อย่าให้เด็กไทยหายไปกับ สายน้ำคืนลอยกระทง

อย่าให้เด็กไทยหายไปกับ สายน้ำคืนลอยกระทง


“วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองเต็มตลิ่ง...”
 
เสียงเพลงลอยกระทงสุดคุ้นหู ได้ยินกันทุกปีในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง นอกจากความสนุกสนานรื่นเริงแล้วทราบกันหรือไม่ว่าช่วงเวลาดังกล่าว กลับเป็นวันที่คร่าชีวิตเด็กมากที่สุดในรอบปี โดยเฉลี่ยปีละ 13 คน ในช่วง 2 วันอันตรายของเทศกาลแห่งสายน้ำ


รายงานพิเศษของจดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ

เดือนพฤศจิกายนนี้ ผศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รพ.รามาธิบดี บอกว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กอันดับหนึ่งมากกว่าโรคอื่น ประมาณ 1,400-1,500 คนต่อปี โดยเฉพาะ 4-5 ปีหลังมานี้จำนวนไม่ลดลง เลย เฉลี่ยทั้งปีมีเด็กตายจากการจมน้ำวันละ 4 คน


เฉพาะเทศกาลลอย กระทงและหลังวันลอย กระทง 1 วันมีมากถึง 13 คน
สาเหตุมาจากเด็กลงไปเก็บกระทงหรือตั้งใจไปเก็บเงินในกระทง หรืออาจจมใน คืนลอยกระทง แล้วเพิ่งเจอศพก็เป็นได้


ถ้าไม่อยากให้เกิดเรื่องเศร้าหลัง วันลอยกระทงผู้ใหญ่ทั้งหลายควรเป็นหูเป็นตาระแวดระวัง อย่าให้เด็กลงเล่นน้ำห่างสายตาเป็นอันขาด แต่ถ้าเกิดเหตุเด็กจมน้ำขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องปฐมพยาบาลโดยไว


ในกรณีที่เด็กรู้สึกตัว
หายใจได้เอง เพียงแค่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งให้เด็ก เช็ดตัวและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบอาการ


ในกรณีที่เด็กไม่ หายใจและหัวใจไม่เต้นหรือไม่รู้สึกตัว
ให้เปิดทางเดินหายใจโดยให้เด็กนอนราบกดหน้าผากลงและเชยคางขึ้นเบาๆ ตรวจการหายใจในเวลา 3-5 วินาที โดยมอง หน้าอกหรือท้องว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ ฟังดูว่ามีเสียงหายใจหรือไม่ สัมผัสโดยแนบใบหน้าไปใกล้จมูกและปากของเด็ก เพื่อสัมผัสลมหายใจ

ถ้าเด็กไม่หายใจแต่มีชีพจร
ให้ เป่าปากต่อเพียงอย่างเดียว โดยทำ 20 ครั้งต่อนาที หรือเป่าปาก 1 ครั้ง ต่อ 3 วินาที หลังจากนั้นให้เรียกผู้ อยู่ข้างเคียงมาช่วยเหลือ และให้ ผู้ช่วยโทร.ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ 1669 ต่อไป ก็นำเอาวิธีปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำมาฝากกันไว้ เพื่อความปลอดภัยแก่เด็กๆของเรา.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์