขภาพส่วนใหญ่ มักให้ผู้ที่รับการตรวจงดอาหารก่อน 8-12 ชั่วโมง โดยผลเลือดส่วนหนึ่งจะบอกระดับน้ำตาลในเลือด ที่เป็นตัวบอกประสิทธิภาพของร่างกายในการดึงน้ำตาลในกระแสเลือดไปเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานเพื่อการดำรงชีวิต

แต่หากประสิทธิภาพในการดึงน้ำตาลไปเก็บนี้เสื่อมลง จะส่งผลให้มีน้ำตาลหลงเหลืออยู่ในเลือดเป็นจำนวนมากเกินความจำเป็น ซึ่งสุ่มเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ถ้าขืนปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าที่ควรเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้หลอดเลือดเสื่อม  ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น ไตวาย โรคหัวใจและหลอดเลือด เส้นเลือดในสมองแตก อัมพาต แผลหายยาก

อย่างไรก็ตาม การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยบอกความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ดี แต่ถ้าต้องการทราบความเสี่ยงให้เร็ว เพื่อป้องกันอย่างทันท่วงทีนั้น ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เทพ หิมะทองคำ แห่งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ บอกกับทางเดลินิวส์ออนไลน์ว่า ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร โดยไม่ต้องอดข้าวมาครึ่งค่อนวัน เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่ปรากฏจะเป็นตัวชี้ว่า ร่างกายของเราจัดการกับน้ำตาลได้ดีแค่ไหน จึงช่วยให้เห็นสัญญาณความผิดปกติได้เร็วกว่า และเพื่อป้องกันความเสี่ยงแบบไม่ต้องรอให้ป่วยเป็นเบาหวานไปแล้ว

โดยการแปลผลระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร ถ้าต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่า ปกติ เพียงแต่แนะนำให้ควบคุมอาหาร หมั่นขยับร่างกาย รักษาจิตใจปลอดโปร่ง กรณีได้ระดับ 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จัดว่า เสี่ยงเป็นเบาหวาน แนะนำพบแพทย์ เพื่อตรวจความทนทานต่อน้ำตาลอีกขั้นตอน รวมทั้งควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลจิตใจ

หากระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจหลังอาหาร เผยว่า คนๆ นั้นมีมากกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป ต้องถือว่า ป่วยเบาหวาน ต้องเริ่มทำการรักษา ร่วมกับการคุมอาหาร และไม่ละเลยการออกำลังกาย มีสภาพจิตใจที่ดี

คุณหมอเทพ ยังบอกอีกว่า หากงดอาหารก่อนตรวจเลือด อาจทำให้พลาดโอกาสรู้ทันเบาหวานไปกว่าร้อยละ 50 ซึ่งอาจหมายถึงตรวจไม่เจอความเสี่ยง และถ้าปล่อยให้โรคดำเนินไปเงียบๆ ในร่างกายโดยไม่รู้เท่าทัน การตรวจสุขภาพปีต่อไปอาจบ่งบอกว่าเป็นเบาหวานแล้ว

อยากป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากจะใส่ใจเรื่องอาหารการกินแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์