หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ

หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ



1. บุญเพ็งหีบเหล็ก

      ฉายครั้งแรก 10 สิงหาคม 2510 ที่ศาลาเฉลิมกรุง บุญเพ็ง เป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพแบบต่อเนื่องรายแรกของประเทศไทย และเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ถูกตัดสิน ประหารชีวิตโดยการถูกบั่นศรีษะ ใน รศ. 242 ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ฉายา บุญเพ็งหีบเหล็ก 
      เนื่องจาก เขาฆาตกรรมผู้หญิงและหั่นศพใส่หีบเหล็กโยนทิ้งน้ำ เหยื่อของเขาล้วน แต่ ตกหลุมสวาทของเขา เนื่องจากเขาเป็นคนรูปร่างดี ดูสุภาพอ่อนโยน และพูดจาดี อีกทั้งเรียนทางไสยเวทย์มา ตั้งสำนักหมอผี ให้บริการดูดวง สะเดาะเคราะห์ และทำเสน่ห์ยาแฝด อยู่ บริเวณคลองบางลำพู เหยื่อ ของเขามีถึง 7 คน ก่อนที่จะถูกจับได้ 
      มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ถึง 2 ครั้งในปี 2510 และ 2523 โดยผู้กำกับ พยุง พยกุล คนเดียวกัน และมีดารานำคือ สมบัติ เมทะนี และ ปริศนา ชบาไพร นำแสดง ต่างกันตรงดารารอง โดยปี 2510 มี แมน ธีระพล และดาวยั่ว ชฏา พร วชิรปราณี แสดง และในปี 2523 มี ไพโรจน์ ใจสิงห์ และ สุพรรณี จิตต์เที่ยง, ลลิตา กระแสนิธิ ดาราใหม่ นับว่าเป็นคดีที่โหดร้ายมาก และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการประหารบุญเพ็ง ว่าไม่สามารถบั่นหัวได้ในครั้งแรก และศพของเขาก็ไม่เผาใหม้บริเวณรอยสัก ญาติเก็บกระดูกใส่เจดีย์ไว้ข้างอุ โบสถ์วัด จนช่วงหลังเจดีย์ถูกรื้อออก ปัจจุบันทางวัดภาษี จึงได้ให้ช่างปั้นรูปปั้นจำลอง ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ เมื่อ พ.ศ.2537 ตั้งไว้ในศาลเล็ก ๆ ติดกับวิหาร ซึ่งเป็นอนุสรณ์ว่า เขาเป็นนักโทษประหารคนสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2474


หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


2. ซีอุย

จากเรื่องจริงของฆาตกรโหด ซีอุย แซ่อึ้ง ที่ฆ่าเด็กและนำตับมาต้มกินในช่วงปี พ.ศ. 2497-2501 โดยมีเด็กอย่างน้อย 6 คนที่ถูกนายซีอุยสังหาร ซีอุย อาศัยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาในเมืองไทยและขึ้นฝั่งที่จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง แต่คนไทยที่นั่นนิยมเรียกเพี้ยนเป็น ซีอุย ซีอุยทำงานด้วยการรับจ้างทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป มีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอ ๆ บุคคลิกชอบเก็บตัว และนายซีอุยได้จับเด็กมาผ่าเอาตับมากินโดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้ทำการฆ่าเด็ก 3 ราย แรก ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสุดท้ายถูกจับได้หลังจากคดีฆาตรกรรมในจังหวัดระยอง ซึ่งสุดท้ายโดนจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2502 ก่อนถูกประหารซีอุยรับว่า เมื่อสมัยอยู่เมืองจีน ได้ถูกเป็นเกณฑ์เป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรก จากศพของเพื่อนทหารด้วยกัน จึงติดใจในรสชาติ เนื่องด้วยไม่มีอะไรจะกิน ศพของซีอุยถูกเก็บเพื่อนำมาตรวจสอบ โดยเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยยังคงถูกเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิพิธภัณฑ์ซีอุย" ความ โหดเหี้ยมของซีอุยนี้เอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกหยิบมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้ง ก็ได้ตอกย้ำภาพความน่ากลัวของชายจีนรูปร่างผอมเกร็ง มีมีดสั้นเป็นอาวุธ ที่ใช้กระชากวิญญาณเหยื่อที่ไม่มีทางสู้ และต้องกินหัวใจมนุษย์ทุกครั้งที่รู้สึกมีความต้องการ เคยมีการสร้างเป็นละครทีวี โดยนำครูช่าง ชลประคัล จันทร์ เรือง มาเล่นเป็นซีอุย ตอนผมเป็นเด็กๆ ก็มักจะถูกหลอกเสมอโดยผู้ใหญ่ ว่าไม่ให้ไปเล่นนอกบ้านไกลๆ ไม่งั้นซีอุยจะมาควักตับไปกิน

และ ปี 2547 นำมาสร้างอีกครั้ง โดย แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส สร้างนั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดภาพและความเข้าใจซีอุยในแบบเดิม นิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา แห่ง สยามสตูดิโอ และ บุรณี รัชไชยบุญ ผู้กำกับ ตีความอีกแบบ โดยใช้ตัวละคร นักข่าวผู้หญิงมาดำเนินเรื่อง ซีอุยภาคนี้ ถูกมองโดยได้รับความเห็นใจมากขึ้นและมีประเด็นที่บ่บอกว่าซีอุยอาจเป็นเพียง แพะรับบาป(แต่เขาฆ่าเหยื่อรายสุดท้ายจริงแต่เหยื่อรายหลังไม่รู้เพราะไม่มี หลักฐาน) เออ....ลืมไป เรื่องนี้เล่นโดย ดาราชาวจีนครับ แต่ในปัจจุบัน ความโหดร้ายจากการที่เด็กถูกกระทำและเป็นเหยื่ออาชญากรรมนั้น ยังคงดำรงอยู่ และอาจน่ากลัว กว่าเรื่องราวของซีอุยหลายเท่า เพียงแสังคมชินชา กับความโหดร้ายดังกล่าวเสียแล้ว

หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ



3. นวลฉวี

เดือนกันยายน 2502 กลุ่มชายฉกรรณ์กลุ่มหนึ่ง ได้สังหาร นวลฉวี ตามคำว่าจ้าง แล้วนำศพมาทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานนทบุรี อีก สองวันต่อมา มีคนพายเรือมาพบศพ และพบร่องรอยฆาตกรรมอย่างทารุณ บนนิ้วพบแหวน มีตัวอักษร ราชเดช และนำไปสู่การสอบปากคำ หมออุทิศ ราชเดช และนำไปสู่การจับกุมตัวในที่สุด เรื่องนี้เป็นข่าวดังในยุคนั้น เนื่องจากคนที่จ้างวานเป็นถึงนายแพทย์ และเป็นสามีของผู้ตาย จนมีผู้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และ ละครทีวีหลายครั้ง รวม ถึงสะพานที่พบศพนวลฉวี ชาว บ้านก็เรียกชื่อตามนวลฉวีด้วยครับ ปี 2527 สินจัย หงษ์ไทย รับบทนวลฉวี พยาบาลสาวที่มีรักแท้ โดยมี อภิชาติ หาลำเจียก นักแสดงหนุ่มในยุคนั้น ก่อนที่จะมาเอาดีทางการเมือง รับบทหมออุทิศ เรื่อง นี้ ทำให้ สินจัย ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองดารานำหญิง ด้วยครับ ไอทีวี เคยนำมาสร้างเป็นละคร โดยใหม่เจริญปุระ กับ อำพน ลำพูน รับบทนำ ถือได้ว่าเป็นละครมีคุณภาพมากๆ ครับ ผมดูแล้วสนุกมาก


หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


4. คืนบาปพรหมพิราม
 “เรียงคิว 30 คน ฆาตกรสารภาพเผยนาทีฆ่าโหดสาวให้ม้าเหล็กขยี้(พาดหัวข่าวหน้า1นสพ.ไทยรัฐ .29ส.ค.2520) ,เผยสาวหัวขาดคดีข่มขืนโหดผัวยืนยัน30คนเถื่อนโทรมเมียตาย , รองนายกระบุข่มขืนสาวให้รถไฟทับโหด ร้ายทารุณไม่พ้นม.21แน่, สั่งย้ายที่คุมขัง 8 มนุษย์บ้ากามพบแผนแหกโรงพักหนีคดีข่ม ขืนโหด” ถ้อยคำเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของ ข้อความพาดหัวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงกันยายนในปี พ.ศ.2520 เป็นข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน กับที่ขวัญใจชาวไทยไอ้แสบ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์นักมวยขวัญใจชาวไทยเพิ่งขึ้นชกชนะนักมวยชาวต่างชาติ ซึ่งคดีนี้ไม่เพียงสร้างความอัปยศให้กับพี่น้องชาวพรหมพิราม จ.พิษณุโลก หากแต่ยังบันทึกสถิตว่าเป็นคดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่รุมข่มขืน กระทำชำเราหญิงสาวต่างถิ่นด้วยความไร้จิตสำนึก ปราศจากมนุษยธรรม (ดังมากถึงขนาด สหประชาชาติจัดเสวนาว่าด้วยเรื่องสิทธิสตรีขึ้นเป็นพิเศษกันเลยที่เดียว ครับโดยเอาคดีนี้มาพูดต่อหน้าให้คนทั่วโลกได้ฟังกัน ภูมิใจไหม? คดีไทยดังระดับโลก??) คืนบาปพรหมพิรามสร้างจากคดีสะเทือน ขวัญ ปี 2520 ที่ อ. พรหมพิราม จ. พิษณุโลก โดยเรื่องของเรื่องก็มีว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อจริงแกชื่อนางสำเนียง พุ่มหมอก เป็นคนอำเภอบ้านดารา ซึ่งอยู่ทางเหนือขึ้นไปจากอำเภอพรหมพิราม เธอได้หายจากบ้านไปตั้งแต่ปี ๑๙ แต่อยู่ๆ ในปีถัดมา ก็มาโต๋เต๋อยู่ที่สถานีรถไฟพรหมพิรามในตอนกลางคืน ไปยังไงมายังไงไม่มีใครรู้ เท่าที่ฝ่ายค้นเรื่องเขาสืบค้นบอกว่า เธอเป็นคนเอ๋อ จะว่าเต็มก็ไม่ใช่ จะว่าปัญญาอ่อนก็ไม่เชิง ตอนนั้นไม่มีใครรู้หัวนอนปลายตีน ว่าเป็นใครมาจากไหนถึงได้มาโดนรถไฟทับตัวขาดกระเด็นสามท่อน ทุกคนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ นี่เรื่องจริงนะ คดีถูกปิดแฟ้มไปเรียบร้อย แต่มีนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่งไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุและเริ่มเขียนขุดคุ้ย ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เรื่องดังขึ้นมาเมื่อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐตีข่าวไปทั่วประเทศ กรมตำรวจจึงรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เอาไปเอามาเรื่องมันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องฆาตกรรมอำพราง ตำรวจทำงานอย่างหนักพบว่านางสำเนียงคนนี้ถูกข่มขืนกระทำชำเรา โดยพวกผู้ชายในอำเภอนี้มากกว่ายี่สิบคนเป็นฝูงใหญ่เลยว่างั้น จนผู้หญิงตาย แล้วเกิดกลัวความผิดจึงเอาศพไปวางให้รถไฟทับเป็นการอำพราง และคดีถึงที่สุดพวกกระทำผิดทั้งหมด ถูกจับกุม เขาว่าเกือบทั้งอำเภอ แน่นโรงพักไปหมด และหลายคนติดคุกชดใช้กรรมชั่วกันไป บางคนเพิ่งจะพ้นโทษเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง บางคนตายไปแล้วก็มี เรื่องนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2546 กำกับโดยมานพ อุดมเดช แสดงโดย พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ แสดงเป็นหญิงสาวผู้โชคร้าย และ สมภพ เบญจาธิกุล รับบทนายตำรวจ หนังเรื่องนี้ ฮือฮาพอสมควร เมื่อเข้าฉายครับ ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องไป จาก คนบาป พรหมพิราม เป็น คืนบาป พรหมพิราม ในที่ สุด นอกจากนั้น ยังเป็นเหตุให้ ภาพยนตร์ถ่ายทำที่จังหวัดอุทัยธานี แทนจ.พิษณุโลก เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นหากถ่ายทำในสถานที่จริง



หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


 5. เชอรี่แอน

จากคดีฆาตกรรม เด็กสาวลูกครึ่ง อายุ16 ปี เชอรี่แอน เมื่อปี 2529 และกลายเป็นคดี แพะประวัติศาสตร์ ของวงการยุติธรรมไทย นำสูการเปลี่ยนแปลงในการรับฟังพยานบุคคลในศาล ในปัจจุบัน และ การที่กระบวนการยุติธรรมต้องชดเชยในกรณีตัดสินผิดพลาดแก่เหยื่อ ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อปี 2544 กำกับโดย จรูญ วรรธนะสิน แสดงโดย รุ่งนภา บรู๊ค รับบท เชอรี่แอน และ ชฎาพร รัตนากร รับบท ทนายสาว เป็นเรื่องของ รัก 4 เส้า ชาย 1 หญิง 3 ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน ยิ่งกว่านวนิยายจน.....ความรัก ความหึงหวง ความอิจฉาริษยา ความโลภ นำไปสู่โศกนาฏกรรมการตาย ของ เชอรี่แอน โดยพบศพเธอที่ป่าแสมริมถนนสุขุมวิทเก่า ใกล้บางปู และมีการจับกุมนาย วิชัย ชนะพานิชย์ นักธุรกิจ พร้อมบริวาร ในฐานะผู้ต้องหาจ้างฆ่า แต่นายวิชัยรอดพ้นข้อหาได้อย่างหวุดหวิด แต่บริวาร 4 คนของเขา ก็ถูกสร้างพยานเท็จหลักฐานปลอม จนถูกศาลขั้นต้นสั่งประหารชีวิต แพะทั้งหมดต้องถูกจองจำ เผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายในคุกไม่น้อยกว่า 6 ปี กว่ากระบวนการศาลอุทธรณ์และศาลฏีกา ภายใต้การรื้อฟื้นคดีของกองปราบ จะพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 4 คน เป็นคนผู้บริสุทธิ์ แต่เขาทั้ง 4 ล้วนพบกับสภาพครอบครัวแตกสลาย หนึ่งคนตายในคุก สองคนออกมาเสียชีวิตหลังพ้นจากเรือนจำไม่นาน เหลืออีกหนึ่งเดียว ต้องอยู่อย่างพิการไปชั่วชีวิต เป็นผลจากระบบการสืบสวนผู้ต้องหา ของตำรวจเลวเพื่อเค้นให้รับสภาพ และในที่สุดก็นำไปสู่การ สืบหา ติดตาม ไล่ล่า และ จับฆาตกรตัวจริง นายสมัคร ธูปบูชาการและนายสมพงษ์ บุญญฤิทธิ์ และผู้จ้างวาน นส.สุวิมล พงษ์พัฒน์ มาลงโทษจนสำเร็จ

 


หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


6. ฆ่าโปกปูน หนัง(แต่เป็นหนังแผ่น)
เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงเช่น กัน ฆาตกรชื่อ เกียรติศักดิ์ พูลสวัสดิ์ เป็นถึงครูดีเด่น ปี 2532 แต่เดือดร้อนเรื่องการเงินจนสวมวิญญาณมัจจุราชฆ่าลูก ศิษย์วัยเพียง 12 ปี ชื่อ ทัศนีย์ แสงรัตนทองคำ ก่อนจะนำมายัดโลงไม้แล้วโบกปูนทับนำไปทิ้งน้ำ ทั้งๆ ที่เขาสนิทกับครอบครัวของเหยื่อนั้นยิ่งกว่าญาติสนิท และผลสุดท้ายถูกจับ ศาลลดจากการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน

หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


7. ฆ่ายัดกล่อง

2508 กำกับโดย อัจฉราพันธ์ นำแสดงโดยปริม ประภาพร, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, เมืองเริง ปัทมินทร์

คดีฆ่ายัดกล่องแล้วส่งศพมาทางรถไฟ เป็นคดีจริงที่เกิดขึ้นในปี 2508 ปีเดียวที่สร้างหนังว่างั้น โดยคดีนี้เกิดขึ้น พ.ต.ท. อนุ เนินหาด (ตอนนี้เป็น พ.ต.อ.) ถือว่าสะเทือนขวัญมาก โดยฆาตกรคือ จรินทร์ สิทธิธรรม ฉายา “กระทิงแดง ศิษย์พระกาฬ” ส่วนผู้ตายคือเด็กชาย กิมบั๊ก แซ่อึ้ง อายุ 15 ปี ไม่รู้ไปโกรธเกลียดอะไร เขาไปฆ่าเด็กนั้นแล้วยัดกล่องกระทิงแดงไปทิ้งรถไฟสายเหนือกรุงเทพ เชียงใหม่ สาเหตุเพราะเรียกค่าไถ่ไม่สำเร็จ แต่เมื่อถูกจับได้ก็รับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน ทำให้ศาลลดจากการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน


หนังไทยเรื่องจริง จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ


8. ศยามล

เรื่องเกิดที่หัวหิน ปี 2536 เป็นเรื่องที่น่าตกใจเมื่อพบศพศยามล ครั้งแรก โดยพระภิกษุที่เดินบิณบาตร เพราะพบว่ามีเด็กหญิงนั่งร้องให้อยู่ข้างๆศพแม่ แสดงให้เห็นว่า ฆาตรกรฆ่าศยามล ต่อหน้าลูกน้อยเลยครับ คดี นี้จึงเป็นที่สนใจมาก เรื่องนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2538 กำกับโดย อภิชาติ หาลำเจียก จอนนี่ แอนโฟเน่ แสดงเป็น นายแพทย์บัณฑิต ผู้จ้างวานฆ่าภรรยาตัวเอง นางศยามล ลาภก่อเกียรติ ต่อหน้าลูกสาว วัย 2 ขวบ ช่วง นั้นก็เป็นที่วิจารณ์เหมือนกัน มาหยิบยกมาทำหนังเร็วเกินไปรึเปล่า เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และเพิ่งเกิดเรื่องได้ไม่นาน ครอบครัวของผู้เกี่ยวข้องอาจได้รับผลกระทบไปด้วย


 จะเห็นได้ว่าคดีที่มีนายแพทย์ เป็น ฆาตกร มักจะได้รับความสนใจ เนื่องจาก แพทย์ ถือว่าเป็นบุคคลที่สังคมให้ความเคารพอย่างสูง แต่ในทุกหมู่คน ก็มักมีคนไม่ดีปนมาด้วยเสมอ มีคดี นายเสริม สาครราษฎร์ อีกคดีหนึ่งที่นำมาสร้างเป็น หนังแผ่น แต่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้  แต่จะให้ดี ไม่มีคดีสะเทือนขวัญมาให้เป็นข้อมูลสร้างหนัง น่าจะดีกว่าขอให้มันเป็นแค่เพียงนวนิยาย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์