อดบ้างในเทศกาลกินเจช่วยสุขภาพดี

อดบ้างในเทศกาลกินเจช่วยสุขภาพดี


นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ สนับสนุนคนไทยในเทศกาลกินเจ ละลดบริโภคเนื้อสัตว์อย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้สุขภาพและให้ได้บุญอย่างแท้จริง โดยกล่าวว่า อาหารเจเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและเพื่อบุญแห่งชีวิต โดยการรับประทานเจจะทำให้ได้อานิสงส์หลักๆ 

คือ ล้างพิษจากเนื้อสัตว์ ร่างกายได้วิตามินและแร่ธาตุ จิตใจรู้สึกสบาย หลักการกินผัก ผลไม้ ถั่วและเต้าหู้นี้เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ที่เหนือกว่านั้นคือการกินแบบพร่องกว่าเก่า คือ กินบ้างอดบ้าง ให้หิวบ้าง จะช่วยสร้างสุขภาพได้ดีกว่า ช่วยยืดให้อายุยืนขึ้นด้วย เป็นไปตามหลักเวชศาสตร์ต้านชราอายุรวัฒน์
    

สำหรับการการกินเจให้สุขภาพดี ไม่อ้วน ไม่ป่วย ควรปฏิบัติดังนี้ คือ 

1.นมถั่วเหลืองดับหิว น้ำเต้าหู้และนมถั่วเหลืองช่วยให้พลังงานแบบไร้ไขมันมาก ดื่มแล้วสดชื่น อยู่ท้อง โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ท้องหิวและหลังจากมื้อเจที่มักทำให้หิวง่ายเพราะแป้งมาก ให้ดื่มนมถั่วเหลืองแทนจะไม่อ้วน 

2.เน้นถั่วเป็นหลัก หรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว โดยเฉพาะเต้าหู้แข็งจะเป็นเต้าหู้ขาวหรือเหลืองก็ได้ เพราะมีแคลเซียมเป็นแร่ธาตุบำรุงกระดูกที่สำคัญ 

3.หนักผักไร้แป้ง อาทิ จับฉ่าย กะหล่ำปลี ผักโสภณ ผักเสฉวน กาน่าฉ่ายและผักดองจีนแบบอื่นๆ ส่วนผักและพืชที่ควรเลี่ยงคือ เผือก มันเทศ มะม่วงสุก ทุเรียน และผักผลไม้กระป๋อง
    
4.แบ่งน้ำมันดี เทคนิคการสลับชนิดน้ำมันใช้ เช่น วันนี้ใช้น้ำมันถั่วเหลือง วันถัดมาก็อาจใช้น้ำมันรำข้าว แล้วก็สลับไปเป็นน้ำมันดอกคำฝอย เมล็ดชา เมล็ดทานตะวัน อย่ารับประทานแบบแช่น้ำมันทุกวัน เน้นที่ไม่ควรบริโภคน้ำมันเกินวันละ 4 ช้อนโต๊ะ 

5.มีวิตามินเสริม วิตามินที่มาเป็นผู้ช่วยของนักกินเจช่วงนี้มีวิตามินบี 12 วิตามินดี วิตามินซี สังกะสีและโคคิวเท็น  

6.นอนให้พอ ผู้ทานเจจะสุขภาพดีได้ต้องดูแลเรื่องการอยู่ด้วยนอกจากเรื่องกิน โดยเฉพาะการนอน เพราะร่างกายที่ไม่ได้เจอกับโปรตีนเนื้อสัตว์อาจเพลียง่ายในช่วงแรกจากการขาดพลังงานเลือดและเนื้อ การนอนให้พอจะช่วยสร้างเคมีเพิ่มพลังขึ้นมาชดเชยได้
    
คุณหมอย้ำว่า หากร่างกายไม่แข็งแรงหรือเจ็บป่วยไม่สบายช่วงเทศกาลเจ ขอให้ประเมินตัวเองให้ดีก่อน ถ้าทานไม่ไหวก็ขอให้อย่าฝืน เพราะถึงอย่างไรสุขภาพย่อมสำคัญเป็นอันดับต้น ให้เทคนิคไว้ว่าถ้าไม่สบายให้รับประทานน้อยลงแล้วจะช่วยให้ร่างกายเบาขึ้น อาการของโรคจะหายเร็ว
    
สำหรับท่านที่มีโรคประจำตัวยอดฮิตอย่างเบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจและไขมันนั้น การรับประทานเจจะต้องจับตาเรื่องแป้ง น้ำตาล น้ำมัน และความเค็มมากสักหน่อย ถ้าไม่แน่ใจขอให้หลักง่ายๆ ไว้ว่า เน้นอาหารผัก รับประทานผักชนิดที่ออกเป็นหัว เช่น หัวผักกาด รวมถึงธัญพืช เช่น ถั่วลิสง, รำข้าวโอ๊ตและงาดำ หนักที่การต้ม เช่น ต้มกะหล่ำปลี จับฉ่าย พะโล้เห็ดหอม ส่วนเรื่องผัดทอดและย่างให้ลดลง ผสมเต้าหู้ เต้าหู้ช่วยลดความดันโลหิตได้โดยไม่ทำให้น้ำตาลขึ้น ให้รับประทานแบบไม่ทอดน้ำมันจะดี โดยไม่ต้องเติมเครื่องปรุง โดยเฉพาะเค็ม แม้จากซีอิ๊วหรือกะปิเจก็ต้องระวังในท่านที่เป็นความดัน.


ขอบคุณ : ไทยโพสต์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์