ชี้ซีรีส์เกาหลีกระตุ้นค่านิยมผิวขาว

ชี้ซีรีส์เกาหลีกระตุ้นค่านิยมผิวขาว



ชี้'ซีรีส์เกาหลี'กระตุ้นค่านิยมผิวขาว จิตแพทย์ระบุซีรีส์เกาหลีมีส่วนกระตุ้นค่านิยมอยากผิวขาวของหนุ่ม-สาวไทย เชื่อเป็นค่านิยมแค่ช่วงเวลาหนึ่ง เตือนสติควรใส่ใจเรื่องความดีความสามารถมากกว่าสีผิว ขณะที่สื่อเทศตีข่าวสาวไทยคลั่งถึงจุดซ่อนเร้น


 นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานความนิยมการมีผิวขาวใสของสาวไทย โดยระบุว่าเป็นผลจากการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้สีผิวกระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศของผู้หญิง และมีความเชื่อว่าผู้ที่มีผิวกระจ่างใสโอกาสประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับมากกว่าผู้หญิงผิวคล้ำว่า การที่สาวไทยนิยมการมีผิวขาว กระจ่างใสตามจุดต่างๆของร่างกาย เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ชาย หรือเพื่อให้เกิดการยอมรับสถานภาพทางสังคมนั้น ถือเป็นเรื่องของความนิยมตามกาลสมัย เห่อเป็นยุคๆ ซึ่งบางยุคก็มีความนิยมอย่างอื่นเข้ามาแทน บ่งบอกได้ว่ากระแสเรื่องผิวขาวใสไม่ใช่เรื่องที่จะอยู่คู่สังคมไทยไปยาวนาน แต่จะอยู่เพียงช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นจะมีความนิยมอย่างอื่นเข้ามาแทนที่ เป็นเรื่องปกติของสังคม

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า การโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีผิวขาวกระจ่างใสเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นความอยากของประชาชนให้หันมานิยมผิวขาวใส ทำให้กระแสแรงมากขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบริษัทที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ภาพยนตร์หรือซีรีส์เกาหลีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกระแสนิยมผิวขาวใสด้วย อย่างไรก็ตาม การนิยมผิวขาวใสเป็นการบ้าเห่อเป็นยุคไม่นานก็จะมีค่านิยมอย่างอื่นเข้ามาแทนที่ ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจในเรื่องของผิวขาวใส ผู้ชายก็กำลังมีค่านิยมและอยากมีผิวที่ขาวใสสไตล์เกาหลีด้วยเช่นกัน

“ควรเน้นในเรื่องของการเป็นคนดีในสังคมมากกว่าเรื่องสีผิว เพราะสมัยนี้คนที่ตัวเล็กๆผิวดำหรือคล้ำก็สามารถโด่งดัง มีที่ยืนในสังคมได้ เพราะเขามีจุดขายคือความสามารถ จึงอยากให้ใส่ในเรื่องของความดีและความสามารถซึ่งคงทนและยั่งยืน มากกว่าเรื่องสีผิวที่เป็นกระแสนิยมเพียงบางช่วงในสังคมเท่านั้น”  นพ.ทวีกล่าว


ชี้ซีรีส์เกาหลีกระตุ้นค่านิยมผิวขาว


สื่อเทศตีข่าวสาวไทยคลั่งถึงจุดซ่อนเร้น

ทั้งนี้เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. เกี่ยวกับกระแสคลั่งไคล้อยากมีผิวขาวใสของผู้หญิงไทย ได้ลามไปถึงจุดซ่อนเร้น หลังมีผลิตภัณฑ์ใหม่โอ่สรรพคุณว่าช่วยให้พื้นที่ซ่อนเร้นของผู้หญิง ขาวขึ้นได้ภายใน 4 สัปดาห์ นักวิจารณ์ชี้ว่าเป็นตัวอย่างสุดขั้วสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ ได้เปลี่ยนนิยามและค่านิยมความงามในสังคมไทย จนมีการตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่ที่การคลั่งผิวขาวจะยุติลงเสียที

การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังกำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันเรื่องสีผิวในประเทศไทย ซึ่งผิวขาวใส ถูกนำมาเชื่องโยงกับสถานภาพ โอกาส และความสำเร็จในชีวิต

บรรดาผลิตภัณฑ์ที่รับประกันว่าจะช่วยให้ใบหน้า ผิวกายและรักแร้ขาว มีขายอยู่ทั่วไป ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมและยาปรับสีผิวให้กระจ่างใสก็ไปได้สวย แต่นี่เป็นครั้งแรกของการทำตลาดน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสตรีที่มีสรรพคุณเพิ่มความขาว

โฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ ซึ่งเผยแพร่ทั้งทางโทรทัศน์ เว็บไซต์และวิทยุ เป็นภาพผู้หญิงนุ่งยีนส์ฟิตๆคนหนึ่ง กวาดสายตาหาเสื้อผ้าชุดใหม่พร้อมเสียงบรรยายว่า ใครๆก้อยากดูดี แต่การสวมยีนส์ฟิตฟ อาจทำให้สีผิวหมองคล้ำได้ จากนั้นกล้องก็ซูมไปยังกางเกงตัวใหม่เป็นขาสั้นสีขาว พร้อมกับเสียงบรรยายคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าช่วยให้ผิวบริเวณนั้น กระจ่างใส

การออกผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันในอินเดีย ในปีนี้ ต้องเผชิญกับการเหยียดหยามจากนานาชาติ เพราะเนื้อหาในโฆษณามีการระบุเป็นนัยว่า บริเวณจุดซ่อนเร้นที่ขาวกระจ่างขึ้นจะช่วยดึงดูดบุรุษเพศ แต่นายหลุยส์ เซบาสเตียน โอห์ล จาก พับบลิซิส ไทยแลนด์ ผู้ทำโฆษณาชุดนี้ระบุว่า ผลวิจัยยืนยันว่า ผู้หญิงสนใจผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้

หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การมีผิวกระจ่างใส เท่ากับการอยู่ในชนชั้นสูงขึ้นไปอีกระดับ เนื่องจากเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเจ้าของผิวพรรณเช่นนั้น ไม่ได้ตรากตรำกลางแดดในทุ่งนา ภาษาไทยมีการเปรียบเทียบเชิงเหยียดๆคนผิวคล้ำ อาทิ ดำเหมือนอีกา ขณะในทุกวันนี้ ชาวนาปลูกข้าว สวมเสื้อแขนยาว กางเกงแขนยาว หมวกปีกกว้างและถุงมือ

DRAFTFCB บริษัทเบื้องหลังโฆษณาผลิตภัณฑ์เพิ่มความกระจ่างใสยี่ห้อหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่าแรงงานกลุ่มนี้ ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ในตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มความขาวทั้งผิวหน้าและผิวกายของบริษัท

นิตยสารผู้หญิงในไทย ใช้ดาราเกาหลี ญี่ปุ่น และชาวเอเชียผิวขาวใสโฆษณาผลิตภัณฑ์อวดอ้างความขาวกระจ่าง เสริมด้วยสโลแกนเพิ่มความมั่นใจ อาทิ ฉายออโรราของคุณออกมา และ รู้จักกับมหัศจรรย์แห่งผิวขาว เช่นเดียวกับสื่อโฆษณาเกือบทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคก็ใช้รูปแบบเดียวกัน และคาดว่า ธุรกิจสินค้าเพิ่มความขาวใสในภูมิภาค จะทะลุหลัก 2,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดคือ จีนกับอินเดีย

แต่กระแสคลั่งความขาวมามาพร้อมกับความเสี่ยงต่อสุขภาพ เนื่องจากสินค้าหลายชนิดมีส่วนผสมของไฮโดรควินิน และปรอท ที่อาจทำให้ผิวกระดำกระด่างถาวร หรือทำลายไต ผลิตภัณฑ์บางชนิดยังผิดกฎหมาย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์