10 เหตุการณ์สำคัญ แห่งวงการกีฬาโลกปี 2012

10 เหตุการณ์สำคัญ แห่งวงการกีฬาโลกปี 2012


ขณะที่กำลังเฝ้าลุ้นว่า "นิตยสารไทม์" จะยกใครให้เป็นบุคคลแห่งปี 2012 อย่างใจจดใจจ่อบนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนิตยสารหัวอเมริกันชื่อดัง ว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ หลังจากเมื่อ

ปีก่อนได้ยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ "มวลชน" ไปอย่างเหนือคาด สายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีการรวบรวม "10 เหตุการณ์สำคัญที่น่าจดจำในวงการกีฬาทั่วโลกของปี 2012" เอาไว้อย่างน่าสนใจ ดีไลฟ์ จึงหยิบยก 10 เรื่องราวดังกล่าวมานำเสนอให้ได้รับทราบ 

เหตุการณ์แรก ได้แก่ "สามโฮมรันของกังฟูแพนด้า" 

การแข่งขันเบสบอลรายการ "เวิลด์ ซีรีส์ แชมเปี้ยน 2012" รอบชิงชนะเลิศเกมแรก ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง "ดีทรอยต์ ไทเกอร์ส" แชมป์อเมริกันลีก และ "ซานฟรานซิสโก ไจแอนต์ส" แชมป์เนชั่นแนลลีก

เกมนี้ "พาโบล ซานโดวัล" ผู้มีรูปร่างอวบอ้วนเทอะทะจนได้ฉายา "กังฟูแพนด้า" โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการหวด 3 โฮมรัน ก่อนที่จะจบการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดแรกด้วยชัยชนะของแชมป์เนชั่นแนลลีกในสกอร์ 8-3 กลายเป็นบันไดให้ซานฟรานซิสโก ไจแอนต์ส คว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ แชมเปี้ยนเป็นสมัยที่ 7 และเป็นแชมป์ 2 สมัยในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ผลงานการหวดโฮมรันของกังฟูแพนด้า-พาโบล ซานโดวัล ยังส่งให้เขาขึ้นไปยืนร่วมทำเนียบนักเบสบอลที่สามารถตี 3 โฮมรันใน 1 การแข่งขันของเวิลด์ ซีรีส์ แชมเปี้ยน 

ต่อมาคือ "วันช็อกลุงแซมแห่งเดือนมีนาคม" ที่เกิดขึ้นมาจากการแข่งขันบาสเกตบอลชายระดับมหาวิทยาลัยภายในสหรัฐอเมริกาชื่อดังรายการ "เอ็นซีเอเอ" อันเป็นการแข่งขันบาสเกตบอลเบอร์สองที่มีคนติดตามมากที่สุดรองจาก "เอ็นบีเอ" 

เพราะการแข่งขันรอบแรกของปีนี้ได้เกิดเหตุการณ์ "ล้มยักษ์" ขึ้นเป็น 2 ครั้งซ้อนในรอบ 11 ปี เมื่อวันที่ 16 มีนาคม เมื่อทีมไก่กานอกสายตาอันดับ 15 อย่าง "นอร์ฟอล์ก สเตต" สามารถเขี่ยทีมชั้นนำอันดับ 2 เช่น "มิสซูรี" ตกรอบสายตะวันตกไปด้วยสกอร์ 86-84 ถัดมาอีกหนึ่งชั่วโมงก็เป็นคราวของ "ดุ๊ก" ทีมบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำลำดับที่ 2 ของสายใต้ที่มี "ไมค์ เคอร์ซีย์ซิวสกี้" โค้ชชื่อดังเป็นผู้ดูแล ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับ "ลีไฮ" ทีมลำดับ 15 ของสายไปด้วยสกอร์ 75-70 ทำให้สาวกบาสเกตบอลทั่วอเมริกายกให้วันที่ 16 มีนาคมเป็นวันสุดช็อกในวงการแม่นห่วงลุงแซมแห่งปีกันเลยทีเดียว

"ความยิ่งใหญ่แห่งยุคปัจจุบันของทีมลูกหนังสเปน" เพราะนับตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอล "ยูโร 2008" จนถึง "ฟุตบอลโลก 2010" และ "ยูโร 2012" ดูเหมือนว่าในระดับทีมชาติจะไม่สามารถหาทีมใดที่จะมาโค่นล้มและแย่งถ้วยแชมป์ไปจาก "ทีมชาติสเปน" ที่ผงาดง้ำค้ำโลกด้วยสไตล์การเล่นบนพื้นที่สวยงาม

แม้ในรายการล่าสุดในยูโร 2012 ฟอร์มโดยรวมของทัพกระทิงดุจะไม่อยู่กับรูปกับรอยเหมือนการแข่งขันก่อนหน้าที่ผ่านมา จนเกือบกระเด็นตกรอบไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่สุดท้ายกลับสามารถประคองตัวเข้ารอบมาชิงกับ "ทีมชาติอิตาลี" ที่เคยเสมอกันมา 1-1 ได้สำเร็จ ก่อนที่จะคืนฟอร์มเก่งไล่ถลุงทัพอัซซูรี่จนเละ 4-0 คว้าแชมป์เจ้ายุโรปเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้อย่างยิ่งใหญ่

"ความสำเร็จระดับ 100 ของซาชิน เทนดุลการ์" นักคริกเกต ชาวอินเดียผู้ยิ่งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน

ดินแดนภารตะ อีกทั้งยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก จากผลงานการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักคริกเกตคนแรกของอินเดียที่สามารถทำได้ 100 คะแนน บนสนามแข่งขันระดับนานาชาติครบ 100 นัด ในเกมระหว่างอินเดียกับบังกลาเทศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

แม้ว่าเกมดังกล่าวอินเดียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อประเทศเพื่อนบ้านไปอย่างน่าเจ็บใจ แต่แฟนคริกเกตจำนวนกว่า 1,200 ล้านคนกลับไม่เสียใจอย่างที่คิด แถมยังออกมาฉลองให้กับความสำเร็จหลักร้อยระดับโลกของเทนดุลการ์กันอย่างคึกคัก ประหนึ่งได้แชมป์มาครอบครอง

"76 ปีที่รอคอยของวงการเทนนิสเมืองผู้ดี" หลัง "แอนดี้ เมอร์เรย์" ยอดนักหวดลูกสักหลาดชาวอังกฤษมือวางอันดับ 3 ของโลก ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 54 นาทีหวดเอาชนะ "โนวัก ยอโควิช" ในรอบชิงชนะเลิศเทนนิส "ยูเอส โอเพ่น 2012" ไปได้อย่างหืดจับ 3-2 เซต (7-6 (12-10), 7-5, 2-6, 3-6, 6-2) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ความฝันของชาวอังกฤษที่จะเห็นคนบ้านเดียวกันครองแชมป์เทนนิสระดับแกรนด์สแลมก็เป็นจริงอีกครั้ง นับตั้งแต่หมดยุคของ "เฟรด เพอร์รี่" เมื่อ 76 ปีก่อนทำให้วงการเทนนิสเมืองผู้ดีได้ลืมตาอ้าปากกันอีกครั้งด้วยแชมป์ยูเอส โอเพ่น และเหรียญทองโอลิมปิก 2012 แถมยังเหมือนกับเป็นการสร้างความหวังว่าในอนาคตจะมีนักเทนนิสชาวอังกฤษคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้อย่างต่อเนื่องในปีหน้า

ปิดท้ายด้วย "มหากาพย์ไรเดอร์คัพ และการกลับมาของทีมยุโรป" ในการแข่งขันกอล์ฟระหว่าง "ทีมยุโรป" และ "ทีมอเมริกา" ภายใต้ชื่อ "ไรเดอร์คัพ" ได้เกิดปรากฏการณ์ฟื้นชีพอย่างมหัศจรรย์ของทัพยุโรปอีกหนึ่งหน หลังถูกพลพรรคมะกันออกนำในช่วงแรกด้วยสกอร์ 10-6 ซึ่งนับว่าเป็นความห่างที่เหนื่อยมากสำหรับผู้ตาม 

แต่ด้วยแรงกระตุ้นสุดแรงของ "โจเซ่ มาเรีย โอลาซาบาล" กัปตันทีมยุโรป ได้ช่วยปลุกลูกฮึดให้กับลูกทีมในช่วงท้ายของการแข่งขัน จนไล่แซงเอาชนะไปได้อย่างฉิวเฉียดด้วยสกอร์ 14.5-13.5 คว้าแชมป์ไรเดอร์คัพสมัยที่ 5 ในรอบ 6 ครั้งของการแข่งขันไปครองอย่างยิ่งใหญ่

"ทัชดาวน์เจ้าปัญหาของซีแอตเติล ซีฮอว์กส์" ในศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล นัดมันเดย์ไนต์ เมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน ทำให้ "กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส" แพ้ไปด้วยสกอร์ 14-12 คะแนน

จังหวะทัชดาวน์เจ้าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงการเล่นสุดท้ายของเกม เมื่อ "รัสเซลล์ วิลสัน" ควอร์เตอร์แบ็กตัวเก่งของซีฮอว์กส์ ขว้างบอมบ์ไกลระยะ 41 หลาให้ "โกลเด้น เทต" เบียดแย่งกับผู้เล่นกรีนเบย์อย่างชุลมุน พร้อมกับคำตัดสินให้ทัชดาวน์อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 

สำหรับศึกเอ็นเอฟแอลกำลังมีปัญหา เมื่อบรรดาผู้ตัดสินหลักที่ทำหน้าที่อยู่เป็นประจำรวมตัวกันประท้วงไม่ลงตัดสิน เพราะไม่พอใจเรื่องค่าจ้างและผู้ตัดสินใหม่ ทำให้ต้องใช้ผู้ตัดสินสำรองลงทำหน้าที่แทน เมื่อเกิดปัญหาเหมือนในเกมนี้ ทำให้ทางลีกต้องถูกวิจารณ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก

"ปรากฏการณ์หลินซานิตี้" อันมีที่มาจากการแจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่ในศึกเอ็นบีเอของ "เจเรมี่ หลิน" อดีตพอยต์การ์ดดาวรุ่งของทีม "นิวยอร์ก นิกส์" ที่โชว์ฟอร์มได้อย่าง

ยอดเยี่ยมในการเดบิวต์ตัวเองในวงการยัดห่วงอาชีพอเมริกา จนสร้างปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ในตัวของนักบาสเกตบอลเอเชีย-อเมริการายนี้ไปทั่วโลก แถมยังได้รับเกียรติให้ขึ้นปกนิตยสารไทม์อีกด้วย

ตอนนี้หลินได้ตัดสินใจย้ายสำมะโนครัวจากนิวยอร์ก นิกส์ ไปอยู่กับ "ฮุสตัน ร็อกเกต" เรียบร้อยแล้ว ด้วยสัญญา 3 ปี รับค่าเหนื่อย 25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 750 ล้านบาท) 

"วิบากกรรมเซ็กซ์ฉาวของเจอร์รี่ แซนดัสกี้" อดีตโค้ชอเมริกันฟุตบอลของทีมมหาวิทยาลัยเพนน์ สเตต ที่ถูกจับด้วยข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหนุ่มมานานถึง 15 ปีเต็ม จนกลายเป็นเรื่องราวโด่งดังและถูกพูดถึงไปทั่วสหรัฐอเมริกาในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากแซนดัสกี้นับว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องนับถือจากผลงานการทำทีมมาตลอดหลายสิบปี

สำหรับผลการตัดสินของศาลอดีตโค้ชอเมริกันฟุตบอลวัย 67 ปีรายนี้ ปรากฏว่ามีความผิดถึง 45 กระทง พร้อมโดนปรับเป็นอีก 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านบาท)

ที่จะขาดไม่ได้คือ "การริบ 7 แชมป์ ตูร์ เดอ ฟรองก์ ของแลนซ์ อาร์มสตรอง" หลังจาก "สมาคมจักรยานสากล (ยูซีไอ)" ประกาศยอมรับผลการสอบสวนจาก "องค์กรเพื่อการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแห่งสหรัฐ (ยูซาดา)" ที่กล่าวหาว่าอาร์มสตรองและลูกทีมใช้สารกระตุ้นระหว่างการแข่งขันจริง

โดย "แพต แมคเควต" ประธานยูซีไอ เผยว่า แลนซ์ อาร์มสตรอง จะไม่มีที่ทางใด ๆ ในการแข่งขันจักรยานอีกต่อไป และเขาสมควรเป็นคนที่ถูกลืม พร้อมเสริมว่า เขาจะถูกริบผลการแข่งขันทั้งหมด นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 1998 เป็นต้นไป และจะถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันตลอดชีวิต

อาร์มสตรองวัย 41 ปี ถูกแบนจากยูซาดาไม่ให้ร่วมการแข่งขันใด ๆ ตลอดชีวิตเช่นกัน โดยเรียกเหตุอื้อฉาวครั้งนี้ว่า เป็นการใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันที่มีการกระทำกันอย่างซับซ้อน มีความเป็นมืออาชีพ และประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่วงการกีฬาเคยประสบมา


ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์