สมดุลระหว่างเนื้อสัตว์กับผัก

สมดุลระหว่างเนื้อสัตว์กับผัก


อาหารไทยแต่ไหนแต่ไรมักมีองค์ประกอบของสารอาหารหลักครบถ้วน 5 หมู่ ทั้งข้าว เนื้อสัตว์ พืชผักสวนครัวผลไม้ที่ปลูกไว้ทานเองหรือหาซื้อทานได้ง่ายตามตลาดจึงได้ชื่อว่าสำรับอาหารไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ที่หนึ่งในโลก ต่อมาเมื่ออาหารจากซีกโลกตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลต่อทางเลือกในการทานอาหารของคนไทยมากขึ้น 

การทานเนื้อสัตว์ติดมันและแป้งจึงมากขึ้นตามบางคนอาจขาดการทานผักไปทั้งสัปดาห์เลยก็มี หากทานแต่เนื้อสัตว์จนลืมทานผักก็อาจส่งผลไม่ดีต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดโรคต่างๆ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายของเสียจากการขับถ่ายได้ดีพอ
 
ด้วยเหตุนี้ การทานแต่เพียงผักและผลไม้จึงเป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพ ที่อาจจะไม่ถึงกับต้องเลิกทานเนื้อสัตว์แต่ลดปริมาณลงได้ ในขณะเดียวกันถ้านิยมทานผักกันมากขึ้น อาจไม่ถึงกับต้องทานเป็นมังสวิรัติหรืออาหารเจไปเลยทุกมื้อ เพียงแต่ในแต่ละมื้อต้องมีผักและผลไม้ที่ควรจะเป็นตัวชูโรงเสมอ ประโยชน์ของการทานผักอย่างแรกเลยก็คือเรื่องของกากใยอาหาร อันเป็นองค์ประกอบที่มีอยู่ในพืชพรรณชนิดต่างๆ ซึ่งไฟเบอร์นี้ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่าย และช่วยให้ระบบขับถ่ายสมบูรณ์ขึ้น ไม่มีของเสียตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ อันอาจเป็นต้นเหตุให้ระคายเคืองลำไส้จนเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ การทานผักให้มากไม่ได้หมายความว่าจะต้องงดทานเนื้อสัตว์ไปเลย เพียงแต่อาจจะสลับกันทาน วันนี้เนื้อหมูบ้าง พรุ่งนี้เนื้อไก่บ้าง วันนี้กุ้งหรือปลาหมึก พรุ่งนี้เป็นเนื้อปูหรือเนื้อปลา ไม่ต้องทานเนื้อสัตว์ให้ครบทุกชนิดในมื้อเดียวและค่อยๆ ลดปริมาณลงบ้างเท่านั้นเอง
 
นอกจากนี้ เมื่อลดการทานเนื้อสัตว์ลงแล้ว ควรจะทานธัญพืชให้มากๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนไม่ขาด และสำหรับผู้ที่ขาดโปรตีนไม่ได้ ก็ควรจะเน้นทานโปรตีนจากเนื้อปลา เนื่องจากมีไขมันน้อย ย่อยง่าย แถมดีต่อสมองของเราอีกด้วย  ไม่ว่าจะงดหรือลดการทานเนื้อสัตว์ด้วยเหตุใดก็ตาม ที่ว่าได้บุญ ตามกระแส อยากลดน้ำหนัก หรือต้องการดูแลสุขภาพนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงให้มากที่สุดก็คือ การทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในทุกมื้อ ถ้าจะทานเนื้อสัตว์ก็ควรทานอย่างสมดุลกับความต้องการและสภาพร่างกาย อย่าให้ขาดอย่าให้เกิน อย่าทำให้ร่างกายต้องลำบากเพราะขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วอาจไม่ได้ประโยชน์ ซ้ำยังนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บเสียอีก


ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์